
หลบไปพักคนเดียว บนเกาะส่วนตัว กับ The Treasure Koh Madsum
เกาะมัดสุม จ.
LahBoe boeหลบไปพักคนเดียว บนเกาะส่วนตัว กับ The Treasure Koh Madsum
เรียกว่าอยู่อย่างราชา มาแบบแบคแพคเกอร์เลยก็ว่าได้ กับเกาะที่เพิ่งจะเคยได้ยินชื่อครั้งแรกในชีวิต "เกาะมัดสุม" ชื่อก็แปลก แล้วอยู่ส่วนไหนของประเทศไทยล่ะเนี่ย???
สายแบคแพคเกอร์อย่างเราไม่ค่อยจะได้พักที่พักที่ดีๆเหมือนคนอื่นเค้าหรอก เดินทางสายลุยมาก นั่ง นอน กิน ยังไงก็ได้ แต่ครั้งนี้มีผู้ใหญ่ใจดีมอบ voucher ให้เราได้ไปพักกันฟรีๆกันที่นี่ ที่พักสุดโรแมนติกที่ควรจะไปกับคนรัก แต่ไหงมาคนเดียวอีกแล้ว ได้มาเร็ว ตัดสินใจเก็บกระเป๋าเลยหลังจากรับ voucher มา โหยยยยย....ใจร้อน ก็คนมันอยากรู้ว่ามันเป็นยังไง
แต่...จะไปยังไงล่ะ หาข้อมูลการเดินทางแทบไม่มี ส่วนใหญ่มีแต่คนเอารถส่วนตัวไป สายแบคแพคอย่างเรา ครั้งนี้เรียกว่ามหากาพย์การต่อรถมากๆ แต่ก็สนุกมากในการเดินทางเหมือนกัน แต่ไปถึงที่หมายแล้วคุ้มค่ากับการเดินทางจริงๆ
ตามเราไปเที่ยวบนเกาะชื่อแปลก พักผ่อนกาย พักผ่อนใจ บนเกาะเงียบๆที่นี่กันเลย

สาระไม่ค่อยมี เนื่องจากหาข้อมูลมาน้อย เดินทางสายแบคแพคเกอร์ด้วยการนั่งรถไฟฟรี (เหมือนเดิม5555) คราวนี้จะไปนั่งไปลงชุมพรละ นั่งไปสุราษฎร์ธานีเลยครั้งนี้ ขึ้นรถไฟฟรีจากจากกรุงเทพ 13.00 น. ถึงสุราษฎร์ ตี 3 เกือบ ตี 4 รอที่สถานีเกือบๆเช้า ขณะรอก็ถามชาวบ้านเค้าไปทั่วว่าจะไปสมุยยังไง เอาจริงๆไม่เคยนั่งรถไฟไปสมุยนั่นแหละ โก๊ะๆ ถามเค้าไปเรื่อย สรุปมีป้าใจดีบอกเราว่ารอตรงนี้แหละ เดี๋ยวประมาณตี 5 มีคนมาถาม เค้าจะพาไปขึ้นรถตู้ข้ามเรือ
เป็นรถกระบะทำเป็นสองแถว เราขึ้นรถมากับฝรั่งอีกคน คุยก็ไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก แต่เสน่ห์ของการเดินทางมันอยู่ที่เรากล้าและพยายามนี่แหละเพราะแบคแคพเกอร์ส่วนใหญ่ที่เจอนี่แทบไม่มีคนไทยเลย ถือว่าฝึกภาษาไปในตัว เจอผู้หญิงมาเที่ยวคนเดียวอีกแล้วครั้งนี้ นางชื่อ Guly มาจากสวิสเซอร์แลนด์ ภาษาไม่แข็งแรง อังกฤษนางก็ฟังยาก ผู้ร่วมชะตากรรมนั่งสองแถวมาจากสถานีรถไฟกัน 2 คน กระเป๋านางยิ่งใหญ่รัชดาลัยเธียร์เตอร์ บ้าหอบฟางเหมือนกันนั่นแหละ ถามเราว่ามีตั๋วต่อเรือรึยัง หึๆ ไม่มีค่ะ อ๋อ...เซมเซมมีเหมือนกันทุกอย่างเลยนะ เป็นมนุษย์ที่หาเอาดาบหน้า ดูนางตื่นเต้นกับทุกอย่างที่เห็นในเมืองไทย สองแถวดิสฟาสสสสสสสส!!! 555555 นางมาอยู่เป็นเดือน ชอบเมืองไทย เพราะเมืองไทยสวยมาก ชวนคุยตล๊อด! (วันนี้เป็นคนท้องถิ่นให้นางคุย) ก็คุยรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างเนาะ หึหึ จะเช็คอินภาษาไทย ให้ช่วยอ่านไทยด้วย นางถามรูปนี้ King หรือเปล่า good หรือ bad เราบอก โหยยยยยย....very good มากนะ Thai people love him มากนะ #ภาษาอังกฤษมือเป็นระวิง ใช้เวลาสอนนางนานมาก กว่านางจะพูดว่า ภูมิพลอดุลยเดชได้ สักพักก็บ๊ายบาย...รถนางมาก่อน ส่งนางขึ้นรถไปเกาะลันตา ส่วนเรา...รอรถต่อไป มาตั้ง 07.00 น. ก็ไปหาอะไรกินก่อน

ขณะรอรถก็เล่นกับแมวตามประสาทาสแมว คุยกับคนขายตั๋วรถ อ่อ..ลืมบอก ค่าสองแถวขามา 150 บาท ค่าตั๋วรถตู้กับเรือรวม 550 บาท ค่าข้าวเช้ากินนั่นนี่ 70 บาท มาพักฟรีนะ แต่ยอมเสียเล็กๆน้อยๆแหละ เพราะเห็นที่พักแล้วคุ้มกับที่เสียไปเล็กๆน้อยๆจริงๆ อ่ะ....เข้าเรื่องแมวต่อ
#แมวทุกตัวมีเรื่องราว เจ้าของร้านบอกว่าเมื่อ 7 ปีที่แล้ว มีคนเอามาใส่กล่องแล้วทิ้งไว้ร้านข้างๆ ชื่อร้านริชชี่ เลยตั้งชื่อว่าริชชี่ ริชชี่ท้อง และลูกตายในท้อง จึงต้องพาไปรักษา เลยเลี้ยงมาตลอด เมื่อ 2 ปีก่อนก็โดนรถชนสะโพกหัก หมดไป 6 พัน ทำไงได้ ก็เลี้ยงไปแล้ว แต่หลังจากนั้นก็ถูกหวย #แมวสามสีให้โชค ไปไหนไกลไม่ได้ เป็นห่วง ต้องรีบกลับ กลับมาก็ร้องหาหง่าวๆ เด็กแถวนี้เคยมือบอนเอาริชชี่ไปตัดหนวดด้วย #โถเวรกรรมอะไรนักหนานะลูก ตอนนี้ทำหมันอ้วนตุ้ย ตัวนิ่ม ขนสวยมาก

ได้เวลาขึ้นเรือละ

รถตู้ออก 07.30 น. ถึงท่าเรือ 08.30 น. 09.00 น. เรือซีทราน ออกจากท่าเรือเฟอรี่
ถึงสมุยแล้ว จะไปยังไงต่อ งานยากเลยทีนี้ มีแต่คนบอก โทรถามทั้ง พนง.รีสอร์ท และถามชาวบ้าน ส่วนใหญ่ต้องเหมารถหมดเลย เพื่อจะไปต่อที่ท่าเรือท้องโตนด จะไปยังเกาะมัดสุม เปิดแผนที่ในเน็ตตลอดทาง ที่สำคัญต้องทำเวลาด้วย เพราะเรือที่จะไปเกาะมีอแต่เรือของที่รีสอร์ทเท่านั้น มีไป-กลับแค่วันละ 3 รอบเท่านั้นอีก ขาไป 07.00 / 12.00 /16.30 ขามา 08.30 / 13.00 /17.30 อิแม่จะเป็นลม!! เอาตัวรอดด้วยการคิดอะไรไม่ออก ขึ้นสองแถวก่อนค่ะ แต่...สองแถวจอดแค่ปากทางเข้า ต้องเข้าไปอีกหลายกิโล โอย...จะเป็นลมหนัก นี่แหละสีสันของขีวิต โทรถาม พน. เค้าก็ดูไม่ค่อยรู้เส้นทาง เอาล่ะ....สายแบคแพคนี่หนีไม่พ้นอยู่แล้วเรื่องนี้ โบกรถค่ะ!!!
เห้ย...ไม่มีใครจอดเลย บางคนจอดแต่ก็บอกว่าเข้าไปไม่ถึง ตัดสินใจเดินค่ะเดิน กลัวไม่ทันเรือรอบเที่ยง ใกล้เวลาเข้าไปทุกที เดินไปเจอช่างซ่อมรถหน้าโหด 2-3 คน เสี่ยงมากที่ไม่กลัวเลย กลัวเค้าลากเข้าป่า นาทีนั้นจำเป็น ขอให้เค้าไปส่ง บอกว่าเดี๋ยวให้ค่ารถ เห้ย...พี่เค้ามาส่งจริง โหยยยยยยย ทางเข้าไปเป็นกิโลๆเลย ระหว่างทางพี่เค้าบอกแฟนเคยทำงานที่นั่น เลยรู้จักทางเข้า ส่วนใหญ่ พนง.ก็นั่งเรือข้ามเกาะมาพักอีกฝั่ง ถึงท่าเรือพี่เค้าบอกไม่เอาตังค์ด้วย ควักให้ 100 นึง มันไกลและร้อนจริงๆ อุตส่าห์มาส่วไปกลับ หาคันอื่นไม่ได้เลย ขอให้เค้ารับตังค์จากเราพี่เค้าก็รับ หึๆ ทีนี้แหละ ขากลับจะกลับยังไง มาถึงแล้ว ท่าเรือท้องโตนด โอ้ยยยยยย...แค่ท่าเรือก็สวยมากกกกกกกกก เลยถ่ายรูปซะหน่อยระหว่างรอ มีนักท่องเที่ยวคนไทยมากับครอบครัวสามสี่คน อาม่า อาอึ้ม ที่จะเดินทางไปกับเราครั้งนี้ มี พนง.จากทางรีสอร์ทมารอและหิ้วกระเป๋าให้










ระหว่างทาง ก็ชมนก ชมไม้ ชมทะเล มองไปไกลๆ น่าจะเป็นเกาะที่อ่านเจอมา "เกาะแตน" เกาะที่เลี้ยงหมาไม่ได้ พาหมาไปไม่ได้ ตายหมดทุกตัว ตายที่เกาะเลย ถามคนแถวนี้บอกว่าสาเหตุหาไม่ได้ จะวิทยาศาสตร์ หรือไสยศาสตร์ ไม่มีใครรู้ อาการของน้องหมาคือปล่อยลงเกาะแล้วจะวิ่งพล่านเหมือนทรมาน แล้วตายในที่สุด นักท่องเที่ยวบางคนไม่เชื่อ ลองดูแล้ว แต่น้องหมาตายหมด เลยไม่มีใครอยากลองอีกเพราะสงสารน้องหมา กับสัตว์อื่นไม่เป็น เป็นเฉพาะหมาด้วย เรื่องนี้แปลกจริงๆแหละ เป็นสถถานที่ท่องเที่ยวด้วยนะเกาะแตน



ห่างจากเกาะสมุย 30 นาที แป๊บเดียวจริงๆ กำลังสบาย ลมพัดตึงๆอยู่เลย




ทะเลสวย น้ำใส เงียบ สงบมาก แต่ต้นไม้ด้านนอกแอบแห้งแล้งไปหน่อย




ที่พักที่เราจะไปพักนี้ เมื่อก่อนเป็นในเครือของโรงแรมยู ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องสถานที่ตกแต่งว่าสวยงามอยู่แล้ว แต่เหมือนเปลี่ยนระบบ มีการเปลี่ยนแปลงช่วงที่เรามาพอดี เลยเปลี่ยนชื่อเป็น The Treasure Koh Madsum บริการหลายอย่างเหมือนเดิม พนง.น่ารัก อยู่ตรงไหน หลืบไหน เค้าจะมองเห็นเรา ไหว้ตลอด แต่ก็จะไม่ก้าวก่ายความเป็นส่วนตัว เราสามารถพักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัว ไม่รู้สึกว่ามี พนง.มาแอบมอง ถึงซะที



welcome drink เป็นน้ำอัญชัญ ผสมแมงลัก มา 2 แก้ว ทุกอย่าง สองๆๆ หมด เอ๊ยยยยย มาคนเดียว พนง.งานยังถาม มาคนเดียวเหลอคะ อ้าว....จะพาใครมา ที่นี่เค้าเหมาะกับพาแฟนมา ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง พาไปห้องก่อน เพลียมาก อยากอาบน้ำ งืออออออออ..... เราได้ห้องศาลาวิลล่า ที่อื่นมีสระน้ำหมด รวมบ้าง หน้าห้องบ้าง แต่เราพื้นที่จะกว้าง เป็นแบบในสวนนิดนึง ต้นไม้เยอะ ตกแต่งด้วยไม้และวัสดุอย่างดี มีมุมอ่านหนังสือ เอาเป็นว่ารีวิวอื่นเค้ารีวิวหลายห้อง เราขอรีวิวเฉพาะห้องที่เราพักแล้วกัน ทางเดินไปห้องพักนี่ทำเอาหลงได้เลย เหมือนๆกันหมด




ราคานี้เราก๊อบมาจากเพจของ The treasure Koh Madsum ไม่แน่ใจว่ามีการเปลี่ยนแปลงยังไงบ้าง ยังไงต้องสอบถามเค้าเองอีกทีนะ

เอาจริงๆ ไม่เคยรีวิวให้สถานที่ที่ไหนเป็นพิเศษ ปกติเที่ยวตามใจ แต่นี่พิเศษเพราะเราได้พักฟรี เลยต้องขอแนะนำซะหน่อย เข้าห้องกันเถอะ






มาคนเดียว แต่หมอนทั้งข้างนอกข้างใน มีประมาณ 20 เอาให้ไว้นอนกลิ้ง




ทุกอย่างในตู้เสื้อผ้า ตู้เย็น สองๆๆ หมด แต่มาคนเดียว บรรยากาศโคตรน่าฮันนีมูน กลิ่นสมุนไพรหอมลอยอบอวลห้องน้ำ



ข้อความต้อนรับเป็นภาษาอังกฤษมีชื่อเรา จะเสียบไว้ในขวดแก้ว







โน้ตบุ๊คเราเอามาเองนะ ไม่ใช่ของที่นี่ wifi แรง เลยเอามานั่งเขียนรีวิวอื่นซะหน่อย

ตัดภาพมาที่กลางคืน ก็จะเป็นอีกอารมณ์



ห้องน้ำอบอวลมาก ดมเยอะ เวียนหัวเลย



อาบน้ำด้านนอกได้ พื้นไม้ แต่ร้อนเลยแหละ







อาบน้ำ พักผ่อนแป๊บนึงก็มาเดินสำรวจเกาะ คิดไงไม่รู้ เดินไปด้านหลังก่อนเลย และก็ได้พบกับสิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับเราคือ
ปะการัง!!!!
ทะเลและปะการังสีดำเต็มไปหมด จะร้องไห้ เราเที่ยวทะเลบ่อย แต่เรากลัวปะการัง


มันไม่ใช่ที่สวยๆ แต่มันคือซากที่ตายแล้ว เกาะทับถมกันเป็นจำนวนมาก มารู้ทีหลังตอนคนที่นี่เล่าให้ฟังขากลับ ว่าความจริงแล้ว ที่นี่เค้าเรียกเกาะไข่มุก เอาไว้ทำไข่มุก ปกติจะไม่มีใครมา ก็มีรีสอร์ทที่เดียวบนเกาะนี่แหละที่เริ่มมีนักท่องเที่ยวมาแล้ว แต่พักได้ที่เดียว บางคนมาก็แวะมาดำน้ำแล้วกลับขึ้นฝั่ง



ตัดภาพมาที่ของสวยๆงามๆกันเหอะ ใจหายใจคว่ำมาพอสมควร ที่เดินมาฝั่งนี้เพราะมาดูสระที่เราจะเล่นน้ำกันคืนนี้และพรุ่งนี้ แน่ใจศาลาวิลล่าที่เราอยู่กว้างจริง แต่ไม่มีสระว่ายน้ำ แต่เรามาว่ายที่นี่ได้ เลยเหมือนสระส่วนตัว ไม่มีใครเล่น มาวันธรรมดาด้วย นักท่องเที่ยวนับคนได้เลย มีแต่ชาวต่างชาติ คนไทยก็ครบครัวที่ขึ้นเรือมากลับเราตอนแรกนั่นแหละ ไม่มีจักรยาน หรือมอเตอร์ไซค์ให้แว๊น ก็ได้แต่เดินไปเดินมาและเล่นน้ำ ความจริงมีกิจกรรมฟรีให้ลูกค้า ทั้งนวดสปา (แต่ต้องแจ้งล่วงหน้าเพราะต้องนำคนนวดมาจากฝั่งสมุย) พายคายัก ดำน้ำ ซึ่ง ปะการังเยอะ กลัว เลยไม่ค่อยเข้าใกล้เท่าไหร่ เล่นน้ำริมๆทะเลกับในสระก็พอ แหะๆ
เราจะต้องมากินข้าวตรงนี้ มาเล่นน้ำตรงนี้ มีทั้งสระเด็กสระผู้ใหญ่













