“เปรโต๊ะลอซู เธอก็รู้ว่าฉันยังรอ...เมื่อไหร่ฝนจะหยุดโต๊กกกกก” น้ำตกปิตุ๊โกร เปรโต๊ะลอซู ณ หน่วยพิทักษ์ป่ากุยเลอตอ อุ้มผาง จ.ตาก : 28-29 ก.ค. 60
เปรโต๊ะลอซู จ.ตาก
Mink Sriphrai Aramklua“เปรโต๊ะลอซู เธอก็รู้ว่าฉันยังรอ...เมื่อไหร่ฝนจะหยุดโต๊กกกกก” น้ำตกปิตุ๊โกร เปรโต๊ะลอซู อ.อุ้มผาง จ.ตาก
“เปรโต๊ะลอซู เธอก็รู้ว่าฉันยังรอ...เมื่อไหร่ฝนจะหยุดโต๊กกกกก” น้ำตกปิตุ๊โกร เปรโต๊ะลอซู ณ หน่วยพิทักษ์ป่ากุยเลอตอ อุ้มผาง จ.ตาก : 28-29 ก.ค. 60
“เมื่อความเหงาเข้าครอบงำ ทำให้ฉันต้องเดินทาง”
เนื่องจากหยุดยาว 3 วัน มันจะทำให้เหงาๆไปสักหน่อย อยากหาสถานที่ไปเที่ยว เอ้...ไปไหนดีน่า
กลางวงเหล้าก่อนเดินทาง 1 วัน (เราเข้าพรรษานะ)
พี่ : วันหยุดไปเที่ยวไหนวะ?
เรา : ไม่รู้ว่ะพี่ แต่ว่าจะไปเขาหลวงสุโขทัย
พี่ : เออ อยากไปซ้ำอีกรอบเหมือนกัน แล้วเอ็งไปกะใคร
เรา : คนเดียวดิพี่!
ผู้ร่วมวงทุกคน : เมิงงงง บ้าปะเนี้ย!!! อันตราย
เรา : ก็ไม่มีใครไปด้วยนิ
พี่ : ไป เปรโต๊ลอซูกับกรูป่าว เผื่อยังมีตั๋วว่าง
เรา : ไปดิๆๆๆๆๆๆๆๆ (ได้ไปเที่ยวล่ะ โว้ยยยย!)
นั่นแหละฮะ คือจุดเริ่มต้นของกลางเดินทางครั้งนี้ ซึ่งเราไม่ได้เตรียมตัวอะไรไว้ก่อนเลย เราเริ่มเก็บของเช้าวันเดินทาง ก่อนไปทำงาน หยิบอะไรได้ก็โยนๆใส่กระเป๋าไป ได้ใช้บ้างไม่ได้ใช้บ้าง
“ถึงจะเที่ยวบ่อย แต่มันก็ตื่นเต้นทุกครั้งแหละ ที่ได้ออกเดินทาง”
28-07-2560
เราเดินทางช่วงเย็นวันพฤ. เลิกงานปุ๊บก็เด้งปั๊บ รีบวิ่งไปคว้ากระเป๋า ยืนรอพี่มารับที่หน้าปากซอย นั่งรถแท็กซี่มุ่งหน้าไปยัง สถานีขนส่งหมอชิต 2 จุดนัดพบของนักเดินทาง
20.30 น. ได้เวลารวมพลแล้ววว.. ทุกคนมารวมตัวกันที่หน้าประตู 4 ชานชลา 118 แนะนำทำความรู้จักกัน เพราะทุกคนต่างมากันคนละที่ รวมตัวกันได้เพราะ....เอ่ออออ เพราะอะไรว่ะ ฮ่าๆ
“การเดินทางทำให้เราได้เจอเพื่อนใหม่ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ๆที่เรายังไม่เคยได้สัมผัส”
21.00น. รถพร้อม พลขับพร้อม ผู้โดยสารพร้อม รถออกมุ่งหน้าสู่อำเภอแม่สอด จุดหมายปลายทาง บขส.แม่สอด จ.ตาก ...คือเราได้ตั๋วใบที่นั่งใบสุดท้ายอะนะ มันจะอยู่หน้าห้องน้ำ แล้วมันก็จะเหม็นๆหน่อย อ๊ากกกกกกก!!!
07.00น. เย้! ถึงแล้วแม่สอด พวกเรารีบลงจากรถ ล้างหน้าล้างตา ทำธุระให้เสร็จอย่างรวดเร็ว จัดแจงเก็บของขึ้นรถสองแถว คุณลุงขาซิ่ง ที่ได้ติดต่อไว้ พาพวกเราไปยังจุดหมายปลายทางที่อุ้มผาง ระยะทางจากแม่สอดไปถึงอุ้มผางนั้น ก็เบาๆนะ 164 กิโลเมตร แค่ 1219 โค้ง เท่านั้นเอง แค่ทำให้สมาชิกของเรากระอักกระอวนมวนท้อง พุ่งของเหลวออกมา ฮ่าๆๆๆๆ
“ทุกเส้นทางมีสิ่งท้าทายเราอยู่เสมอ”
ใน Route 1090 นั้นก็เช่นกัน แม้จะเคยพิชิตมาแล้ว ในครั้งที่ไปทีลอซู แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะต้องมีการการวิงเวียนคล้ายจะเป็นลม ถึงกับต้องใช้ยาดมตาโปเซียนกันเลยที่เดียว ใครที่เมารถก็กินยาแก้เมาเมารถมาก่อนนะช่วยได้ดี
“เมารถก็แค่พัก ถ้าเมารักก็ตัวใครตัวมันนะ ฮ่าๆๆๆๆๆ”
เราใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงในการเดินทางมาถึงอุ้งผาง คุณลุงขาซิ่งได้พาพวกเราไปยังจุดจัดของให้ลูกหาบที่นัดไว้ จากนั้นพวกเราก็จัดของอะไรไม่ใช้ก็ทิ้งๆไว้ก่อน เอาชุดไปสองชุดก็พอ เมื่อจัดแจกสัมภาระเสร็จ ลงชื่อผู้เข้าเดินป่า กี่คน พักพี่วัน หลังจากนั้นได้เวลาขนของขึ้นรถและเดินทางต่อไปยังจุดปล่อยตัว ณ หน่วยพิทักษ์ป่ากุยเลอตอ
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ไม่ต่างอะไรกับเส้น 1090 ได้แต่รอเพลงในใจ “โยกๆ โยกเข้าไปให้มันหลุดโลก....”
ณ หน่วยพิทักษ์ป่ากุยเลอตอ
เมื่อมาถึงให้เราชำระค่าเข้า และถ้าใครต้องการลูกหาบก็สามารถติดต่อได้ตรงนี้ เพราะมีลูกหาบมารอให้บริการทุกวันนะจ๊ะ เอ้ออ...เราต้องจ้างคนนำทาง 1 คนด้วยนะ อันนี้เจ้าหน้าที่เค้าบังคับ หลังจากชำระเงินเตรียมตัวเรียบร้อยก็ได้เวลาลุยกันเล๊ยยยย Let! Goooo!!!
ด้านแรกก็เจอรับน้องเละซะแล้ว แฮร่! ทางเข้าแรกก็เละซะขนาดนี้ ไม่ทันได้เตรียมใจจริงๆ
“คุณกิตติค่ะ! สถานการณ์น้ำตอนนี้น่าเป็นห่วงมากเลยค่ะ”
เดินเขามาประมาณ 50 เมตรเราก็จะเจอกันลำธารสายน้ำน้อยค่อยๆไหล หรอ..แกร ตัวฉันจะปลิวแล้วเนี้ย หื้ยยยย!!!
เดินยำตอกมาเรื่อยๆ ผ่านบรรยากาศข้างทาง พร้อมกับสายฝนโปรยปรายลงมา ลื่นแล้วก็ล้ม ลื่นแล้วก็ล้มกันตลอดทาง เดินไปก็ถามตัวเองไปว่าเดินมาทำอะไรตรงนี้ T_T
“แม้ทางจะลำบากแค่ไหน ต้องไปให้ถึงเส้นชัย เราจะภูมิใจที่ได้พิชิต”
เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมงกว่าๆ เข้! ถึงแล้ววุ้ยยยยยย! ถึงจุดกางเต้นแล้ววว จะได้เล่นน้ำแล้ว จะได้อาบน้ำแล้ว จะได้กินข้าวแล้ว เย้ แต่.....ฝนเจ้ากำ ก็ยังไม่หยุดตกเสียที จะกางเต็นท์อย่างไรเล่า ทันใด้นั้นลูกหาบของเรา ได้เอาผ้าใบแผ่นใหญ่มากางเป็นหลังคาให้พวกเรา แล้วเรา....ก็หนีลูกหาบไปเล่นน้ำตก ฮ่าๆๆ
ตอนนี้อิ่มแล้วอยากนอนแล้ว แต่เราต้องอาบน้ำก่อน ที่ตั้งแคมป์มีห้องน้ำนะ สะอาดใช้ได้เลยที่เดียวแต่พวกเราจะไปอาบน้ำที่น้ำตกกัน เมื่อเดินไปถึงน้ำตกต้องตกใจสีน้ำเริ่มเปลี่ยนขุ่นขึ้น น้ำไหลแรง และปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รีบอาบรีบขึ้นนะ มันไม่ปลอดภัยสักเท่าไร ช่วงนี้พายุเข้า การเที่ยวน้ำตก อยู่ใกล้ลำธารหรือที่ไหนๆก็แล้วแต่ต้องระมัดระวังนะคะ เพราะสามารถเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นเสมอได้ อย่าประมาทดีกว่านะจ๊ะ
พวกเราเหล่ามาชุมนุมประชุมใจรักสมัครสมาน เฮ้! พวกเรารวมผลกันที่เต็นท์ของพี่ผมฮะ มานั่งฟังเพลง เม้าท์มอย หอยลายผัดฉ่า (บาทสองลบาทก็เล่นฮ่าๆ) เวลาผ่านไป เนื่องด้วยพวกเราเดินทางมาทั้งวัน ร่างการอ่อนล้า จึงแยกย้ายกันไปนอน เพื่อจะได้มีแรงไปหาหาหัวใจกันในวันพรุ่งนี้
29-07-2560
เช้าแล้วยังอยู่บนที่นอน เงียบๆคนเดียวและไม่อยากตื่นนนน ไม่อยากตื่นเล๊ยยจริงๆ แฮร่ เช้านี้ตื่นขึ้นมานั่งดูแม่ครัวหุงข้าว ให้กำลังใจนะ เตรียมเสบียงสำหรับวันนี้ เพื่อไปทานตอนเที่ยง พวกเราแยกย้ายกันชำระร่างกายเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางไปหาหัวใจแห่งอุ้มผาง
หลังจากก้าวออกจากเต็นท์ได้ไม่นาน ฝนจ๋า ฝนก็เทลงมา เททั้งวันทั้งคืน แต่เราจะไม่หยุดเราต้องไปถึงน้ำตกให้ได้ สำหรับเส้นทางในวันนี้นั้น ทางชันในบางช่วง ต้องใช้การขับเคลื่อนสี่ล้อ (สองมือสองเท้าเรานี่แหละ) ก็ลื่นกันไปตามระเบียบนะ ใครไม่ลื่นถือว่าไม่ลื่นนะ ฮ่าๆ (มั่นใจว่านี่มุข) ใช้เวลาเดินมา เกือบ 2 ชั่วโมง
เ_ดเข้!!!!!! ถึงแล้วโว้ย อย่างสวย สวยมาก น้ำเยอะมาก ตื่นเต้นมาก เห็นเป็นรูปหัวใจชัดเจนมากเลยนะ ไม่รอช้าฮะ หลังจากเก็บกล้องกันมานานแสนนาน แม้กล้องจะเปียก กลัวราจะขึ้นจังหวะนี้ก็ต้องควัก ควักหัวใจออกมาเอาออกมาพิสูจน์ เอ้ย ยังจะตลกอี้กกก ควักกล้อง คว้าโทรศัพท์แฉะภาพเก็บบรรยากาศประทับใจ สูดบรรยากาศที่สวยงามเหล่านี้เก็บไว้เป็นความทรงจำ
“น้ำตกปิตุ๊โกร” น้ำตกที่อยู่บนดอยเทือกเขาสามหมื่น ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อ.อุ้มผาง จ.ตาก เป็นน้ำตกที่ได้ขึ้นชื่อว่าใหญ่และสูงที่สุดในเมืองไทย ด้วยความสูงกว่า 500 เมตร
“ทางไกลแค่ไหนไม่สำคัญ จุดมุ่งหมายเดียวกันก็พอ”
เมื่อได้ถ่ายรูป เพลิดเพลินกับน้ำตกเปรโต๊ะลอซูกันอิ่มหน่ำแล้ว ก็ต้องถึงเวลาเตรียมตัวกลับแล้วแหละ ระหว่างเดินกลับที่พักพวกเราก็ได้แวะเล่นลำธารของน้ำตกกลางทาง ให้ชื้นชำหัวใจกันสักหน่อย แต่ก็นะงานเลี้ยงย่อมีวันเลิกรา เราต้องรีบไปทานข้าวที่เต็นท์และเก็บสัมภาระเพื่อกลับลงไปขนรถที่ขนส่งแม่สอดให้ทันตอนสามทุ่ม ตอนเดินมาเราแบกของเองส่วนตอนกลับฝากพี่ๆลูกหาบ เพราะอาหารการกินเราได้ทำลายลงกระเพาะหมดจนไม่ต้องแบกกลับนะ ฮ่าๆๆ
เส้นทางขากลับดูท่าทางจะเละเทะกว่าเมื่อวานมากเลย เนื่องจากฝนที่เทลงมาตอนกลางคืนอย่างไม่หยุด แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคของพวกเรานะ เพราะเราจะลื่นแล้วก็ล้มไปด้วยกัน แฮร่
“การเดินทางจะทำให้คุณได้พบกับมิตรภาพที่ดีระหว่างทาง ไม่สำคัญหรอกว่าคุณจะรู้จักกันหรือไม่ ประสบการณ์ระหว่างทางจะทำให้คุณรักที่จะเดินทางมาขึ้น”
14.00 น. เป็นเวลาที่เรานัดคุณลุงขาซิ่งไว้มารับ เราลงมาถึงจุดนัดพบพอดีเวลาแปะเลย จากนั้นไม่รีรอ เคลื่อนย้ายตัวเองขึ้นรถ กลับไปยังที่เก็บของเมื่อวาน ทำการอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อมุ่งหน้าสู่ตัวเมืองแม่สอด ขากลับคุณลุงซิ่งกว่าเดิม เหมือนคุณลุงกำลังถ่ายหน้า Fast 9 อยู่ รถกระบะสวนทางโค้ง ลุงไม่เบาเลยจ้า เหยีบสวนเลยจ้า ผมนี่หัวใจจะวาย ฮ่าๆๆๆ แต่พวกเราก็มาถึงขนส่งแม่สอดได้ทันเวลาและปลอดภัยหายห่วงนะ ต้องขอบคุณคุณลงมาๆเลยนะคะ ที่พาถึงขนส่งโดยสวัสดิภาพ
ถึงขนส่งแล้ว ก็ต้องไป..... กินค่ะ หมี่เกี๊ยวหมูแดงหน้าขนส่งแม่สอด อร่อยสุดๆ ใครมาอย่าลืมแวะมากินน้า เติมพลังแล้วได้เวลาขนรถกลับ กรุงเทพฯ “งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราเหมือนมาม่ายังมีเส้น ตึ๊งโป๊ะ!”
“ได้เวลาบอกเวลาเพื่อนเดินทาง แม้ต้องไกลห่างแต่ความทรงจำยังไม่จางหาย”
ขอบคุณพี่ๆทุกคนนะที่พาผมไปตามหาหัวใจแห่งอุ้งผาง ถ้าพี่ๆไม่ได้จัดทริปผมก็คงไม่รู้จะไปเที่ยวไหน ขอบคุณมิตรภาพดีๆที่มีให้กัน แล้วพบการใหม่ในทริปหน้า เมื่อพวกเราต้องการ อิอิ
ภาพถ่าย : มือถือกันน้ำ, Action Camera, และกล้องใหญ่ของพี่ๆ
ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
ค่ารถ บขส. ไป - กลับ ประมาณ 800 บาท
ค่ารถ ลุงมารับที่ แม่สอด - อุ้มผาง - ทางเดินขึ้นน้ำตก / ไปกลับ ประมาณ 6500 บาท
ค่าอาหารและของเบ็ตเล็ต 1300 บาท
ค่าลูกหาบ 2000 บาท
ค่าใช้จ่ายเฉลย 7 คน ประมาณคนละ 2200 บาท
ติดตามผลงานกันได้นะจ๊ะ แฮร่
Page : http://fb.me/allergymountain/
IG : penguin_mink
