Quantcast
Channel: theTripPacker
Viewing all articles
Browse latest Browse all 3102

อุบลราชธานี..ดีต่อใจ

$
0
0
อุบลราชธานี..ดีต่อใจ

อุบลราชธานี..ดีต่อใจ

อุบลราชธานี จ.

Kamol Phapoom

อุบลราชธานี..ดีต่อใจ


c7a2c582-ae21-61cc-adeb-59c674184b10.jpg

"อุบลเมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี

มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน

ถิ่นไทยนักปราชญ์ ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม

งามล้ำเทียนพรรษา ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์

ฉลาดภูมิปัญญาท้องถิ่น ดินแดนอนุสาวรีย์คนดีศรีอุบล"

อุบลราชธานีเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและธรรมชาติ ที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่ล้วนดีต่อใจจริงๆ ครับ

ขอเริ่มต้นด้วยการตะเวนไหว้พระเพื่อความเป็นศิริมงคลกับชีวิต โดยวัดแรกอยู่ที่ "วัดสุปัฏนารามวรวิหาร" ครับ

4402e599-646d-044e-0ea1-59c6746d5908.jpg

วัดสุปัฏนารามวรวิหารเป็นวัดธรรมยุติวัดแรกของอุบลราชธานี สร้างโดยพระราชศรัทธาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระอุโบสถวัดนี้มีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัว เพราะเป็นการรวมศิลปะจากสามแห่งมารวมกัน ส่วนหลังคาเป็นศิลปะแบบไทย ส่วนกลางเป็นศิลปะตะวันตก และส่วนฐานเป็นศิลปะแบบขอมครับ

6c2c039b-a753-7181-b175-59c6748bbec8.jpg

ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระประธานของวัด คือพระสัพพัญญูเจ้า เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย

จุดหมายต่อไปอยู่ที่ "วัดทุ่งศรีเมือง" ครับ

8f6a8909-9a01-8847-ed43-59c674b244e8.jpg
3a0fb9d3-3707-e379-be2e-59c6751848ee.jpg
3532740e-29e9-2f51-ea36-59c675b5aeda.jpg

วัดทุ่งศรีเมืองมีจุดเด่นอยู่ที่หอพระไตรปิฎกที่สร้างด้วยไม้กลางสระน้ำ มีลักษณะผสมผสานกันระหว่างศิลปะของไทย ลาว และพม่า หอไตรหลังนี้จึงจัดได้ว่าเป็นหอไตรที่สวยงามและสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของภาคอีสาน โดยมีรางวัลอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่นจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามมงกุฎราชกุมารีเป็นสิ่งการันตีด้วยครับ

9c5d32f4-f909-2c21-b561-59c67582b6aa.jpg
6dbde216-5e1e-fac3-e9ea-59c675d1c687.jpg

เดินเข้ามาในหอไตร แอบนึกเสียดายความงดงามอันทรงคุณค่าที่ถูกปล่อยทิ้งให้เก่าลงตามกาลเวลา ด้านในมีทั้งฝุ่น ทั้งหยากไย่ มูลของนกที่ถูกถ่ายอยู่เต็มด้านในหอไตร หากทางวัดเข้ามาทำความสะอาดและดูแลในส่วนนี้ ผมว่าจะทำให้หอไตรแห่งนี้อยู่คู่กับวัดไปอีกนานครับ

จากวัดทุ่งศรีเมืองไปต่อที่ "วัดมหาวนาราม" ครับ

e3ec0714-6d26-e52f-b763-59c6753d3727.jpg
1cd48662-925e-bd67-1160-59c675a4399f.jpg
9b55eb79-f38d-2d3d-3363-59c6757dbe27.jpg

วัดมหาวนาราม เดิมเรียกกันว่า "วัดป่าใหญ่" เป็นวัดเก่าแก่และถือเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของอุบลราชธานี ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระอินแปงหรือพระเจ้าใหญ่อินแปง พระพุทธรูปปางมารวิชัย ลักษณะศิลปะแบบลาว ทุกๆ ปีในเดือนเมษายนจะมีการทำบุญตักบาตร เทศน์มหาชาติชาดกและสรงน้ำปิดทองพระเจ้าใหญ่อินแปง ถือเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งผมเองไปในช่วงที่มีการจัดพิธีพอดี เลยได้ร่วมสืบสานประเพณีนี้ด้วยเช่นกัน ถือเป็นโอกาสดีจริงๆ ครับ

จากวัดมหาวนาราม ไปต่อกันที่ "วัดสระประสานสุข" ครับ

c8e4778a-b9a1-150b-e45e-59c6754c4f97.jpg

เพียงแค่จะเลี้ยวรถเข้าไปยังเขตวัดก็เตะตากับสิ่งก่อสร้างแรกของวัดแห่งนี้แล้วครับ เพราะที่ซุ้มประตูทางเข้าวัดทำเป็นซุ้มประตูพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ 3 เศียร เมื่อนั่งรถผ่านซุ้มประตูก็เหมือนกับได้ลอดท้องช้าง จะรอดพ้นอุปสรรคปัญหาต่างๆ ไปได้ ตามความเชื่อของคนไทยครับ

51a50548-3154-5413-f68b-59c6758acc27.jpg
987b55f6-5c4b-5071-1de0-59c675e2c6da.jpg
b21efbf0-7239-f940-5f43-59c675d57e94.jpg

ประตูทางเข้าวัดว่าแปลกตาแล้ว พระอุโบสถของที่นี่ก็แปลกตาไม่แพ้กัน เพราะอุโบสถของวัดสระประสานสุขสร้างเป็นรูปเรือสุพรรณหงส์ที่ประดับตกแต่งด้วยเซรามิค ด้านบนเรือมีฝีพายกำลังพายเรืออยู่ด้วย ภายในอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระประธาน และมีจิตกรรมฝาผนังที่งดงามครับ

427c37bf-3cb4-4d0c-eead-59c67589cb2b.jpg

นอกจากอุโบสถเรือสุพรรณหงส์แล้ว ที่ด้านท้ายวัดยังมีวิหารกลางน้ำเรือธรรมนาคราช หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่าวิหารกลางน้ำที่สร้างไว้กลางน้ำบนพญานาคราชรูปร่างคล้ายเรือ ส่วนหัวเป็นพญานาคราช 5 เศียร ทางเดินเข้าวิหารกลางน้ำเป็นทางเดินด้านหางนาคราช โดยรวมแล้ววัดสระประสานสุขเป็นอีกหนึ่งวัดที่น่าสนใจ หากใครที่ชอบความแปลก แนะนำให้ลองมาสัมผัสดูครับ

จากวัดสระประสานสุขไปต่อกันที่ "วัดหนองบัว" ครับ

b2e5bff9-2481-4fc3-17a7-59c676f1da64.jpg
e7131634-0563-7f35-806a-59c676109cf8.jpg
decf53d7-6751-2703-699b-59c6763be8d6.jpg
9acd25f6-11f9-bc72-4dd9-59c676257f85.jpg

สิ่งที่โดดเด่นของวัดหนองบัวเห็นจะเป็น "พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์"ที่จำลองมาจากเจดีย์ที่พุทธคยา องค์เจดีย์ในปัจจุบันสร้างขึ้นครอบองค์พระธาตุเดิม ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากกรุงเทพฯ และเกล็ดชิ้นส่วนของพระธาตุพนมซึ่งถือว่าเป็นเสมือนหนึ่งบรมครูของพระธาตุทั้งปวงในภาคอีสาน ด้านนอกว่ายิ่งใหญ่อลังการแล้ว ด้านในยิ่งงดงามมากๆ ภายในพระธาตุมลังเมลืองด้วยสีทองอร่าม งดงามมากๆ ครับ

ตะเวนไหว้พระในตัวเมืองอุบลราชธานีกันมาเยอะแล้ว ขอข้ามไปไหว้พระที่ อ.สิรินธรบ้าง โดยผมเลือกปักหมุดที่ "วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว" อีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวอุบลราชธานีครับ

923ed618-aa0b-338d-087d-59c676a80382.jpg
97f228d6-04c5-2f0c-7300-59c676347bf6.jpg

วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือเรียกง่ายๆ ว่า วัดเรืองแสง เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง จำลองสภาพแวดล้อมของวัดป่าหิมพานต์ บริเวณยอดเขาเป็นที่ตั้งของพระอุโบสถสีปัดทอง ลักษณะคล้ายพระอุโบสถของวัดเชียงทอง ในเมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว ช่วงที่ผมเดินทางมาถึงเป็นช่วงแสงสีทองจากดวงอาทิตย์เริ่มสาดส่องมายังพระอุโบสถ ดูมลังเมลืองเป็นอย่างมากครับ

dea2b814-ddad-0e7f-4693-59c676d239c3.jpg

ด้านในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระประธาน ซึ่งเดิมเป็นองค์พระพุทธชินราช แต่ภายหลังมีการออกแบบใหม่ โดยถอดรัศมีและพระเกตุมาลาออก และมีการแกะสลักไม้ให้เป็นต้นโพธิ์อยู่ด้านหลังพระประธานด้วย เสาของพระอุโบสถแต่ละต้นลงลวดลายด้วยมือ ดูโดยรวมแล้วงดงามมากๆ ครับ

8ef101ec-5b4d-41fb-1fe2-59c676e18fbc.jpg
dc7a8941-57af-5d1f-ac20-59c676400f1e.jpg
213b097f-2684-07f0-8d37-59c676f903ab.jpg
7c3c9d2d-d942-4a26-723c-59c676d666ae.jpg

จิตกรรมฝาผนังรูปต้นกัลปพฤกษ์ขนาดใหญ่นี้ เป็นฝีมือการออกแบบของช่างคุณากร ปริญญาปุณโณ นอกจากออกแบบแล้ว ยังเป็นผู้ติดโมเสกแต่ละชิ้นด้วยตัวของเขาเอง โดยต้นกัลปพฤกษ์นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากต้นไม้แห่งชีวิต ในภาพยนตร์เรื่องอวตาร ต้องยอมรับไอเดียและความละเอียดอ่อนของช่างในการค่อยบรรจงปลูกต้นกัลปพฤกษ์ที่งดงามต้นนี้ไว้ที่ด้านหลังพระอุโบสถครับ

8c405ae6-beee-9a1e-929f-59c67611c9d0.jpg

ด้านหลังพระอุโบสถจะมีศาลาให้ได้นั่งพักผ่อน กินลมชมวิว มองเห็นทิวทัศน์ฝั่งลาว ด่านช่องเม็กรวมถึงอ่างเก็บน้ำ ดูแล้วสดชื่นดีครับ

adf3e461-d21e-fb27-db13-59c677af5ec8.jpg

นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยอีกจุดหนึ่งของอุบลราชธานีครับ

69242b1d-fb75-4de4-83bb-59c6776913b5.jpg
add84d8a-6043-d802-6e3b-59c677a042e0.jpg

เมื่อแสงสุดท้ายของวันลาลับขอบฟ้าไปแสงของต้นกัลปพฤกษ์ก็ค่อยเรืองแสงสีเขียว เปล่งประกายขึ้นทีละน้อย ดูสวยงามแปลกตามากๆ และนี่เองที่เป็นที่มาของชื่อวัดเรืองแสงครับ

a54e0630-df73-6997-f96e-59c67742a9de.jpg
4bf07c5d-f7f0-5a31-7180-59c677af9ccf.jpg

ยิ่งมืด ความเรืองแสงของต้นกัลปพฤกษ์ยิ่งมีสีเขียวมรกตมากขึ้น การที่ต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสงได้เนื่องจากเจ้าของไอเดียได้ใช้สารเรืองแสงที่เรียกว่า ฟอสเฟอร์ ทาลงไปที่ต้นกัลปพฤกษ์ ในช่วงกลางวันฟอสเฟอร์ที่ทาอยู่บนต้นกัลปพฤกษ์จะดูดแสงเอาไว้ และพอช่วงกลางคืนก็จะเรืองแสงออกมา นอกจากต้นกัลปพฤกษ์ที่เรืองแสงได้แล้ว บริเวณพื้นโดยรอบอุโบสถก็มีการทาฟอสเฟอร์ไว้บนลวดลายปูนปั้นที่พื้นด้วยเช่นกัน ทำให้ยิ่งตื่นตาตื่นใจขึ้นไปอีก นับถือแนวคิดของผู้ออกแบบจริงๆ ที่สร้างสิ่งมหัศจรรย์แบบนี้ขึ้นมาได้ครับ

จาก อ.สิรินธร ถ้าหากยังมีแรงขับรถกันอยู่ ผมแนะนำให้ตีรถไปนอนที่ "บ้านสวนณัฐชนา" อ.โพธิ์ไทร ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับท่าเรือสองสลึง ท่าเรือที่ผมจะพาไปล่องเรือในวันพรุ่งนี้ครับ

2b42cd3d-9c9b-613b-e9fc-59c677c8c7c9.jpg
74e9669b-fff1-9d6b-f83b-59c677c318d2.jpg

มาดูบรรยากาศของบ้านสวนณัฐชนากันครับ รีสอร์ทแห่งนี้เป็นของอาจารย์เรืองประทิน เขียวสด ผู้บุกเบิกสามพันโบกครับ ที่นี่เป็นรีสอร์ทเล็กๆ เงียบ สงบดีครับ

ea929b60-9265-64f1-b234-59c677d04e5e.jpg

อาคารนี้เป็นห้องอาหารเช้าครับ ตอนเช้าจะมีข้าวต้ม ขนมปัง ชากาแฟไว้บริการครับ

eb5980f3-799b-9063-d210-59c677509ce4.jpg
a42784c2-efd6-d099-b349-59c677260c0f.jpg
52cdf0d1-aa5e-b322-bb9c-59c677332eb8.jpg
f338c1c0-a0f0-cfbe-0a34-59c677d9e5b8.jpg

มาดูในส่วนของห้องพักกันครับ ห้องพักที่นี่มี 3 แบบ แบบแรกเป็นห้องพัก 2 คน จะมีเฉพาะเตียง 5 ฟุต 1 เตียง, แบบที่สอง พัก 3 คน จะมีเตียง 5 ฟุต 1 เตียงและเตียงขนาด 3.5 ฟุตอีก 1 เตียง ส่วนแบบที่สามเป็นห้องพัก 3 คน เตียง จะมีเตียงขนาด 3.5 ฟุต 3 เตียงครับ สำหรับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่มีให้ มีทั้งทีวี ตู้เย็น ผ้าเช็ดตัว น้ำดื่ม มี free wifi ด้วย แต่วันที่ผมไปเล่น wifi ไม่ได้ครับ

28b9333e-83df-7ab3-7fb1-59c67737949d.jpg

ห้องนี้เป็นแบบพัก 3 คน มี 3 เตียงครับ ต้องบอกเลยว่าห้องพักที่นี่สะอาดเลยทีเดียว

สำหรับอัตราค่าบริการ คิดง่ายๆ คือ 300 บาทต่อคน โดยราคานี้รวมอาหารเช้า (ข้าวต้ม ขนมปัง ชากาแฟ) ครับ สำหรับผู้ที่สนใจจะเข้าพักที่นี่ สามารถติดต่อได้ที่ บ้านสวนณัฐชนา โทร.081-725 4728 ครับ

เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นตอนตีห้า ผมยังไม่อยากจะลุกจากเตียงเลยครับ แต่ก็ต้องกัดฟันรีบล้างหน้าแปรงฟัน เพราะโปรแกรมเช้านี้คือการไปล่องเรือชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สามพันโบก หากออกเดินทางช้าอาจจะทำให้พลาดโอกาสดีๆ ไปได้

สมาชิกพร้อมหน้ากันเวลา 05.20 น. จากรีสอร์ทไปยังท่าเรือห่างกันเพียง 1 กม. ผมใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที เนื่องจากไม่รู้เส้นทางและยังมืดอยู่ เลยต้องค่อยๆ คลำเส้นทางไป

134fd3c4-034b-e63c-abff-59c677478944.jpg

ผมถึงท่าเรือหาดสลึงเวลา 05.30 น. มาถึงฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีแล้ว ณ เวลานี้ไม่พูดพล่ำทำเพลง รีบออกเรือโดยทันที

c2617626-1ef5-4e3b-4d92-59c6779c5f6e.jpg

เรือที่ใช้เดินทางลำใหญ่มาก สำหรับผู้โดยสาร 10 คน ค่าเหมาเรือ 1,000 บาทต่อลำครับ

7832b475-49c1-51a5-23ae-59c678255916.jpg

ผมนั่งลุ้นตลอดเส้นทาง กลัวว่าพระอาทิตย์จะโผล่ขึ้นมาทักทายก่อนที่ผมจะถึงสามพันโบก จากท่าเรือใช้เวลาประมาณ 10 นาที เรือก็มาเทียบท่าที่สามพันโบกครับ

af4494d2-9dda-0a44-fa10-59c678934e19.jpg
3d060201-3124-686c-f582-59c67859deea.jpg

เมื่อเรือเทียบท่า ผมไม่รอช้ารีบก้าวเท้าขึ้นไปด้านบนทันที พยายามหามุมดีๆ สำหรับการชมพระอาทิตย์ขึ้น แต่ไม่ทันกาลแล้ว พระอาทิตย์เริ่มโผล่ขึ้นมาทักทาย

ถึงแม้จะไม่ได้มุมถ่ายรูปดีๆ แต่ผมทันได้เห็นแสงสีทองจากดวงอาทิตย์ค่อยๆ โลมเลียแม่น้ำโขงที่อยู่เบื้องหน้าผม แค่นี้ก็คุ้มค่าแล้วที่ผมกัดฟันลุกจากเตียงนอนครับ

9c83b9ac-67bf-1ad3-7b98-59c678eb0850.jpg

ผมมาสามพันโบก รอบนี้เป็นรอบที่ 3 แล้ว รอบแรกมาช่วงฤดูน้ำ เลยมองไม่เห็นสักโบกเลย รอบที่สองมาถึงช่วงบ่าย และรอบนี้เป็นรอบที่ 3 แต่รอบนี้พิเศษกว่าทุกๆ รอบเพราะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของการเที่ยวชมสามพันโบกครับ

"สามพันโบก" เกิดจากแก่งหินทรายที่จมอยู่ใต้แม่น้ำโขงโดนแรงน้ำวนของแม่น้ำโขงกัดเซาะ ทำให้แก่งหินกลายเป็นแอ่งเล็กใหญ่เป็นจำนวนมาก บางจุดถูกกัดเซาะมาเป็นเวลาหลายหมื่นปี เกิดเป็นแอ่งขนาดใหญ่ หลุมหินเหล่านี้ภาษาอีสานเรียกว่า โบก นี่จึงเป็นที่มาของคำว่า สามพันโบกครับ

สามพันโบกได้รับการขนานนามให้เป็นแกรนด์แคนยอนเมืองสยาม สามพันโบกเมืองอุบลราชธานี

cca7aa65-a2ae-c2d0-4765-59c678e7ad47.jpg
e3da903b-2009-9401-3f34-59c678d21b43.jpg

บริเวณสระมรกต แอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่บนสามพันโบก อารมณ์ไม่ต่างจากสระว่ายน้ำธรรมชาติที่อยู่บนแก่งหินเลยครับ สระมรกตก็เกิดจากการกัดเซาะของแม่น้ำโขงเกิดเป็นโบกเล็กๆ กว่า 700 โบก นานเข้าปากโบกเล็กๆ ขยายเป็นโบกใหญ่ๆ ทะลุทะลวงเข้าหากัน กลายเป็นสระขนาดใหญ่ น้ำที่อยู่ในสระมรกตจะไม่มีทางออก สระมรกตจึงมีน้ำแบบนี้ตลอดทั้งปี กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดตามธรรมชาติ ราวเดือนกรกฎาคมน้ำจะท่วมสามพันโบกรวมถึงสระมรกตแห่งนี้ ปลาที่อยู่ในสระมรกตก็จะกลับสู่แม่น้ำโขง หมุนเวียนเป็นวงจรแบบนี้ตลอดทุกปีครับ

c4a50c7d-a672-e27b-7eee-59c678b784aa.jpg

อีกหนึ่งเสน่ห์ของสระมรกตครับ

6e1f2e6e-19b4-d7d5-3e8a-59c678fb4f9d.jpg

จากสระมรกต มองเห็นท่าเทียบเรือ แสงอ่อนๆ ฉาบแม่น้ำโขงจนเป็นสีทอง

7ac59870-1f6c-66ec-218e-59c6782bbf15.jpg

อีกหนึ่งมุมที่ผมคิดว่าใครที่มาสามพันโบกต้องตามหาโบกมิกกี้เม้าส์ครับ

b11473c9-e96a-0f16-3097-59c678a6dbaf.jpg

หลายคนเชื่อว่าที่สามพันโบกเป็นสะดือแม่น้ำโขง และเป็นวังพญานาคครับ

9d9ee33b-f8d3-e8f8-035f-59c67814ed37.jpg

ลักษณะการเกิดของโบก หากมีการถูกเจาะโดยกระแสน้ำแล้ว มันก็จะถูกเจาะไปเรื่อยๆ เพราะว่าพอเป็นหลุม น้ำที่พัดมาจะพัดหินทรายให้ตกลงในหลุม แล้วจะปั่นอยู่ในหลุม เกิดการกัดเซาะอยู่ตลอดเวลา หลุมเล็กๆ ที่เห็นอยู่บนสามพันโบก เกิดจากการกัดกร่อนประมาณ 4-500 ปี แต่หลุมใหญ่ขนาดนี้ คงเป็นหมื่นๆ ปีครับ

cad25983-f05d-ad59-5379-59c6783c790e.jpg

เพียงแค่เอากล้องลงไปถ่ายจากด้านในหลุมโบก ก็จะได้อีกมุมมองที่ดูแปลกตาครับ

a66075ca-e8da-722f-23e1-59c6781b000e.jpg

อย่างโบกนี้ ไกด์ตัวน้อยบอกว่าเป็นโบกที่สามพัน กระแสน้ำกัดกร่อนจนทำให้แผ่นผาทะลุจนเป็นรู พอมาถึงโบกนี้ไกด์ตัวน้อยรีบกระโดดลงไปนอนที่ด้านล่างของโบก แล้วถ่ายรูปย้อนขึ้นมาให้กับผมครับ

91e6a948-4697-d4cf-d012-59c6782d7a57.jpg

เป็นอีกหนึ่งมุมมองที่ไม่ควรมองข้ามจริงๆ ครับ

8f3ade4e-ce1a-4bf8-10d3-59c6796ec739.jpg

ถ้ามองดีๆ จะเห็นหินหัวสุนัขครับ แต่มุมนี้อาจจะดูยากไปสักนิด

270e654b-46e5-53a1-0175-59c679f1310d.jpg

มุมนี้คล้ายซุ้มประตูหินที่เกาะไข่ ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตาเลยครับ

1f2d0b6e-bdda-c642-6d02-59c6797c36ab.jpg

จากสามพันโบก เรานั่งเรือต่อไปยังจุดหมายต่อไป นั่นคือ "ลานหินสี" ครับ

b6ae2b13-3dbf-456b-07db-59c6798bb44a.jpg

จากท่าเรือ เราต้องเดินเท้าต่อนิดหน่อย เพื่อไปยังลานหินสี รอบๆ มองเห็นต้นหว้าน้ำอยู่เต็มไปหมดครับ

66e6ad93-850f-7064-9a8d-59c679e715f1.jpg

เริ่มมองเห็นหินสี มันๆ วาวๆ คล้ายเซรามิคกระจัดกระจายกินพื้นที่กว่า 2 ไร่ สีที่เห็นสันนิษฐานว่าเป็นกลุ่มของสารฟอกเคลือบที่มากับน้ำแล้วก็มาพอกอยู่ที่หินเหล่านี้ สีที่เห็นมีทั้ง สีแดง สีน้ำตาล สีเหลืองครับ

e17e3de8-d7f6-a140-29da-59c67913e376.jpg

และจุดไฮไลต์อยู่ที่หินก้อนนี้ หากสังเกตดีๆ จะมีรูปร่างคล้ายแจกันครับ

75b2c8a8-c7d1-fd44-a8d9-59c679d51bc1.jpg

จากลานหินสีเราไปต่อกันที่ "หาดหงส์" ครับ ไกด์ตัวน้อยช่วยกันถ่อเรือเพื่อให้เรือเทียบท่า เห็นแล้วก็พลันสะท้อนนึกถึงตัวเองสมัยอายุเท่าเด็กๆ พวกนี้ ยังแบมือขอเงินพ่อแม่อยู่เลย

32db6ae9-09ff-78f9-3311-59c6795e912c.jpg
186c2d41-10b6-43ab-da3c-59c67995ee11.jpg
d0d29dc0-bd2a-2f12-1f13-59c679fc3c6e.jpg

ทรายที่เห็นก็มาจากแก่งหินทรายที่โดนกระแสน้ำโขงกัดเซาะและพัดพามารวมกัน ดูไม่ต่างอะไรกับชายหาดเลยครับ บางจุดทับถมกันจนดูคล้ายกับทะเลทราย ด้วยภูมิทัศน์ที่แปลกตา หาดหงส์แห่งนี้เลยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่องฟ้าจรดทรายด้วย นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินอีกด้วยครับ

9a3a5957-d5b3-1fa3-30e1-59c6793e521c.jpg

ผ่าน "ผาหินศิลาเลข" ถ้าหากมองดีๆ จะเห็นตัวเลขสีขาวถูกสลักไว้บนแผ่นหิน ตัวเลขที่เห็นนั้นถือเป็นร่องรอยประวัติศาสตร์สมัยฝรั่งเศส ใช้บอกระดับน้ำในแม่น้ำโขง เพื่อความปลอดภัยในการเดินเรือ เนื่องจากฤดูน้ำหลากบริเวณนี้จะมีแนวหินโสโครกเป็นจำนวนมากครับ

d7ec2c2f-8e2e-8325-1fe5-59c679d22e70.jpg

ไกด์ตัวน้อยชี้ให้เห็นหินเกล็ดปลา สังเกตที่ด้านล่างของหินดูนะครับ มีลวดลายคล้ายเกล็ดปลาจริงๆ

bdec47f2-dadc-4b27-b5ea-59c67adf038b.jpg

ร่องเรือมาเรื่อยๆ จนมาถึง "ปากบ่อง" หน้าผาหินที่เกิดจากรอยแยกตัวของแผ่นหินทรายเปลือกโลก ลักษณะเหมือนคอขวด ที่ปากบ่องนี้เป็นจุดที่แคบที่สุดของแม่น้ำโขง กว้างเพียง 56 เมตร บริเวณนี้น้ำจะไหลเชี่ยวมากครับ

726b0386-d0e8-3aaf-a22c-59c67ae13a7e.jpg
295252a9-03a9-4209-4931-59c67af44c3d.jpg

บริเวณปากบ่องนี้จะเห็นชาวไทยและชาวลาวออกมาตักปลา การจับปลาที่นี่จะไม่ใช้เหยื่อ แต่จะใช้สวิงขนาดใหญ่คอยตักปลาที่ว่ายอยู่ริมตลิ่งครับ ผมใช้เวลาล่องเรือกว่าสองชั่วโมงครึ่ง ขอบอกเลยว่าเป็นสองชั่วโมงครึ่งที่มีความสุขมากๆ ครับ

6e7f7149-1c8a-4b9b-dcf5-59c67a69d752.jpg

บรรยากาศบริเวณท่าเรือสองสลึงครับ จากป้ายจะเห็นว่าเรือที่เหมาจะมี 2 ขนาด คือลำใหญ่ นั่งได้ 10 คน แบบที่ผมเหมาไป ราคา 1,000 บาท อีกขนาดจะนั่งได้ 5 คน ค่าเหมาลำละ 500 บาท ขอบอกเลยว่าการล่องเรือชมพระอาทิตย์ขึ้นในเช้านี้ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของอุบลราชธานีครับ

5cff3ec4-eea0-d072-95ac-59c67a52181a.jpg

กลับมาถึงรีสอร์ทพร้อมกับความหิว ทางรีสอร์ทได้เตรียมข้าวต้มหม้อใหญ่ไว้ให้แล้ว ผมเลยจัดไป 2 ถ้วยใหญ่ๆ อร่อยมากครับ หลังอาหารจัดแจงอาบน้ำอาบท่า เก็บข้าวของและเดินทางกันต่อสู่จุดหมายต่อไป

จุดหมายต่อไปอยู่ที่ "หาดชมดาว" ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหาดสลึง ทางเข้าหาดชมดาวจะมีสองทาง ผมเลือกเข้าตรงทางเข้าที่มีหลักกิโลใหญ่ๆ เลี้ยวขวาเข้าไปไม่นานก็จะมาถึงจุดสิ้นสุดเส้นทาง บริเวณนี้จะมีรถปิคอัพออฟโรดคอยให้นักท่องเที่ยวเหมาเข้าไปยังจุดที่ใกล้กับหาดชมดาว รวมถึงจะมีไกด์ตัวน้อยๆ รอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ครับ สำหรับค่าเหมารถ ถ้าจำไม่ผิด 300 บาท แต่คณะผมให้ทิปคุณลุงคนขับไปด้วย เลยให้ไป 500 บาทครับ

ผมมาถึงที่หาดชมดาวประมาณ 10.00 น. นั่งรถออฟโรดออกไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร สภาพของรถจะเป็นรถแคป ด้านในแคปอัดได้ 4 คน นอกนั้นคงต้องนั่งท้ายปิคอัพไป ตรงนี้ขอแนะนำว่าควรจะติดอุปกรณ์กันแดดมาให้เต็มที่นะครับ ไม่ว่าจะเป็นครีมกันแดด หมวก ร่ม ปลอกแขน ได้งัดออกมาใช้งานอย่างแน่นอนครับ

จากจุดจอดรถเราต้องเดินเท้ากันต่ออีกนิดหน่อย ไกด์ตัวน้อยอาสาเดินนำเพื่อพาไปยังจุดที่เป็นไฮไลต์ครับ

477730a0-e40a-c78d-f32c-59c67a155f57.jpg
1357b662-18c3-bf6b-6fba-59c67a71c94f.jpg

ลักษณะทางภูมิประเทศไม่แตกต่างจากสามพันโบก การเกิดโบกนั้นเกิดเช่นเดียวกับที่สามพันโบกเลยครับ

c7542990-83e1-5471-b876-59c67a8bcebc.jpg
b9f2bf2f-885e-4e8b-9d5f-59c67a847cb8.jpg
1a6e6f23-63b9-ead7-804e-59c67ac5f5a5.jpg
bbc219ad-f543-a615-4f06-59c67bfdb929.jpg
6e933d54-1b20-e09f-cda4-59c67b68da41.jpg

และจุดนี้แหล่ะครับ คือไฮไลต์ของหาดชมดาว ด้วยลักษณะของหน้าผาสูงชัน เว้าแหว่งอยู่ท่ามกลางลำน้ำไหลโค้งไปมา แผ่นผืนน้ำเป็นสีเขียว บางจังหวะมองเห็นเงาสะท้อนของโตรกผา สวยงามเลยทีเดียว ไกด์ตัวน้อยอาสาโชว์กระโดดน้ำจากหน้าผาสูงลงสู่ผิวน้ำเบื้องล่าง กระโดดโชว์ไปมาอยู่หลายรอบ ใครชอบความท้าทายจะมาลองวัดความกล้า ณ จุดนี้ดูก็ได้นะครับ

9c21f6a4-3214-7f94-9769-59c67bd23a85.jpg

ถ้าหากเพื่อนๆ อยากจะมาเที่ยวที่หาดชมดาว ขอแนะนำเลยว่าให้มาถึงช่วงเช้าหรือไม่ก็ช่วงเย็น เพราะหากมาช่วงสายราว 10.00 น. จนถึงบ่ายแก่ๆ ราว 16.00 น. แดดจะร้อนมากๆ ผมมาถึง 10 โมงยังร้อนจนแทบจะเป็นลม รู้อารมณ์คนที่ร้อนตายเลยครับ และแนะนำให้เหมารถของชาวบ้านให้มาส่งยังจุดที่ใกล้หาดชมดาวจะดีที่สุด ออมแรงเก็บไว้เดินบริเวณหาดชมดาวดีกว่าครับ อีกอย่างคือการเรียกใช้บริการของไกด์ตัวน้อยๆ จะทำให้เราไม่พลาดมุมเด็ดๆ ที่ไม่ควรพลาดถ้าหากมาเที่ยวที่สามพันโบกและหาดชมดาว และอีกอย่างเป็นการช่วยเหลือเด็กๆ ให้มีรายได้ด้วย ลองคิดดูเถอะครับ ตอนเราอายุเท่าเด็กๆ พวกนี้ เรายังแบมือขอเงินพ่อแม่อยู่เลย แต่เด็กพวกนี้กลับหาเงินช่วยเหลือพ่อแม่ได้แล้ว แบบนี้น่าสนับสนุนครับ

จริงๆ แล้วอุบลราชธานียังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง มีอีกหลายสถานที่ที่อยากไปแต่ยังไม่ได้ไป มีอีกหลายสถานที่ที่ไปแล้วแต่อยากจะกลับไปอีก รอแค่เวลาและจังหวะเหมาะๆ คงจะได้เจอกันอีกนะ...อุบลราชธานี

ท้ายสุดนี้ เพื่อนๆ สามารถเข้าไปให้กำลังใจและติดตามผลงานของผมเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/unclegreenshirt นะครับ


Viewing all articles
Browse latest Browse all 3102

Latest Images

Trending Articles


ใครรู้จักบริษัท the singular group บ้างครับ...


ด่วน! สพป.สกลนคร เขต 1 รับสมัครลูกจ้างชั่วคราว และครูอัตราจ้าง 10 อัตรา


โหลดฟรี โปรออดิชั่น เพอเฟค กดเอง ล่าสุด


วง T-ARA พัก โซ-ย็อน กับ ช็อน โบรัม ปัจจุบัน ทำอะไรอยู่เหรอครับ...


อย่างสุด! Isuzu MU-X จัดเต็มมาพร้อมกับรูปแบบ Off-Road สไตล์ Hamer 4×4 Model


วิธีเปิดบัญชีกสิกรออนไลน์ ผ่านแอพ K-Plus ไม่ต้องไปสาขา (สมัครพร้อมเพย์ได้ด้วย)


หลิวซือซือคัมแบ็คซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค ในรอบ 5 ปี ประกบคู่หลิวอวี่หนิง!


รู้จัก Stepping Motor


อาชีพเสริมงานฝีมือ งานแพ็คลูกปัดร้อยผม รับงานทําที่บ้าน รายได้ดี


Line IAB คืออะไร ??


รหัสโอนเงิน tr to NATID คือ อะไรครับ


ใหม่ All New ISUZU D-MAX Space Cab 2 ประตู 2024-2025 ราคา อีซูซุ ดีแมคซ์ 2...


ตู้อบลมร้อน (เตาอบลมร้อน)


ใหม่ All New ISUZU D-MAX V-Cross 2014-2015 ราคา อีซูซุ ดีแมคซ์ วี-ครอส...


ใส่สีพื้นหลังของเซลล์ Excel เปลี่ยนความจำเจของสีพื้นหลัง


ป่าท้อสิบหลี่ ซีรี่ย์จีนสื่อรัก! หลิวรุ่ยหลิน – เดซี่ ไม่สมหวังในเรื่องก็ช่าง...


วิธีนับข้อมูลใน Pivot แบบไม่นับตัวที่ซ้ำกัน (Distinct Count)


การเขียนแม่ลายพุ่มข้าวบิณฑ์ 3D ด้วย Artcam (ตอนที่ 1)


เราได้ทำการสมัครแอพเงินกู้ ทรัพย์พลัสไปแต่อยากยกเลิกควรทำยังไงดีคะ


ใช้บัตร M Pass ถ้าจะนั่งที่นั่ง Honeymoon,Opera Chair...