Quantcast
Channel: theTripPacker
Viewing all articles
Browse latest Browse all 3101

นอนโฮมสเตย์ ออกบามหมึก กินซีฟู้ด ดูแพลงตอนเรืองแสง ที่..แดนโดมโฮมสเตย์ จ.ชุมพร(700 บาท/คน)

$
0
0
นอนโฮมสเตย์ ออกบามหมึก กินซีฟู้ด ดูแพลงตอนเรืองแสง ที่..แดนโดมโฮมสเตย์ จ.ชุมพร(700 บาท/คน)

นอนโฮมสเตย์ ออกบามหมึก กินซีฟู้ด ดูแพลงตอนเรืองแสง ที่..แดนโดมโฮมสเตย์ จ.ชุมพร(700 บาท/คน)

อำเภอสวี (Sawi District) จ.ชุมพร

CHAILAIBACKPACKER !!!

นอนโฮมสเตย์ ออกบามหมึก กินซีฟู้ด ดูแพลงตอนเรืองแสง ที่..แดนโดมโฮมสเตย์ จ.ชุมพร(700 บาท/คน)


ไปเที่ยว “ชุมพร” ..กันอีกสักรอบมั้ย?

มีเวลาน้อย หรือ มีวันหยุดแค่ เสาร์-อาทิตย์ แค่ 2 วัน ก็ไปเที่ยวได้แล้วครับ!

 

ผมได้กลับไปเที่ยว จังหวัดชุมพร อีกครั้ง เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ไปพักผ่อน ในโฮมสเตย์บรรยากาศริมทะเล ซึ่งเป็นอะไรที่ผมรู้สึกชอบมาก กับการได้ไปพักในโฮมสเตย์ที่เรียบง่าย ใกล้ชิดกับวิถีชีวิตกับผู้คนในท้องถิ่นเช่นนี้.. โดยในครั้งนี้ ได้ไปพัก ที่ แดนโดมโฮมสเตย์ บ้านอ่าวคราม อ.สวี จ.ชุมพร ครับ

d03a8bdc-b475-5847-53d6-5a0d49e2b669.jpg

แดนโดมโฮมสเตย์ เป็นโฮมสเตย์ที่อยู่ในหมู่บ้านชาวประมงริมทะเลอ่าวคราม อ.สวี จ.ชุมพร มีบรรยากาศที่เรียบง่าย เหมาะสำหรับคนที่อยู่ง่าย กินง่าย ตัวโฮมสเตย์ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่รายล้อมไปด้วย ภูเขาและต้นไม้ ซึ่งที่นี่มีจุดเด่น ก็คือ จะอยู่ห่างจาก บ้านเรือนของชาวบ้านหลังอื่นๆ มาหน่อย จึงค่อนข้างที่จะดูมีความส่วนตัวมากขึ้นมาอีกนิด สำหรับชาวบ้านที่นี่.. ก็จะประกอบอาชีพประมงเป็นส่วนใหญ่ การได้มาพักที่นี่ ก็เลยได้เห็น ได้สัมผัสถึงวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ที่ถือว่า เป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิม อย่างเช่น การบามหมึก ที่เขาว่ากันว่า.. มีแห่งเดียวในประเทศไทยก็คือ ที่ อ่าวคราม อ.สวี จ.ชุมพร แห่งนี้ ซึ่งการได้มาพักที่แดนโดมโฮมสเตย์นี้ นอกจากจะได้มาพักผ่อนแบบชิลๆ ริมทะเลแล้ว อาหารการกินก็จัดเต็มสุดๆ มีซีฟู้ดสดๆ จากทะเล ให้ได้กินทุกมื้อ (700 บาท/คน = ที่พัก 1 คืน + ซีฟู้ด 3 มื้อ + ทริปบามหมึก) ถือว่าคุ้มค่ามากๆ เลยครับ!

 

ไป..แดนโดมโฮมสเตย์ ไปทำอะไร?

ไป.. นอนโฮมสเตย์ ที่พักแบบ โฮมสเตย์ จะเป็นที่พักแบบเรียบง่ายอยู่ติดริมทะเลอ่าวคราม ซึ่งภายในโฮมสเตย์ จะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากนัก สภาพห้องนอนก็จะเป็นห้องเล็กๆ ที่กั้นขึ้นมาอย่างง่ายๆ (ห้องน้ำรวม) แต่ส่วนใหญ่ จะนำเสื่อ นำฟูก มาปูนอนที่กลางลานโล่ง เพื่อนอนรับลมทะเลก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ

80829b0d-4dff-18ed-e4bb-5a0d49205766.jpg

 

ไป.. กินซีฟู้ด โฮมสเตย์ จะมีอาหารซีฟู้ดบริการให้ทั้ง 3 มื้อ เป็นเมนูอาหารทะเลสดๆ จากทะเลอย่างแท้จริง ส่วนเมนูอาหารในแต่ละมื้อก็จะวนเวียนเปลี่ยนไปตามวัตถุดิบที่มีในแต่ละวัน แต่รับรองว่าได้ลองกินแบบหลากหลายแน่นอน กุ้ง หอย ปู ปลา หมึก มากันครบ

a4c9c793-805a-9fa9-2e23-5a0d49c11ae6.jpg

 

ไป.. บามหมึก การ “บามหมึก” ที่เขาว่ากันว่า.. มีแค่ที่เดียวในประเทศไทย คือ ที่ บ้านอ่าวคราม แห่งนี้ กิจกรรมยามค่ำคืนก็คงหนีไม่พ้น การได้ออกไปกิน “หมึก” แบบสดๆ กันกลางทะเลเลย!

8f94204f-b172-b5a1-f68b-5a0d493c0ff8.jpg

 

ไป.. ดูแพลงตอนเรืองแสง หลังจาก บามหมึก เสร็จ หากวันไหนสภาพอากาศดี ก็จะได้แวะไปดู แพลงตอนเรืองแสง กันด้วย โดยถ้าคืนไหนเป็นคืนเดือนมืด บรรยากาศท้องทะเลมืดมิด ทำให้ได้เห็นแพลงตอนเรืองแสงอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น (ซึ่งการจะพบเห็นแพลงตอนเรืองแสงได้มากน้อยเท่าไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ด้วย)

44a13c97-4f6d-05fd-d8ef-5a0d49529a69.jpg

 

ไป.. เที่ยวเกาะกุลา เกาะกุลา เกาะขนาดเล็ก หนึ่งในหมู่เกาะทะเลชุมพร อ.สวี จ.ชุมพร อยู่ห่างจากฝั่งอ่าวครามแค่ 20 นาที เท่านั้น ก็จะได้พบกับทะเลสวยๆ บรรยากาศดีๆ เป็นธรรมชาติ น้ำทะเลใสแจ๋ว ไปเดินเล่นริมหาด หรือ อยากพายคายัค บนเกาะก็มีบริการให้พายฟรีด้วย!

3e64dedd-efc9-7158-ab13-5a0d493614a9.jpg

ติดตามการเดินทางทริปอื่นๆ ของผมได้ที่..FB : https://www.facebook.com/chailaibackpacker/

 

โปรแกรมการเดินทางในครั้งนี้

วันแรก : เดินทางมาถึงแดนโดมโฮมสเตย์ รับประทานอาหารเที่ยง(มื้อที่ 1) พักผ่อน นั่งเล่น นอนเล่น เดินเล่น ชมวิวภายในบริเวณบ้านอ่าวคราม ช่วงเย็น ออกเรือไปวางถังแก๊สเพื่อ “บามหมึก” แล้วกลับมา รับประทานอาหารเย็น(มื้อที่2) และ ช่วงดึก ออกไปทำการ “บามหมึก” และ แวะไปดู แพลงตอนเรืองแสง

วันที่สอง : ช่วงเช้า รับประทานอาหารเช้า(มื้อที่ 3) เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ นั่งเรือไปเที่ยว เกาะกุลา (ไม่รวมอยู่ในแพคเกจ สามารถเหมาเรือไปเที่ยวได้ในราคา ลำละ 800-1000 บาท/ขึ้นอยู่กับจำนวนคน) จากนั้น ช่วงสาย ก็กลับมาเก็บของเช็คเอาท์ และเดินทางกลับ กรุงเทพฯ

 

 

การเดินทาง จาก กรุงเทพฯ สู่ สวี

 

วิธีที่สะดวกที่สุด ในการเดินทาง ไป อำเภอสวี นอกจากรถทัวร์ และ รถส่วนตัวแล้ว การเดินทางด้วย รถไฟ ดูท่าว่าจะเหมาะที่สุด ซึ่งอยากแนะนำวิธีการเดินทาง ดังนี้ครับ

ขาไป – ขบวนด่วนพิเศษ 39/41 ออกจากสถานีกรุงเทพฯ เวลา 22.50 น. ราคา 562 บาท ถ้าเดินทางในช่วงเย็นวันศุกร์ก็จะเหมาะมากๆ แบบว่าเลิกงานเสร็จ มีเวลากลับไปเก็บกระเป๋า อาบน้ำแต่งตัว ได้สบายๆ ก่อนออกเดินทาง ซึ่งขบวนนี้จะเดินทาง ถึง สถานีรถไฟสวี เวลาประมาณ 06.30 น. ซึ่งจะเป็นเวลาเช้าพอดี ถ้าออกคืนวันศุกร์ ก็ถึงเช้าวันเสาร์ มีเวลาเที่ยวได้สบายครับ..

b907eef2-55d2-995b-9807-5a0d49207ac0.jpg

ขากลับ – จาก สถานีรถไฟสวี กลับเข้า กรุงเทพฯ ขบวนด่วนพิเศษ 40 ออกจาก สถานีรถไฟสวี เวลา 12.18 น. ราคา 562 บาท กลับมาถึง สถานีรถไฟกรุงเทพฯ เวลา 19.45 น. แบบว่า.. เช็คเอาท์เสร็จ ก็ขึ้นรถไฟกลับได้เวลาพอดิบพอดี และ กลับถึง กรุงเทพฯ ไม่ดึกมากนัก หรือ สามารถเลือกเวลานั่งรถไฟกลับได้ตามต้องการ(ตามภาพตารางการเดินรถไฟ) ซึ่งอาจขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำในวันนั้นๆ หรือ อยากจะอยู่เที่ยวต่อในบริเวณใกล้เคียงอีกสักหน่อยแล้วค่อยกลับเข้ากรุงเทพฯ ก็ย่อมได้

7af2865a-9c64-df77-7347-5a0d49423d1e.jpg

 

 

DAY #0 BANGKOK – SAWI

22.50 น. นั่งรถไฟไปสวี!

ทริปนี้.. เราเดินทางไปกันทั้งหมด 3 คน โดยนัดแนะเจอกันที่ สถานีรถไฟกรุงเทพฯ ก่อนเวลาเดินทาง ค่อนข้างมาก เพื่อที่จะมาหาอะไรนั่งกินให้อิ่มท้องกันเสียก่อน ซึ่งไม่นานก็ได้เวลาที่จะออกเดินทางกันแล้ว!

318553ed-2ef9-d6c5-3a00-5a0d49f39bdd.jpg

ขบวนด่วนพิเศษ 39/41 จะออกจาก สถานีรถไฟกรุงเทพฯ เวลา 22.50 น.

d37a860f-bff2-f72e-ff06-5a0d49437eb7.jpg

ขึ้นมานั่งรอบนรถไฟ ตามที่นั่งที่ระบุไว้อยู่บนตั๋ว แอร์เย็นฉ่ำ ค่อนไปทางหนาวนิดๆ ที่นั่งพอนั่งได้สบายๆ มีบริการเสิร์ฟขนม และน้ำ อีกนิดหน่อยด้วย..

53f2061d-632a-58ca-414a-5a0d49ba66af.JPG

 

DAY #1 SAWI, CHUMPHON

07.00 น. สถานีรถไฟสวี จ.ชุมพร

นั่งหลับๆ ตื่นๆ อยู่สักพักใหญ่ๆ ก็เดินทางมาถึง สถานีรถไฟสวี แล้ว.. ซึ่งก่อนหน้านั้นจะจอด สถานีใหญ่ อย่าง สถานีรถไฟชุมพร ก่อน เราก็ถูกปลุกให้ตื่นตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เพราะคนส่วนใหญ่ก็ลงที่นั่นกัน แต่.. เรา ต้องนั่งต่ออีกนิด เพื่อมาลงที่ สถานีรถไฟสวี

3c3866ec-9b85-02ee-b0f4-5a0d498134b3.JPG
6a1ab393-22a6-e9e8-2d41-5a0d49320de3.JPG

ตรงข้าม สถานีรถไฟสวี จะเป็นตลาดเล็กๆ ในยามเช้าแบบนี้ ก็มีของกินมาขายอย่าง ปาท่องโก๋ กาแฟ ข้าวต้ม โจ๊ก ให้ได้รองท้องกันในมื้อเช้า แนะนำ ร้านต้มเลือดหมู ตรงหัวมุมถนน ที่อยู่ตรงข้ามกับ สถานีรถไฟสวี ครับ เช้าๆ มานั่งกินอะไรร้อนๆ ใช้ได้เลย

9675e9f5-befb-a6ad-cb1f-5a0d4a3816cd.JPG

จัดต้มเลือดหมูร้อนๆ กับข้าวสวยไปครับ อร่อยดีเหมือนกัน!

8395c077-938b-3c43-43bb-5a0d4ac9e23d.JPG

ระหว่างนั้น ผมได้ติดต่อ ให้ทางที่พัก ออกมารับครับ ซึ่ง จาก สถานีรถไฟสวี ไป แดนโดมโฮมสเตย์ ระยะทางราว 20 กิโลเมตร

73623907-abb7-befd-3236-5a0d4aef26d2.jpg

ซึ่งทางโฮมสเตย์จะนำรถกระบะออกมารับ มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม เที่ยวละ 300 บาท(ขึ้นอยู่กับจำนวนคน) แต่..ขอบอกว่า ราคานี้คุ้มนะครับ ไปกันหลายคนก็ตกคนละไม่เท่าไร..

ee470db6-4360-6e44-2447-5a0d4a838dfc.JPG

สภาพเส้นทางก่อนถึงหมู่บ้าน ทางค่อนข้างชัน และคดเคี้ยว หากขับรถเข้าไปเองก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังกันหน่อยนะครับ

cf7dd726-702c-19d4-2120-5a0d4a0ae23e.JPG

 

09.00 น. แดนโดมโฮมสเตย์

นั่งรถไม่นานก็เข้ามาถึง บ้านอ่าวคราม ซึ่งจะสังเกตเห็น บ้านเรือนของชาวประมงจะตั้งเรียงรายอยู่ริมทะเล โอบล้อมด้วยภูเขา และต้นไม้ ในบรรยากาศใกล้ชิดกับธรรมชาติ

d2ccf452-4ea4-1090-1d47-5a0d4adce45e.JPG
1565ccac-e8a7-6314-b6c7-5a0d4a6eec59.JPG
1151c69e-c0f9-1fef-01c6-5a0d4a8affd3.JPG

และ ก็มาถึงทางเข้า แดนโดมโฮมสเตย์ ที่พักในวันนี้ ผมได้รับการต้อนรับจาก “พี่ประจักษ์” และ “พี่จรรยา” เจ้าของโฮมสเตย์แห่งนี้ ด้วยความเป็นกันเอง และคุยสนุกถูกคอ ทำให้รู้สึกว่า.. การได้มาพักที่นี่ เหมือนได้มาพักบ้านญาติ พักผ่อนสบายๆ

ef357e8e-9b91-ebae-8731-5a0d4a673b10.JPG

โฮมสเตย์ เป็นบ้านไม้หลังใหญ่ยกสูง ตั้งอยู่ริมทะเล มีชานบ้าน หรือ ระเบียงขนาดใหญ่ สามารถนั่งชมวิว รับลมทะเลเย็นสดชื่น

143e683f-4335-b432-ce87-5a0d4ad01d7e.JPG
7e935fc9-32b2-f073-d9a1-5a0d4a50f64e.JPG

บรรยากาศท้องทะเลหน้าโฮมสเตย์ ดูเงียบสงบ มองไปไกลได้สุดลูกหูลูกตา

e8a88d6c-a6d6-11c1-6dc3-5a0d4aea3b26.JPG
72ced2fb-d2d2-b2e5-84d7-5a0d4a5bdfa6.JPG
8870d4d7-21d7-d0bb-fc71-5a0d4a77f1c6.JPG

ด้วยเพราะบรรยากาศที่ดูสบายๆ เราจึงหาที่ล้มตัวลงนอน รับลมทะเลกัน เพราะบรรยากาศมันน่าพักผ่อนจริงๆ ซึ่งสามารถหามุมนอนได้ตามอัธยาศัย เหมือนอยู่บ้าน.. และ บริเวณนี้เองก็จะเป็นที่หลับที่นอนของเราสำหรับคืนนี้กันด้วย

22aea714-57a0-2804-13b2-5a0d4a52d799.JPG
a1bc9906-22a8-721d-045e-5a0d4a0308ee.JPG

การมาพักโฮมสเตย์ที่นี่ เป็นการมาพักผ่อนแบบอยู่ง่าย กินง่าย อาจจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากนัก แต่ได้ใกล้ชิดวิถีชาวประมงอย่างแน่นอนครับ

88ec88c4-74db-032b-ecb2-5a0d4a8d9926.JPG

บริเวณกลางบ้าน ยามน้ำขึ้น จะลองหย่อนเบ็ดตกปลา ตกหมึก ดูก็ได้

a53db488-855f-1f39-a6e3-5a0d4a3539ac.JPG

เสื่อ ฟูก ผ้าห่ม สามารถนำไปปูนอนตามมุมต่างๆ ได้ตามความต้องการ ซึ่งผ้าห่ม ก็ถูกแพ็คใส่ในถุงพลาสติกอย่างดี หอม สะอาด หายห่วง และ หากร้อนก็มี พัดลม ให้อีกด้วย พอใช้อย่างแน่นอน สำหรับใครที่กังวลเรื่องยุง ก็อาจจะมีบ้างเล็กน้อยในช่วงหัวค่ำ แต่พอดึกๆ สักหน่อย ปัญหาเรื่องยุง นี่ไม่มีเลย นอนหลับได้สบายครับ

ed062657-937a-d997-24f6-5a0d4a8fefd5.JPG

ช่วงนี้.. ก็เป็นช่วงเวลาพักผ่อน นั่งเล่น นอนเล่น รับลมทะเลกันไป..

65e222d4-49b2-82a8-8f70-5a0d4aa375b3.JPG
a5d0b70a-152e-9b1e-a419-5a0d4a79b45b.JPG
df3dd174-5480-8655-f510-5a0d4ac0793f.JPG
21e6d5d3-0122-e47a-c53c-5a0d4a986e3d.JPG
8dcfdcf0-cd45-1040-a766-5a0d4a63ae9e.JPG

แอบเดินเข้าไปในครัว เห็น ปูม้า เป็นๆ ที่เตรียมนึ่ง มาที่นี่..ก็ได้กินอาหารทะเลสดๆ แบบนี้แหละ

d59eb52f-e6e4-e32f-fe2e-5a0d4a276e18.JPG

ห้องน้ำ ของที่นี่ จะตั้งอยู่บนบก ใกล้กับโฮมสเตย์ มีให้ใช้อยู่หลายห้อง ซึ่งก็สะอาด ใช้ได้

de47348d-fa60-cc70-4ebf-5a0d4aab37e2.JPG

แดนโดมโฮมสเตย์ จะมีส่วนของที่พักให้เข้าพักอยู่ 2 หลังใหญ่ๆ ถ้าหากมากันกลุ่มใหญ่ๆ อยากได้ความเป็นส่วนตัว ก็สามารถเข้าไปพักอีกหลังที่อยู่ลึกเข้าไปหน่อยก็ได้ครับ

25619daa-4289-eed1-a539-5a0d4afd424e.JPG

ซึ่งหลังนี้จะดูส่วนตัวหน่อย แต่วิวทะเลก็จะดูแคบลงไปอีกนิด..

124d58f7-8e86-609d-2036-5a0d4a00003b.JPG
49a6fcac-ebb8-bc2d-8d15-5a0d4abf7816.JPG

พื้นที่ส่วนกลาง ก็กว้างขวาง อยู่ได้สบายๆ มีเครื่องอำนวยความสะดวก ไม่ต่างจากหลังหลักที่เราพักกัน

d10fb263-b017-6148-b2d4-5a0d4a843616.JPG

เดินสำรวจ กันในบริเวณนี้กันสักหน่อย ซึ่งใกล้ๆ กับทางเข้า แดนโดมโฮมสเตย์ มี จุดชมวิวมุมสูงบ้านอ่าวคราม เดินไม่ไกล เพียงไม่กี่สิบเมตรเท่านั้น

75cca267-fff9-5268-2f39-5a0d4a950a97.JPG

เดินขึ้นมาแป้บเดียว! ก็ถึงจุดชมวิวบ้านอ่าวครามแล้ว..

e3f490a6-0466-ecd3-dc27-5a0d4a6bc109.JPG

ข้างบนนี้ จะเห็นวิวบ้านเรือนชาวประมง บ้านอ่าวคราม ที่มีวิถีชีวิตเกี่ยวพันกับท้องทะเลมานาน

d365e3f4-b017-1c5d-06d3-5a0d4af1ac34.JPG
19fcff05-5750-4c7a-53df-5a0d4a3bc687.JPG

11.00 น. ได้เวลา.. อาหารมื้อเที่ยง!

มื้อแรก.. ของเราในทริปนี้ อาหารมื้อเที่ยง(มื้อที่ 1) เมนูกับข้าว 3-4 อย่าง ถูกทยอยเสิร์ฟออกมา วางบนพื้นเรือน ซึ่งให้ความรู้สึกสบายๆ ง่ายๆ เราเตรียมล้อมวงรอกินกัน เมื่อทุกอย่างนำมาเสิร์ฟจนครบ

b4000a23-278d-50ec-1fd7-5a0d4a237a71.JPG

อาหารทุกอย่างดูน่ากินมาก วัตถุดิบสดๆ จากทะเล

80ee9c4a-05ef-0378-0899-5a0d4ae309d7.JPG

อาหารแบบฉบับชาวใต้ รสชาติจัดจ้านถึงใจ กินกับข้าวสวยร้อนๆ แจ่มมากเลยครับ เมนูนี้

a31cf581-9726-64a1-8e8e-5a0d4bb94ba7.JPG

กุ้งสดๆ กับ น้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด!

a90b3212-7046-46c4-1174-5a0d4bf40830.JPG
dbfafdfd-832c-0f4b-e68c-5a0d4b932bef.JPG

เราช่วยกันจัดการอาหารมื้อเที่ยงกัน อร่อยแบบว่า .. กินข้าวจนหมดหม้อ! ที่เขาให้มาไม่มีเหลือ กินเกลี้ยงกันหมดทุกอย่าง เมื่ออิ่มแล้ว ก็ได้เวลาขี้เกียจ หามุมหลบนอนเล่นกันไปครับ 55+

1b528a61-9885-b745-c609-5a0d4b871e6d.JPG

ช่วงบ่าย นั่งเล่น นอนเล่น ไปเรื่อยเปื่อย.. จนดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลง แสงแดด ลดความร้อนแรงลงไปเยอะ บรรยากาศริมทะเล ก็ดูเหมือนจะชิลขึ้น ดูสบายๆ

bc92102a-de5c-b863-69e7-5a0d4b313abb.JPG
619535b3-ab42-d88a-06f5-5a0d4b640546.JPG

 

18.00 น. ออกไป.. “บามหมึก”

กิจกรรมที่พลาดไม่ได้ เมื่อมาพักโฮมสเตย์ที่นี่ ก็คือ.. การ “บามหมึก” ซึ่งการบามหมึกนั้น เขาว่ากันว่า.. มีหนึ่งเดียวในประเทศไทย ก็คือ.. ที่ อ่าวคราม แห่งนี้ ซึ่งจะว่าไปก็คล้ายการยกยอนะครับ แต่วิธีบามหมึกนั้นเขาจะใช้อวนตาข่ายขึงกับเสาไม้ทั้ง 4 เสาที่ตั้งปักอยู่กลางทะเล ขึงตาข่ายให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส จากนั้นก็ใช้แสงไฟจากถังแก๊สที่ห้อยไว้ด้านบน เป็นตัวล่อให้หมึกเข้ามาเล่นไฟ เมื่อได้เวลาก็หมุนรอก ให้เชือกดึงตาข่ายอวน ขึ้นมาเหนือผิวน้ำ แล้วก็เอาสวิงตัก.. ขึ้นมาก็เรียบร้อย.. เมื่อได้หมึกสดๆ มาแล้ว อาจจะลองกินแบบดิบๆ จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู๊ด ก็หนึบๆ หวานๆ ดีเหมือนกัน หรือจะนำกลับไปย่างไฟอ่อนๆ ก็แจ่มใช้ได้!

12040fb4-0afe-e517-2630-5a0d4b7b35f1.JPG

พี่ประจักษ์ จัดการเตรียมถังแก๊ส เพื่อไปติดตั้งสำหรับใช้ในการล่อหมึกครับ ซึ่งเราก็ได้ติดสอยหอยตาม ไปดูวิธีการบามหมึกกันอย่างใกล้ชิดด้วย

8a2d11fd-ae67-566c-8eaa-5a0d4bcf4e7a.JPG

การออกเรือ มาในช่วงยามเย็นแบบนี้ ก็เหมือนกับการได้ชม บรรยากาศท้องทะเลอ่าวครามไปในตัวด้วยครับ บรรยากาศดูสงบเงียบดีจริงๆ เลย

32fe20cb-279c-fbb7-b73e-5a0d4bc7a4af.JPG
49d436df-4661-ffba-2f13-5a0d4b64b25a.JPG

ถ้าสังเกตุ.. จะเห็น เสาที่ปักเป็นกลุ่มๆ อยู่กลางทะเล กระจายไปทั่วในอ่าวคราม แรกๆ อาจจะสงสัยว่าเขาเอาไว้ทำอะไรกัน? ซึ่งเสาไม้ที่ปักเป็นกลุ่มอยู่กลางทะเลเหล่านั้น เป็นเครื่องมือในการจับสัตว์น้ำอย่างหนึ่งที่เขาเรียกว่า “บามหมึก” ซึ่งเรากำลังจะนั่งเรือไปชมกันใกล้ๆ ครับ

2948ee9a-419f-840e-a46e-5a0d4b57bb22.JPG

สำหรับทริปบามหมึกนี้ จะรวมไปกับแพคเกจแล้วครับ ยังไงก็ได้ออกไป บามหมึก กันแน่นอน ส่วนจะได้หมึก หรือไม่ได้นั้น ก็ขึ้นอยู่กับช่วงฤดูกาล และสภาพอากาศ ในช่วงเวลาที่ไปนะ ไปถูกช่วงก็จะได้เห็นหมึกเยอะ หรือไปผิดช่วง ก็อาจจะได้หมึกกลับมา ตัว สองตัว ก็เป็นได้ 55+

c53d8d6c-6a45-19bf-1e88-5a0d4b2fee1f.JPG

ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยตัวต่ำลง ถังแก๊สก็ถูกจุดไฟขึ้นมา เตรียมพร้อมที่จะนำไปติดตั้ง

682c06d5-c3b2-5a4b-2488-5a0d4b7707b6.JPG
81df4773-6d11-bad4-ade5-5a0d4b312d84.JPG

เครื่องยนต์เรือถูกดับลง ปล่อยให้เรือค่อยๆ ไหลตามแรงเฉื่อย.. เข้าไปยังจุดที่จะทำการ “บามหมึก”

8fba234c-ebf8-82e6-e509-5a0d4bbb29b7.JPG

จากนั้น.. จัดการติดตั้งถังแก๊ส โดยผูกติดไว้กับเชือกให้ห้อยอยู่เหนือผิวน้ำทะเล

32b56dfb-c8ce-97f3-0f39-5a0d4bb07909.JPG

จะปล่อยเอาไว้อย่างนี้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง เพื่อล่อหมึก และ สัตว์น้ำต่างๆ ให้เข้ามา ซึ่งในช่วงเวลาที่รอนี้ เราก็จะกลับไปที่โฮมสเตย์กันก่อน ก่อนที่จะออกมาดูผลงานอีกครั้ง ในช่วงดึก.. ของคืนนี้!

80738e5b-e42d-15a6-5c63-5a0d4b083ed9.JPG

 

19.00 น. อาหารเย็น..แบบจัดเต็ม!

กลับเข้ามาพักที่ โฮมสเตย์ ในช่วงยามเย็น แสงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ซึ่งเราก็สามารถชมพระอาทิตย์ตกหน้าโฮมสเตย์ได้เลย

16d12c58-a76a-b446-ef6d-5a0d4b35636f.JPG

ได้เวลา อาหารมื้อเย็น(มื้อที่ 2) พอดี.. อาหารมื้อนี้ จัดเต็มมากๆ เป็นเมนูอาหารซีฟู้ด 4-5 อย่าง ได้กินซีฟู้ด กันอย่างหนำใจเลยทีเดียว

4c7f3da5-db64-a393-6dd6-5a0d4b0bd944.JPG

ปูม้านึ่ง เหมือนจะเป็นเมนูเด็ดสำหรับอาหารมื้อเย็นนี้ ปูม้าสดๆ เนื้อแน่นๆ จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ด เด็ดจริงๆ ครับ

79d70216-d6de-1fd2-65ca-5a0d4bf047d0.JPG

ปลาทะเลทอดสามรส ก็อร่อยดีๆ กินกับข้าวสวยร้อนๆ เหมาะเลย

90df0147-bfdc-71f4-2c4f-5a0d4b1eaaa8.JPG

หมึกชุบแป้งทอด ส่วนตัวชอบเมนูนี้นะ ชอบกินหมึกอยู่แล้ว.. อร่อย..

a4b09022-3d3c-3c86-80af-5a0d4b57357a.JPG

“หอย” ที่นี่สด ไม่เหมือนหอยที่ซื้อกินตามตลาดเลย.. จริงๆ นะ

7495b776-7d14-7189-75ae-5a0d4b7a2e81.JPG

เมนูที่ขาดไม่ได้เลย.. “ใบเหลียงผัดไข่”

5ced87e2-7818-165d-7402-5a0d4b011ca7.JPG

เป็นมื้ออาหารที่อิ่มอร่อยจริงๆ กินกัน 3 คน แต่ได้อาหารมาเยอะมากๆ แกะปู แกะหอย กินกันจนเพลิน.. อิ่มกันจนจุกเลย สำหรับอาหารมื้อนี้

13769d74-84f8-f988-2dc7-5a0d4b0eec5c.JPG

 

21.00 น. ไปดูผลงานการ.. “บามหมึก”

ได้เวลาพอสมควร..

พี่ประจักษ์ ก็เรียกเรา..ให้ไปขึ้นเรือ เพื่อออกทะเลไปอีกครั้ง ไปดูผลงานกันว่าจะได้ “หมึก” กลับมากันบ้างมั้ย?

c091dc65-9862-176e-eb7a-5a0d4b1c097b.JPG

ลงเรือ.. นั่งเรือไปยังจุดเดิม ที่ได้ไป ติดตั้ง ถังแก๊ส ห้อยเอาไว้..

c5feb343-de5d-1e37-21ee-5a0d4ba185b2.JPG

ในยามค่ำคืนที่มืดมิด ก็จะมีเพียงแสงสว่างของถังแก๊ส นี่แหละ.. ที่เป็นเหมือนตัวล่อให้ หมึก และ สัตว์น้ำ ต่างๆ เข้ามา

799682f5-0e6f-b0cb-acb6-5a0d4bea0fc8.JPG

จากนั้น.. จะเริ่มทำการบามหมึก ด้วยการหมุนรอก ให้เชือกดึงมุมทั้งสี่ของอวนตาข่ายให้ขึ้นเหนือผิวน้ำ ระหว่างนี้ก็ลุ้นกันไป ว่าจะได้อะไรติดขึ้นมาบ้าง?

76464c94-3940-6d2c-e888-5a0d4b1290bc.JPG

ช่วงเวลาที่เราเดินทางไปนั้น.. ต้องถือว่าเป็นช่วงที่ หมึก เข้ามาน้อย จึงได้หมึก กลับมาไม่มาก แต่.. ก็พอให้ได้กิน พอให้หายอยาก อยู่ครับ..

95069891-22c1-18ac-32bf-5a0d4cf37a55.JPG

เมื่อหมุนรอกดึงอวนตาข่ายจนขึ้นสุดแล้ว ก็ใช้สวิงตัก บรรดาสัตว์น้ำต่างๆ ขึ้นมา

36fe2d5a-7a07-833a-dcc6-5a0d4ce90e95.JPG

รอบนี้.. มีปูตัวใหญ่ ติดขึ้นมาด้วย.. และ สำหรับ ปลาตัวเล็ก หรือ สัตว์น้ำชนิดอื่นๆ ที่ไม่ต้องการ ก็จะถูกปล่อยกลับลงสู่ทะเลตามเดิมครับ

d4d30f37-8216-cd28-b11a-5a0d4c8a6b44.JPG

ออกมาทะเลรอบนี้.. จึงเน้น กับ “หมึก” เป็นพิเศษครับ ไม่ลืมที่จะติดน้ำจิ้มซีฟู้ดลงเรือมาด้วย เราจะมาเฉือนหมึกกินกันแบบสดๆ บนเรือครับ(ถ้าได้วาซาบิมาด้วยจะดีกว่ามาก..ครับ ได้ลองหลายๆ แบบ)

75c7b733-9c32-b820-6da2-5a0d4c54410e.JPG

“หมึก” ที่บามได้ ได้มาปริมาณที่น่าพอใจ พอได้ลองกิน กันครบทุกคนครับ

3d9ee1c6-2fb5-8ec1-43ff-5a0d4cd649d4.JPG

หมึก สดๆ ตัวก็จะใสๆ อย่างนี้แหละครับ จัดการเตรียมหั่น พร้อมกินกันแบบสดๆ

cbce2c12-e7fd-a864-7a53-5a0d4c3042db.JPG
b813016d-74e7-60bb-a0c1-5a0d4c1aed4a.JPG

ก่อนอื่น.. ก็ต้อง ทำความสะอาด เอาไส้ข้างในออกกันเสียก่อน

ceea82fe-6337-fa91-9cea-5a0d4c6f324f.JPG

ล้างน้ำ แล้ว..ก็หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ เหมือนซาซิมิ

e8cb4e4b-b490-86d8-586c-5a0d4c47bb82.jpg

จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ด (หรือ วาซาบิ) ที่เตรียมมา..

17b5ffc1-cb26-d0c8-a627-5a0d4ce0788c.jpg
191cf9fa-f201-be9e-6881-5a0d4cc339dc.jpg

แล้ว.. ก็ เอาใส่ปากครับ กิน หมึกสดๆ แบบนี้ก็ หนึบๆ หวานๆ ดีเหมือนกัน เนื้อหมึกนี่ หวานใช้ได้เลยล่ะ เป็นประสบการณ์หนึ่งที่ได้มาลอง ถือว่าคุ้มค่า ครับ

efba5770-2a9b-873c-28ce-5a0d4ceb4d67.jpg

 

21.30 น. แวะดู.. แพลงตอนเรืองแสง!

หลังจากได้กิน “หมึก” สดๆ กันกลางทะเลเป็นที่เรียบร้อย ระหว่างกลับเข้าฝั่ง เรายังได้แวะไปดู แพลงตอนเรืองแสง ด้วย ซึ่งการจะได้พบเจอกับ แพลงตอนเรืองแสง จะพบมาก หรือน้อย นั้น ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัย หลายอย่าง.. ทั้งฤดูกาล และสภาพอากาศ และจะสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ในคืนเดือนมืด ที่มืดบรรยากาศมืดสนิท ไร้แสงใดๆ รบกวน

e2439b04-7c5a-d9a9-d4f5-5a0d4c98b8ab.JPG

เรือที่เรานั่งมา.. หันหัวเรือเข้าไปที่ริมหน้าผาแห่งหนึ่ง ที่อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน เราเริ่มสังเกตุเห็นว่า ผิวน้ำที่เรือได้ค่อยๆ แหวกเข้าไปนั้น เริ่มมีแสงสีน้ำเงินระยิบระยับ อยู่บนสันคลื่นเล็กๆ เป็นสัญญาณว่า.. เริ่มเข้าสู่ เขตของแพลงตอนเรืองแสงแล้ว

97b2a2cd-f1a5-2608-ab6d-5a0d4cfd0def.JPG

พี่ประจักษ์ ให้เราลองเอามือ ลงไปกวนลงบนผิวน้ำทะเล เมื่อมือไปกระทบ ก็จะเกิดแสงสีน้ำเงิน ขึ้นมา สวยงามครับ

d8000413-7cfe-be5e-a630-5a0d4c97e693.JPG

ภาพถ่าย แพลงตอนเรืองแสง อาจจะถ่ายยากหน่อย เพราะอยู่บนเรือที่มีพื้นที่จำกัด และเรือโคลงไปมาตามคลื่นอยู่ตลอดเวลา ภาพถ่ายมาอาจจะไม่สวยเท่าใดนัก แต่..แนะนำให้ลองไปชมของจริงครับ ระยิบระยับ สวยติดตาเลย

65cd5820-2bc2-c586-c762-5a0d4c162560.JPG
5eeb4c31-09d5-dace-a1a1-5a0d4c7fed4e.JPG
717f310d-0068-9594-8e03-5a0d4cd9637b.JPG
52940072-0257-f101-d6d9-5a0d4ca61fb0.JPG

เมื่อชม แพลงตอนเรืองแสง ได้สักพักใหญ่ๆ ก็ได้เวลากลับฝั่ง ไปพักผ่อนกันแล้วครับ..

 

DAY #2 KOH KULA

06.00 น. สวัสดีอ่าวคราม..ยามเช้า!

ตื่นมากับเช้าวันใหม่.. ลุกขึ้นมาจากที่นอน ที่เราได้นำฟูกมาปูนอนรับลมทะเลกันกลางชานบ้าน เมื่อคืนนอนหลับสบายกันทั้งคืน ตื่นมาก็เห็นวิวทะเลเลย บรรยากาศยามเช้าอย่างนี้ดีมากๆ เลยครับ

72e92da3-ef13-77e1-eeff-5a0d4cad1668.JPG

มานั่งเล่น ชมวิถีชีวิตของชาวประมง ใน ยามเช้า

b6a024b5-0386-50d4-31f8-5a0d4cdc299e.JPG

เช้าๆ แบบนี้ต้องจิบกาแฟร้อนๆ ครับ .. “จิบกาแฟ แลปลาโทง” กิจกรรมสบายๆ สำหรับเช้านี้

3999c654-3260-c1ee-7545-5a0d4ca8f1ce.JPG

ปลาโทง.. ที่ว่านั้น จะมาแหวกว่ายให้ชมในทุกๆ เช้าครับ จึงเป็นที่มา.. ของ จิบกาแฟ แลปลาโทง

8b814ff0-04c7-68a9-dfe0-5a0d4c258dcb.JPG

หมึก บางส่วนที่ได้มาจากการ บามหมึก เมื่อคืน เราจะนำมา ย่างไฟอ่อนๆ กินกันในเช้านี้ครับ

625325f9-3f2c-2480-d8cc-5a0d4c0b256d.JPG

ย่างหมึกบนไฟอ่อนๆ ส่งกลิ่นหอมกรุ่นแต่เช้าเลยทีเดียว

64830875-44e3-812d-3531-5a0d4d9d4b52.JPG
d5dcbd5b-11e2-0436-7e85-5a0d4d1d7617.JPG

หมึกย่าง กับ น้ำจิ้มซีฟู้ด .. คือ ที่สุดแล้วล่ะครับ ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ 55+

4d5af52f-f32b-3eb3-a7a5-5a0d4d2919d0.JPG

ย่างเสร็จ นำมาหั่นกิน พร้อมนั่งชมบรรยากาศยามเช้า

cb8a011e-a5b9-2085-3ebf-5a0d4db0dd6d.JPG

นอกจากนี้.. ยังมี อาหารมื้อเช้า(มื้อที่ 3) เป็น ข้าวต้มทะเล มาให้ด้วยนะครับ ยกเสิร์ฟมาให้ทั้งหม้อเลย ข้าวต้มร้อนๆ แบบนี้ เข้ากับบรรยากาศดีนะ

a988bdac-8517-5909-a876-5a0d4d88ac20.JPG
9c2ad752-9669-bdc5-ff07-5a0d4da674b9.JPG

สำหรับ ข้าวต้มทะเล ผมจัดไป 3 ชาม อิ่มเลยสำหรับมื้อเช้านี้!

9cf00b2b-a919-c5eb-43cb-5a0d4de92455.JPG

 

07.00 น. ไป.. เที่ยวเกาะกุลา!

ช่วงสายนี้.. ยังพอมีเวลาเหลือสำหรับกิจกรรมเที่ยว เกาะกุลา ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลจาก อ่าวคราม ใช้เวลาเดินทางแค่ 20 นาทีเท่านั้นเอง

6bd3be31-256e-3ef6-1865-5a0d4d943dcd.JPG

การไปเที่ยวเกาะกุลา จะอยู่นอกเหนือจากแพคเกจ ซึ่งถ้าหากต้องการไปเที่ยวเกาะกุลานั้น จำเป็นจะต้องเหมาเรือไป โดยสามารถติดต่อเหมาเรือ กับทางโฮมสเตย์ได้เลย ในราคาเหมา ลำละ 800-1000 บาท(ขึ้นอยู่กับจำนวนคน) เรือสามารถรับได้ไม่เกิน 10 คน/ลำ ถ้าหารกันหลายคนก็ประหยัดไปเยอะ หรือ จะรวมกลุ่มไปกับคนที่มาพักกลุ่มอื่นๆ แล้วออกเรือไปพร้อมกัน ก็ได้ครับ

b4c777ed-3973-eff1-a594-5a0d4dedb4c2.JPG

พี่ประจักษ์ จะเป็นผู้ที่นำเรือพาเราไปที่ เกาะกุลา ครับ พร้อมเป็นไกด์ในตัว คอยบรรยายจุดสำคัญ ระหว่างทาง ด้วยความสนุกสนาน และมุกตลก ที่ถูกยิงมาเป็นระยะๆ 55+ จึงให้ความรู้สึกที่เป็นกันเอง ไม่เครียด สร้างความสนุกสนานระหว่างเดินทางครับ ซึ่งก่อนจะมุ่งหน้าไป เกาะกุลา ก็ชมบรรยากาศยามเช้า ของ บ้านอ่าวคราม กันอีกสักครั้ง

e44c9fef-f04e-39e4-755f-5a0d4dd69c28.JPG

เรือแล่นผ่าน เขาสิงโต(ลักษณะคล้ายสิงโต) ที่อยู่ห่างออกมาไม่ไกลจากบ้านอ่าวคราม

423b950c-e821-e612-26e0-5a0d4d0b4c05.JPG

เขาช้าง (ลักษณะเหมือนกับช้างกำลังหมอบอยู่)

21b18775-5bd8-234c-eb36-5a0d4db1bc51.JPG

เข้าสู่เขตของปะการังใต้น้ำ น้ำใส จนมองเห็นพื้นล่างของทะเลได้ชัด

77f341a0-f06f-1832-96c3-5a0d4df6023d.JPG
c8ac848f-3297-c8c9-a001-5a0d4d20303e.JPG

เขาเทวดา เขาลูกนี้ถึงกับต้องใช้จินตนาการพอสมควร ใช้เวลามองอยู่ต้องนาน ว่าเป็นเทวดายังไง? 55+ (ลักษณะเหมือนเทวดาหันข้าง แล้วพนมมือ หรือ ชูอะไรสักอย่าง ขึ้นเหนือหัว)

adaed6f1-68a3-f310-b0d8-5a0d4da1e98d.JPG

มุมไกลออกมาอีกหน่อย น่าจะช่วยให้เห็นภาพชัดขึ้น ครับ ต้องใช้จินตนาการขั้นสูงเลยทีเดียว.. 55

3af772f6-9c5c-4daa-c3f7-5a0d4e0d137c.JPG

ไม่ไกลกัน มี เขาทะลุ ธรรมชาติสร้างสรรค์ ทะลุทั้งบน ทั้งล่าง มี 2 รู

251dfc92-7818-46f5-86b9-5a0d4e7aaaea.JPG

นักท่องเที่ยวอีกกลุ่มที่ลงเรือมาพร้อมกัน สนุกสนานกันสุดๆ ครับ

13d2960f-0d59-7120-b64a-5a0d4ee54ada.JPG

พื้นที่นี้ค่อนข้างจะมีความเป็นธรรมชาติสูงครับ มาช่วงเช้าๆ แบบนี้ ถ้าโชคดีหน่อย.. ก็จะพบกับ ค่างแว่น ครับ

a9497848-1337-abbe-3012-5a0d4e1c7bd7.JPG

ต้องใช้สายตาเพ่งหาดูพอสมควรเลย เพราะถ้าเจ้าค่างแว่นไม่มีการขยับกาย ..ก็ดูเหมือนว่าตัวของมันจะกลมกลืนไปกับสีของหน้าผาเลย

df3303db-0b4b-397b-c816-5a0d4eca80f6.JPG

จากนั้น.. ก็ได้เวลามุ่งหน้า ไป “เกาะกุลา” ครับ

aab40396-4868-9257-eb48-5a0d4e2ffa45.jpg

ผ่าน เกาะเต่า .. ที่ลักษณะเหมือนกับเต่าที่กำลังคลานมาหาเรา

95ca78a8-075d-2c10-48e2-5a0d4e77aa75.JPG

ไม่นานก็เริ่มเข้าเขต เกาะกุลา แล้ว เห็นปะการัง ใต้น้ำเต็มไปหมดเลย ซึ่งเกาะกุลาแห่งนี้ ก็ขึ้นชื่อเรื่องแนวปะการังที่สวยงามครับ ถ้าอยากดำน้ำตื้น ก็มีให้เช่าอุปกรณ์ หน้ากากดำน้ำ เช่นกัน(100 บาท)

a7897c94-ea2b-9d90-2bfb-5a0d4e88d72d.JPG
53465631-7888-ba13-f4a0-5a0d4e77bd67.JPG

เมื่อขึ้นเกาะมาแล้วก็ต้องจ่ายค่าบริการของอุทยานฯ เสียก่อน(40 บาท)

8bbfd4db-1eab-b389-c756-5a0d4ebd77aa.JPG

แนวปะการังกุหลาบ(ตามที่ชาวประมงเรียก) ที่อยู่บริเวณท่าเรือเกาะกุลา สวยงามเหมือนดอกกุหลาบเลย

d822f993-5ed2-7a07-0105-5a0d4e1c482e.JPG

ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะนิยมมาเที่ยวแบบครึ่งวัน หรือ ชิลๆ หน่อยก็จัดไปเต็มวัน โดยไม่จำเป็นต้องพักค้าง เพราะอยู่ใกล้ฝั่งแค่นี้เอง.. กิจกรรมบนเกาะก็จะเป็นการดำน้ำดูปะการัง มีหาดให้ลงเล่นน้ำอยู่ 2 หาด เป็นชายหาดเล็กๆ อยู่ติดๆ กัน เดินไปมาระหว่างทั้ง 2 หาดได้อย่างสบายๆ หรือ การพายเรือคายัค ที่สามารถนำเรือไปพายได้อย่างฟรีๆ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

461210e4-0112-9dda-a0f6-5a0d4e00f360.JPG
48f9d385-591b-fe8d-0086-5a0d4ec9b779.JPG
75e4c26c-ee41-0cfb-a01e-5a0d4eb93497.JPG
7f7dfb6a-7709-8444-2ec0-5a0d4ea3cfb7.JPG

นอกจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้ว เกาะกุลา ยังเป็นแหล่งอนุบาลเต่า อีกด้วย

e5f7dff2-6b91-6449-502b-5a0d4e1589ac.JPG
42bc7216-f1ed-26f0-8a62-5a0d4ee6f540.JPG

จากหาดตรงท่าเรือ เดินมาอีกประมาณ 200 เมตร ก็จะพบอีกหนึ่งหาด ซึ่งหาดตรงนี้จะดูสงบกว่า ซึ่งหาดนี้จะมีที่พักของทางอุทยานฯ ไว้บริการด้วย มีทั้งบ้านพักเป็นหลังราคาหลังละ 1,200 บาท พักได้ 4-5 ท่าน นอกจากนี้ยังมีลานกางเต็นท์ไว้รองรับอีกด้วย(ไฟฟ้ามีให้ใช้ตั้งแต่เวลา 18.00 – 24.00 น.) สำหรับผู้ที่พักบนเกาะ ก็มีอาหารไว้บริการ คิดราคาคนละ 600 บาท(ทั้งหมด 3 มื้อ)

bba1acc7-9e9e-e383-9108-5a0d4eb6663c.JPG
f2c28d91-5de9-bbc8-126b-5a0d4e37db73.JPG

ที่สำคัญ ที่นี่.. มี บริการพายคายัคฟรี ด้วย สามารถนำคายัคออกไปพายเล่นกันได้

49be9221-0b9b-21e2-75c3-5a0d4ebe09ff.JPG
77fee030-75aa-e59d-d2f8-5a0d4e89e956.JPG

บริเวณที่น้ำตื้นจะมองเห็น แนวปะการัง และ หอยมือเสือ ได้อย่างชัดเจน โดยที่ไม่ต้องดำลงไปใต้น้ำเลย..

49c05147-3872-eb45-116a-5a0d4e277b4c.JPG
d131db74-e042-63dd-439b-5a0d4e7128eb.JPG
11891ff2-8be2-f773-8973-5a0d4e3e5767.JPG
7cbd0b70-c396-d020-4912-5a0d4ebf3788.JPG

พายคายัคเล่นชมธรรมชาติรอบ เกาะกุลา

455fa56a-6ca1-5962-4991-5a0d4e5223ce.JPG

พายเหนื่อยๆ ก็มาพักผ่อนนอนเปลริมหาด ซึ่งเราใช้เวลาอยู่ที่เกาะกุลา แค่ประมาณ 1-2 ชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว เพราะ.. เกาะเล็กมากจริงๆ มีเวลาเหลือ ก็มานอนเล่น พักผ่อนริมหาด รอเวลากลับ..

31e6bdd4-cc47-eb3d-be24-5a0d4e81b89d.JPG

บรรยากาศชายหาดที่สงบ เหมาะมาพักผ่อน นั่งเล่น นอนเล่น สบายๆ อยู่ได้ทั้งวัน เลยล่ะ!

4dc7a69f-3e8d-8599-01c7-5a0d4ed2ed51.JPG

 

11.30 น. เดินทางกลับ!

เรือกลับมาถึง แดนโดมโฮมสเตย์ ก็จัดการอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า เก็บของเตรียมตัวเดินทางกลับกันครับ ซึ่งเรานัดแนะให้ทางโฮมสเตย์ออกไปส่งเราที่ สถานีรถไฟสวี โดยให้ทันรถไฟ ขบวนด่วนพิเศษ 40 ออกจากสถานีรถไฟสวี เวลา 12.18 น. ราคา 562 บาท กลับมาถึง สถานีรถไฟกรุงเทพฯ เวลา 19.45 น. เวลาดีพอเหมาะ พอเจาะ และกลับถึง กรุงเทพฯ ไม่ดึกเกินไป..

13f006a7-63a5-adfe-8399-5a0d4e7ab168.JPG

ทริปนี้.. จึงเป็นทริปแห่งการพักผ่อนแบบสั้นๆ แต่.. ได้รสชาติ ได้มาพักผ่อนในโฮมสเตย์ชาวประมงแบบเรียบง่าย คล้ายว่า..ได้มานอนบ้านญาติตัวเอง บรรยากาศเป็นกันเอง สนุกสนานครื้นเครง อาหารทะเลสด และอร่อย อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ เป็นประสบการณ์ที่ดีที่มีโอกาสได้มาสัมผัสครับ!

 

 

 

ติดต่อ แดนโดมโฮมสเตย์ ได้ที่ :

Facebook แดนโดมโฮมสเตย์ – บ้านอ่าวคราม

Tel 086-941-7046

 

 

ติดตามการเดินทางทริปอื่นๆ ได้ที่..

 

การท่องเที่ยวเชิงไฉไล | CHAILAIBACKPACKER

Fanpage : https://www.facebook.com/chailaibackpacker

Instagram : CHAILAIBACKPACKER

Twitter : @chailaibackpack / goo.gl/VIBXC9



Viewing all articles
Browse latest Browse all 3101

Trending Articles


คลิปซูฉีอาบน้ำ เห็นหมด รีบดูก่อนโดนลบ


ยุงบินเหมือนกอดกัน 2 ตัว มันทำอะไรอยู่ครับ


ใครเคยสั่งครีมของ Ningchin shop บ้างคะ รีวิวครีมหน่อยคะ


แจกภาพพื้นหลัง iPhone สวยๆ (อัปเดต) หลายภาพหลายรูปแบบ


รหัสโอนเงิน tr to NATID คือ อะไรครับ


ใครรู้จักบริษัท the singular group บ้างครับ...


“โรคตุ่มน้ำพอง หรือ โรคเพมฟิกอยด์” อาการเป็นอย่างไร พร้อมวิธีป้องกันและดูแลรักษา


Notability อัปเดตใหม่เพิ่มฟีเจอร์เปลี่ยนลายมือให้เป็นตัวพิมพ์ภาษาไทยได้แล้ว


วิธีนับข้อมูลใน Pivot แบบไม่นับตัวที่ซ้ำกัน (Distinct Count)


เล่นแร่แปรสูตร : การแปลงวันที่ Text ให้เป็นวันที่ Date