
ขุนช่างเคี่ยน ดอยอ่างขาง ขุนวาง I 3 ขุนเขาแห่งการชมดอกนางพญาเสือโคร่งบาน
ดอยอ่างขาง (Doi Ang Khang) จ.เชียงใหม่
ความสุขของ กะทิขุนช่างเคี่ยน ดอยอ่างขาง ขุนวาง I 3 ขุนเขาแห่งการชมดอกนางพญาเสือโคร่งบาน

ที่มาที่ไปของทริปนี้
"เมื่อลมหนาว calling มา - มัวชักช้าอยู่ใย - จะจ้องจอคอมอีกนานไหม - ทำไมไม่รีบออกเดินทาง"
แน่ใจว่านี่คือกลอน ฮ่า ฮ่า พยายามอ่านให้เป็นกลอนนะคะ พอลมหนาวโชยมา รีบเปิดตารางงานดู อ๋อ !! หลังปีใหม่งานยังไม่แน่น เข้าอินทราเน็ตออฟฟิศแป๊บ กดลาพักร้อนปั๊บ (ลาตั้งแต่ต้นปีกันเลยทีเดียว ฮ่า ฮ่า) งดรับงานทุกชนิด 4 วัน เพราะหนูจะไปตามหา (ภู) เขาสีชมพู
-------------------------------------------
พยากรณ์ช่วงดอกนางพญาเสือโคร่งบาน ( By me)
ถ้าถามว่าจะไปช่วงไหนให้เจอดอกนางพญาเสือโคร่งบาน เป็นอะไรที่บอกและคาดคะเนได้ยาก เพราะขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศในปีนั้น ๆ ถ้าอุณหภูมิลดต่ำพอ ใบไม้จะผลัดใบ และเริ่มมีดอกเบ่งบานปรากฎให้เราได้เห็น ซึ่งดอกนางพญาเสือโคร่งจะมีระยะการผลิบานประมาณ 1 เดือน ( ปลายเดือนธันวาคม - ปลายเดือนมกราคม) โดยเริ่มจากค่อย ๆ บาน จนผลิดอกเต็มที่ หลังจากนั้นจะเริ่มร่วงและมีใบไม้แซม ดังนั้นต้องดูช่วงเวลาดี ๆ อีกทั้งแต่ละสถานที่นั้นบานไม่พร้อมกัน แต่ก็บานไล่เลี่ยไม่ห่างกันเท่าไหร่ ง่าย ๆ ถ้าหนาวเร็ว อุณหภูมิลดลงต่ำเร็ว ก็มีแววว่าปีนั้นจะบานเร็ว เราได้นำช่วงเวลาที่บานดีที่สุดของปี 2557 - 2559 มาลองเทียบให้ดู สถานที่คือ "ขุนวาง" เผื่อเพื่อน ๆ จะได้ลองคำนวณเวลาคร่าว ๆ
ปี 2557 ประมาณวันที่ 9 - 18 มกราคม 2559 (บานช่วงเวลาปกติ เป็นปีที่บานเยอะ เป็นโค้งสวยงาม)
ปี 2558 ประมาณวันที่ 14 - 23 มกราคม 2559 (บานช่วงเวลาปกติ เป็นปีที่บานเยอะมาก เป็นโค้งสวยงาม)
ปี 2559 ประมาณวันที่ 4 - 11 กุมภาพันธ์ 2559 (บานช้า จนนึกว่าปีนี้จะไม่บาน สุดท้ายก็มา แต่มีใบแซมและไม่เยอะมาก)

-------------------------------------------
กำหนดการเดินทาง :
DAY 1 : เดินทางจากกรุงเทพ ฯ สู่จังหวัดเชียงใหม่ (นอนตัวเมืองเชียงใหม่)
DAY 2 : ชมดอกนางพญาเสือโคร่งขุนช่างเคี่ยน และเดินทางต่อไปดอยอ่างขาง (เช่ารถตู้/นอนบนดอยอ่างขาง)
DAY 3 : เที่ยวสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง กลับเข้าเมือง ชมพระอาทิตย์ตกดินที่ ม่อนแจ่ม (เช่ารถตู้/นอนตัวเมืองเชียงใหม่)
DAY 4 : ชมดอกนางพญาเสือโคร่งศูนย์วิจัยเกษตรหลวงขุนวาง ดอยอินทนนท์ เดินทางกลับกรุงเทพ ฯ
-------------------------------------------
DAY 1
20.30
ชาวคณะออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง สู่ ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ เรียกได้ว่าถึงเวลาเลิกงานปุ๊บ ก็แบกเป้มุ่งหน้าสู่สนามบินกันเลยทีเดียว คืนแรกเข้าพัก ณ Snooze Box Hotel ใกล้สนามบินตัวเมืองเชียงใหม่ บินมานอนพักผ่อนให้เต็มที่ก่อน เพื่อฟิตร่างกายพร้อมไปตะลุยในวันรุ่งขึ้น



DAY 2
07.00
ออกเดินทางจากที่พักโดยเช่ารถตู้ส่วนตัว สู่ "สถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน" เพื่อชมดอกนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งจุดที่ 1 ใช้ทางหลวงหมายเลข 1004 (ห้วยแก้ว-ดอยสุเทพ) เส้นทางเดียวกับทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพวรวิหาร ใช้เวลาเดินทางจากเชิงดอยประมาณ 30 นาที ระยะทางประมาณ 11 กิโล ถึง "วัดพระธาตุดอยสุเทพวรวิหาร" แวะสักการะพระธาตุดอยสุเทพ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต


08.30
เดินทางต่อไปยัง "ขุนช่างเคี่ยน" โดยเหมารถสองแถวจากบริเวณพระธาตุดอยสุเทพต่อขึ้นไป (เนื่องจากเส้นทางลำบากและแคบต่อการใช้รถตู้) ผ่านพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ดอยปุย จนถึง ขุนช่างเคี่ยน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ระยะทางประมาณ 14 กิโล ขุนช่างเคี่ยน หรือ สถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน เป็นหนึ่งในสถานีวิจัยของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งวิจัยเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์กาแฟ ไม้ผลเมืองหนาว ไม้ผลกึ่งร้อน และในช่วงปลายเดือนธันวาคม - เดือนมกราคม (ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ) หุบเขาแห่งนี้จะเต็มไปด้วยสีชมพูความสวยงามจากต้นนางพญาเสือโคร่ง








12.00
เดินทางลงจากขุนช่างเคี่ยน ต่อไปยังดอยอ่างขาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 107 (เชียงใหม่-ฝาง) ขึ้นเขาที่ กม. 137 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 165 กิโล มาเที่ยวฤดูนี้ตลอดทางขึ้นดอยอ่างขางเราจะเริ่มเห็นดอกนางพญาเสือโคร่งเริ่มบานสะพรั่งชมพูเคล้าสายหมอกสวยงามเป็นระยะ



16.00
เดินทางถึงตัว "ตลาดบ้านคุ้ม" ซึ่งตั้งอยู่หน้าทางเข้าสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ถือเป็นจุดรวมที่พัก อาหาร และร้านขายของมากมาย เป็นย่านที่ครึกครื้นที่สุด วันนี้เราเข้าพัก ณ บ้านเลาติง ตั้งอยู่ใจกลางตลาด ยามเย็นก็เดินออกมาชมตลาด และหาอาหารรับประทานท้าลมหนาวแบบฟิน ฟิน ฤดูนี้มองไปทางไหนก็เห็นสีชมพูของดอกนางพญาเสือโคร่งแซมสวยงามสะพรั่งไปทั่ว






DAY 3
ดอยอ่างขาง ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นดอยที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่งดงามอีกหนึ่งแห่ง รวมถึงเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวเขารวม 6 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านหลวง บ้านคุ้ม บ้านนอแล บ้านปางม้า บ้านป่าคา และบ้านขอบด้ง ซึ่งประกอบด้วยประชากร 4 เผ่า ได้แก่ ไทยใหญ่ มูเซอดำ ปะหล่อง และจีนฮ่อ สถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง สถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด พืชผักเมืองหนาว ดอกไม้เมืองหนาว ซึ่งมีภูมิอากาศเย็นตลอดปี ณ ที่แห่งนี้ พ่อหลวงของคนไทย ได้เปลี่ยนแปลงพื้นที่จากภูเขาหัวโล้น ให้กลายเป็นแปลงเกษตรเมืองหนาว ที่ทรงคุณค่าและความสวยงาม เพื่อสร้างอาชีพให้แก่ชาวเขาแทนการปลูกฝิ่น

05.00
ตื่นจากที่นอนอันแสนอบอุ่น เพื่อไปรับอรุณชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมทะเลหมอกบริเวณ "จุดชมวิวม่อนสน" พื้นที่บริเวณนี้มีลานกางเต็นท์ไว้บริการด้วย ตั้งอยู่ใกล้ฐานปฏิบัติการดอยอ่างขาง อยู่ห่างตัวตลาดบ้านคุ้ม ประมาณ 2 กิโล




08.00
ได้เวลาท่องเที่ยวบนดอยอ่างขางกันแล้ว เราเริ่มจากเที่ยวพื้นที่รอบนอกสถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง จุดที่ 1 "ไร่ชา 2000" หุบเขาเล็ก ๆ เคล้าสายหมอกที่สวยงามมาก เห็นแล้วรีบสูดโอโซนเข้าปอด บันทึกความสดชื่นให้ดวงตา






จุดที่ 2 "ไร่สตอเบอรี่ ดอยอ่างขาง" ไปชิมสตอเบอรี่มาก็เยอะ ไปเที่ยวไร่สตอเบอรี่มาก็มาก แต่ที่นี่ต้องให้เป็นที่สุดจริง ๆ ความสวยงามตามธรรมชาติ อาณาเขตกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เป็นขั้นลดหลั่นกันตามขุนเขา







หลังจากนั้นเราก็เดินทางเข้าไปเที่ยวพื้นที่ด้านใน ของสถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง จุดที่ 3 "สวน ๘๐ ปี" สวนที่รวบรวมพรรณไม้ดอกเมืองหนาวนานาชนิด ปลูกลงแปลงจัดแต่งอย่างสวยงาม ผลัดเปลี่ยนกันตามฤดูกาล เพื่อรอต้อนรับนักท่องเที่ยวมาเยือนชมความงาม






จุดที่ 4 "สวนบ๊วย สวนท้อ" อีกหนึ่งมุมไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด นั่งฟินใต้ต้นบ๊วย ที่แตกกิ่งก้านออกดอกสะพรั่งสวน






12.00
เดินทางลงจากดอยอ่างขาง กลับสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ 16.00 เราใกล้ถึงตัวเมือง เห็นพอมีเวลาเลยให้รถตู้พาเลี้ยวขึ้นแม่ริม ไปเที่ยว "ม่อนแจ่ม" แวะไปชมบรรยากาศยามเย็นกันสักนิด ที่นี่มากี่ครั้งก็สวย อากาศดีเสมอต้นเสมอปลาย ดอกไม้ก็สวยไม่สร่าง




19.00
เรากลับเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ เข้าพัก ณ The Artel Nimman Hotel มาเจอ แสง สี เสียง ย่านนิมมาน ฯ บ้างช่างดีต่อใจ ค่ำคืนนั้นก็เข้าร้านนั้นออกร้านนี้ไปเรื่อย หาร้านน่ารักนั่งชิลล์ไปน๊านนาน






DAY 4
08.00
เดินทางไปยังไฮไลท์สุดท้ายปิดทริปของเรา "ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง)" ตั้งอยู่บนดอยอินทนนท์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1009 (จอมทอง-อินทนนท์) ขึ้นเขาทางเดียวกับยอดดอยอินทนนท์ที่ กม. 57 ราวหลักกิโลที่ กม. 30-31 มีป้ายเลี้ยวขวาไปทางบ้านขุนกลาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 115 กิโล อีกหนึ่งสถานที่สำหรับชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่มาเห็นแล้วต้องร้องโอ้โห ถือว่าสวยงามส่งท้ายความประทับใจของทริปจริง ๆ ตื่นตาตื่นใจกับดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพูบานสะพรั่งไปทั้งหุบเขา เมื่อเทียบจากสถานที่ 3 จุด ที่ไปชมมา ขุนช่างเคี่ยน ดอยอ่างขาง และขุนวาง สำหรับทริปนี้ยกให้ดอกนางพญาเสือโคร่งที่ "ขุนวาง" คือที่สุด เพราะเป็นช่วงที่ดอกผลิบานสมบูรณ์สุด ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) เป็นอีกหนึ่งในโครงการตามพระราชดำริของในหลวง เป็นสถานที่ทดลองและขยายพันธุ์พืชบนที่สูง เพื่อส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่เกษตรกรบนที่สูง และเพื่อทดแทนการปลูกฝิ่น







ในพื้นที่มีปลูกต้นกาแฟด้วย หอมหวล ทำให้อยากดื่มกาแฟร้อน ๆ ท่ามกลางสายหมอกซะเหลือเกิน


13.00
ออกจากขุนวางเดินทางกลับเข้าตัวเมือง ระหว่างทางแวะ "ตลาดม้ง ดอยอินทนนท์" แวะช็อปปิ้งผลไม้ ซื้อของฝากกลับบ้านกันสักเล็กน้อย ใกล้ ๆ กัน มีแปลงปลูกดอกเบญจมาศด้วย เข้าไปขอแชะรูปแป๊บ




21.00
เดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ กลับสู่ กรุงเทพ ฯ ปิดทริปที่เต็มไปด้วย รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความฟินแบบสุดขีดของเรา
-------------------------------------------
สรุปค่าใช้จ่าย ( คนละประมาณ 5,000 บาท )
สมาชิกทริปนี้มีจำนวน 7 คน เลยมีหารร่วมมากเยอะหน่อย
ค่าตั๋วเครื่องบิน (ไป-กลับ) กรุงเทพ ฯ - เชียงใหม่ คนละ 1,390 บาท
ค่าเช่ารถตู้ CHOM CAR RENT พร้อมคนขับ จำนวน 3 วัน ราคาวันละ 1,800 บาท เฉลี่ยคนละ 772 บาท
ค่าเช่ารถสองแถว จากพระธาตุดอยสุเทพ ขึ้น ขุนช่างเคี่ยน ราคาเหมา 1,200 บาท (แอบแพง) เฉลี่ยคนละ 170 บาท
ค่าน้ำมันรถตู้ตลอดทริป เป็นเงิน 2,600 บาท เฉลี่ยคนละ 370 บาท
ค่าที่พักคืนที่ 1 Snooze Box Hotel คืนละ 900 / 3 ห้อง (ไม่คิดเตียงเสริม) เฉลี่ยคนละ 386 บาท
ค่าที่พักคืนที่ 2 บ้านเลาติง ดอยอ่างขาง คืนละ 1,500 / 2 ห้อง (นอนได้ห้องละ 4 คน) เฉลี่ยคนละ 429 บาท
ค่าที่พักคืนที่ 3 The Artel Nimman คืนละ 1,800 / 3 ห้อง (ไม่คิดเตียงเสริม) เฉลี่ยคนละ 771 บาท
เงินกองกลาง (ค่ากิน ค่าเข้าอุทยาน ค่ากระจุ๊กกระจิก) คนละ 700 บาท
-------------------------------------------
ท้ายที่สุดนี้ ถ้าชอบท่องเที่ยวสไตล์เรา ติดตามได้ที่เพจ "บ้านฉัน กาญจนบุรี"
เราทำขึ้น เพื่อนำเสนอสถานที่สวย ๆ เรื่องราวทุกแง่มุม ของบ้านเรา กาญจนบุรี สามารถติดตามได้ที่ : www.facebook.com/baanchan.kanchanaburi/