รีวิว Kalima Resort & Spa + ทริปดำน้ำเกาะรอก กับ Love Andaman
เกาะรอก, กระบี่ จ.
Bestie Wandererรีวิว Kalima Resort & Spa + ทริปดำน้ำเกาะรอก กับ Love Andaman
มาตะลอนเที่ยวไปกับเรา #คู่ซี้ตะลอนโลก www.facebook.com/bestiewanderer
Kalima Resort and Spa
พวกเราเดินทางช่วงวันที่ 30 เม.ย. - 2 พ.ค. 2016 ซึ่งตรงกับช่วงหยุดยาววันแรงงาน (มีความดองรีวิวข้ามปี) หลังจากวางแผนรวมตัวกับชาวแก๊งค์แบบปุ๊บปั๊บ และสะดวกเดินทางช่วงนี้เท่านั้น ช๊อยส์ที่เรารู้สึกว่าคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุดคือ เลือกจองแพ็คเกจ 3 วัน 2 คืน แบบ รวมทั้งที่พักที่ Kalima Resort and Spa (ห้อง Deluxe Room Sea View) และทริปดำน้ำเกาะรอก+เกาะห้า จาก Love Andaman ตอนนั้นราคาอยู่ที่คนละ 5,899 บาท
Kalima Resort & Spa Phuket อยู่แถวหาดกะหลิม ใกล้หาดป่าตอง เพียงแค่ประมาณ 10 นาที เป็นรีสอร์ทที่ไม่ติดหาด แต่...ด้วยความที่รีสอร์ทอยู่บนไหล่เขา ทำให้เห็นวิวทะเลแบบเต็มๆแบบ Panorama ไม่มีอะไรบังให้หงุดหงิดสายตา และสระว่ายน้ำที่นี่ถือว่าเป็นไฮไลท์ ใครชอบสระสไตล์ Infinity Pool ต้องหลงรักที่นี่แน่ๆ ตอนที่ไปพักไม่ได้ถ่ายรูปห้องพักมาเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะมีแต่รูปบรรยากาศโดยรวมของโรงแรมนะคะ
สระอีกด้านจะเป็นโซนที่ไม่ลึกมาก ประมาณระดับเอว และมี Pool Bar ให้สั่งเครื่องดื่มมานั่งจิบคลายร้อนกันชิลๆ
สำหรับใครที่จองห้อง Pool Access หรือ Private Pool Villa ก็จะมี Infinity Pool สวยๆส่วนตัวอยู่หน้าห้องตัวเองเลยแบบนี้
วันแรกที่ไปถึงเราใช้เวลาเล่นน้ำและนั่งชิลที่ Pool Bar ในสระกันตั้งแต่บ่ายยันเย็น เพลินจนลืมเวลากันไปเลยล่ะ!
ห้อง Deluxe Room Sea View ที่รวมมาในแพ็คเกจที่เราจองมา กว้างมากๆ เห็นวิวทะเลและตอนเย็นก็เห็นพระอาทิตย์ตกดินด้วย แถมยังมีอ่างให้แช่ชิลๆ ถ้ามากับแฟนคงโรแมนติกไม่เบาเลยทีเดียว
อีกหนึ่งที่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือห้องอาหาร MALIKA TERRACE ที่วิวสวยยยยยจับใจ เห็นวิวทะเลสุดลูกหูลูกตา ซึ่งไลน์บุฟเฟ่ต์อาหารเช้าก็จะจัดให้รับประทานกันที่นี่ด้วย เรียกได้ว่าอิ่มทั้งอาหารพุงและอาหารตากันตั้งแต่เช้าเลยทีเดียว
One Day Trip to Koh Rok
และแล้วก็ถึงเวลาเดินทางไปเกาะรอก! การเดินทางของเราเริ่มจากที่ Love Andaman จัดรถตู้มารับที่รีสอร์ทตอนเวลาประมาณ 7 โมงเช้า (ทางเจ้าหน้าที่จะโทรมาคอนเฟิร์มเวลาก่อนวันมารับหนึ่งวัน) นั่งรถไปประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงท่าเรืออ่าวน้ำลึก
หลังจากลงทะเบียนและรับริสแบรนด์แล้ว จะมีอาหารเช้า คุ้กกี้ แซนวิส เค้ก ชา กาแฟ ให้บริการรองท้องก่อนออกเดินทาง สำหรับใครที่กลัวจะเมาเรือสามารถขอยาแก้เมาเรือจากพนักงานได้ด้วย (เรากับเพื่อนก็ซัดไปคนละเม็ดเพื่อความสบายใจ จะไม่ไม่โอ้กอ้ากกลางทาง จะหมดเรี่ยวหมดแรงอดดำน้ำไปซะก่อน)
ระหว่างทางมาท่าเรือบอกเลยว่าน้ำตาจะไหล เพราะฝนตกกระหน่ำมากๆ จนคิดว่าคงอดไปแล้ว แต่!! โชคดีหรือใครแอบไปปักตะไคร้ไม่รู้ พอใกล้ท่าเรือปุ้บ...ฝนหยุดปั้บ! และตลอดทริปก็ไม่มีฝนมาอีกเลย เย่! แต่มีเมฆบ้างนิดหน่อยตามรูปด้านล่าง
การเดินทางไปเกาะรอกโดย Speed Boat ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศอีกที ช่วงเวลานี้แหละที่เหมาะที่ซู้ดกับการงีบหลับเอาแรงของเรา :P พอไกด์ส่งสัญญาณว่าเรือกำลังจะเข้าจอดที่เกาะรอกแล้ว ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะลุกมาถ่ายรูปกันไว้สักหน่อย น้ำนี่คือใสและสีสวยมากๆราวกับสระว่ายน้ำจริงๆ เราเคยไปเกาะตาชัยและเกาะหลีเป๊ะมาก่อนหน้านี้... ความเห็นส่วนตัวคือใสพอๆกันกับสองเกาะนั้นเลยแหละ ^^ คุ้มค่ากับการนั่งเรือมาเกือบสองชั่วโมงจริงๆ
หลังจากเรือจอด ทุกคนก็ใช้เวลาที่เกาะได้ตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะ snorkel เดินเที่ยวชมธรรมชาติรอบๆเกาะ รับประทานอาหารเที่ยงแบบบุฟเฟ่ต์ริมชายหาด ที่ใครๆก็รู้ว่า Love Andaman จัดเต็มเรื่องอาหารการกินมากๆ! แต่เรามัวแต่กินๆๆ และเล่นน้ำ เลยไม่ได้ถ่ายไลน์อาหารไว้บ้างเลย
ขากลับจะมีพาแวะว่ายน้ำ ดำน้ำตื้นส่งท้าย ณ จุดดำน้ำที่สวยที่สุดของ "เกาะห้า" ซึ่งเราได้เจอน้องนีโม่ที่นี่นี่เอง!
หลังจากนั่งเรือมาพักนึงก็ถึงเวลาดิ่งลงใต้น้ำตามหานีโม่กันแล้ว...
ระหว่างทางไปหานีโม่ ก็เจอฝูงปลาเล็กปลาน้อยเยอะมากกกก แหวกว่ายผ่านหน้าเราไป
ถ้าดูภาพนี้จะเห็นเลยว่าน้ำไม่ลึกมาก เพราะฉะนั้นใครที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะไม่เห็นปะการังสวยๆที่นี่ (แต่ต้องระวังขาเราจะไปโดนปะการังและหอยเม่นนะ)
ด้วยความที่น้ำทะเลตรงบริเวณเกาะรอกใสมากๆ ถึงวันที่เราไปฟ้าจะไม่โปร่งและไม่มีแดดเท่าไหร่ แต่ก็ยังมองเห็นใต้น้ำได้ชัดและสวยสุดๆ
หลังจากดำผุดดำว่ายกันได้ไม่นานเราก็ไปเจอรังนีโม่น้อยๆน่ารักๆแล้ว
มาป้ะนีโม่กันแบบ close up ซะหน่อย น่ารักตะมุตะมิที่ซู้ด! แต่...ถึงจะน่ารักขนาดไหนก็ห้ามไปโดนตัวน้องนีโม่เค้าน้า
ไปค่ะ! ยังไม่พอ! จับมือกันไป... ไหลตามน้ำตามไกด์ไปดูความงามใต้ท้องทะเลกันต่อ
ก่อนกลับ... ไกด์สุดแสนจะน่ารักของเราก็อาสาดำน้ำลงไปถ่ายรูปหมู่ให้เราเป็นที่ระลึกสักหน่อย เรียกได้ว่าบริการประทับใจตั้งแต่เริ่มทริปยันจบทริปกันเลยทีเดียว
ถ้าชอบรีวิวนี้ อย่าลืมกดไลค์และแชร์เป็นกำลังใจให้เรานะ :)
ติดตามอ่านรีวิวอื่นและแวะไปคุยกับเราได้ที่ช่องทางด้านล่างนี้
Facebook: https://www.facebook.com/bestiewanderer/