
บ้ า น ป้ า ต้ อ ย แม่กำปอง-บ้านหลังใหม่ในวันที่ความเปลี่ยนแปลงมาเยือน
แม่กำปอง อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ จ.
แ ม ว มุ ม ก ลั บ (Walter Ice gump)การเริ่มต้นบนความคาดหวังของบทบาทที่รับไม้ต่อ. . .
หลังจากการปิดตัวของบ้านสายชลโฮมสเตย์แม่กำปองในวันที่ 30 กันยายน 2560 ที่ผ่านอันเนื่องมาจากปัญหาและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในหมู่บ้านท่องเที่ยวแม่กำปอง ซึ่งมีทั้งการจากไปและการผุดเผยใหม่ ๆ ของที่พักและร้านรวงต่าง ๆ ที่ผันเปลี่ยนไปตามวันเวลาและโอกาส บ้านป้าต้อย แม่กำปอง เลือกที่จะรับไม้ต่อจากบ้านสายชลเดิมที่ต้องปิดตัวไป เป็นการเริ่มต้นบ้านหลังเล็กแห่งใหม่ที่ไม่ง่ายท่ามกลางแข่งขันสร้างตัวตน ที่ก็ยังมองไม่ออกในทิศทางที่จะเติบโตเป็นไปในวันข้างหน้า จะเป็นบ้านแบบไหน จะสร้างความรู้สึกความทรงจำแบบใดร่วมกับผู้คนที่เข้ามาพัก ในขณะที่บ้านสายชลก่อนหน้านั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นและเรื่องเล่าในแบบต่าง ๆ มากมาย เป็นความท้าทายอย่างยิ่ง แต่ป้าต้อยก็เลือกที่จะเปิดรับโอกาสอันนั้นมา และเลือกที่จะบุกตะลุยสร้างสรรค์ไปพร้อม ๆ กับพี่ไอซ์ที่จะเข้ามาดูแลให้บ้านหลังน้อยนี่เติบโตแข็งแรงเป็นแหล่งพักกายใจของผู้คนที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางในวันข้างหน้า

การเดินทางของบ้านหลังใหม่จึงเริ่มขึ้นด้วยความไม่รู้ และเลือกที่จะเรียนรู้และเล่าเรื่องราวใหม่ไปพร้อม ๆ กับผู้คนที่จะเข้ามาพักนับจากวันแรกไป ไม่ใช่หมุดหมายจะเป็นบ้านที่เราจะเป็น แต่จะเป็นบ้านที่ทุกคนอย่างให้เป็น ให้เป็นที่พัก ที่นอน ที่หลบพิง หรืออาจจะเป็นที่ระบายให้ผู้คนเอาเรื่องเล่าของเขามาทิ้งไว้ที่นี่
ความรู้สึก ภ า ย ใ น
ภายในบ้านใหม่ มีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้องนอน แต่ละห้องนั้นสามารถผู้ที่นอนได้สูงสุด 2-6 ท่าน โดยประมาณ โดยที่เป็นห้องกว้าง 1 ห้องขนาดเท่ากัน โดย 2 ห้องจะอยู่ที่ชั้นบนของตัวบ้านมีระเบียงเล็กเปิดออกไปสู่ด้านหน้า

และ 1 ห้องที่ชั้นล่างไม่มีทางออกสู่ระเบียงแต่จะมีช่องหน้าต่างบานเกล็ดค่อนข้างเยอะถือเป็นห้องที่โปร่งที่สุด

โดยที่แต่ละห้องจะมีห้องน้ำในตัวอยู่แล้ว และกำลังขยายเครื่องทำน้ำอุ่นให้ครบถ้วนเพียงพอต่อความต้องการ










ความ ท้ า ท า ย ในความ ค า ด ห วั ง
แน่นอนว่าสิ่งที่บ้านหลังใหม่ต้องเผชิญไม่ใช่แค่ความท้าท้ายภายใน แต่เป็นอีกส่วนที่มาจากภายนอกด้วย เนื่องจากแม่กำปองเองกำลังมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน อาจส่งผลกระทบไปถึงรูปแบบกลุ่มคนที่เข้าท่องเที่ยว มีการเปลี่ยนไปสู่ลักษณะที่ฉาบฉวยขึ้น มาไวไปไว ไม่ได้ดื่มด่ำซึบซับบรรยากาศ การมากินนอน เคลียร์งาน หลบอาจารย์ทำเปเปอร์หรืออะไรแบบนั้น แน่นอนว่าเราอยากดึงบรรยากาศแบบนั้นกลับมา คนที่จะมานอนอ่านหนังสือได้หลาย ๆ วันให้มันจบ ๆ ไป ข้อดีของตัวบ้านคืออาจจะเพราะว่ามันอยู่ลึกสุดในสุดและที่สำคัญคือมีเสียงน้ำตกกลบสุ่มเสียงต่าง ๆ นอกใจออกไป

แล้วในส่วนของภายในอนาคตอาจมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมเป็นกึ่งแกลลอรี่เล็ก ๆ เนื่องจากพี่ไอซ์ที่เฝ้าดูแลพอมีความเข้าใจด้านการวาดภาพและชื่นชอบอยู่บ้าง

มันยังพัฒนาต่อไปได้อีก ยังไปไม่สุดทาง คือมันพึ่งเริ่มต้นและจะเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ ทั้งตัวบ้านและบรรยากาศ มันยังไม่ต้องเติบโตไปพร้อมกับผู้คนอีกมากมายที่จะผ่านเข้ามา

ช่วงที่ดีที่สุดก็ขึ้นอยู่กับว่าใครรู้สึกพิเศษกับมันอย่างไรช่วงไหน? แต่ถ้าเอาตามกาลเวลาก็แน่นอน 10-5 มค. ของทุกปีที่โดยปกติก็จะมีดอกพญาเสือโคร่งผลิบานที่ลานหน้าบ้าน ในช่วงของระเบียงเต้นท์ที่มีไว้รองรับคนที่ชื่นชอบบรรยากาศ Outdoor ซึ่งถ้าวันไหนฟ้ามืดและรอบบ้านไม่มีใครก็เพียงพอที่จะเห็นดาวที่แจ่มชัด

ช่วงทางลงมาบ้าน ยังผ่านครัวแบบดั้งเดิมของบ้านที่อยู่ด้านบนก่อนด้วย เป็นมุมที่มองมาจะเห็นเป็นพญาเสือโคร่งและลานเต้นท์พอดี

มีน้ำตกเล็กรายล้อมรอบบ้าน เนื่องจากบ้านอยู่ในช่วงกลุ่มบ้านแรกที่ลำธารอันรินไหลมาจากน้ำตกแม่กำปองผ่าน และอยู่ในช่วงต้นทางเดินผ่านป่าบนเส้นทางศึกษาธรรมชาติไปน้ำตกแม่กำปองพอดี ด้านหน้าทั้งหมดล้อมด้วยลำธาร ส่วนด้านหลังเป็นผนังผา







ความพร้อมต่อ อ น า ค ต . . .
"มันไม่ง่ายที่จะเข้าไปแทนที่ใครสักคน" และบ้านป้าต้อยเองก็ไม่ได้คาดหวังให้เป็นเช่นนั้น เราแค่พยายามจะเป็นเรา ตัวตนใหม่ แต่โอกาสที่เข้ามาตรงหน้าก็ผลักดันให้เราก้าวเดินในที่สุด ก้าวไปพร้อมกับความไม่รู้การทดลอง การดูแลผู้คนที่แวะเวียนเข้ามาแตกต่างกัน ความสัมพันธ์ใหม่ ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย ทางบ้านทำได้แค่เตรียมพร้อมและน้อมรับ

เรามีพื้นที่ เรามีระเบียงเต้นท์ เรามีลานโขดหิน แต่ก็ยังขาดความมั่นใจอยู่บ้างหากผู้คนเอาความสัมพันธ์ตัวเองมาวางทับซ้อนลงตรงนี้ เขาจะสบายใจไหม หากผู้คนมีความต้องการไม่ตรงกัน แต่ในเมื่อมันเป็นรูปแบบที่พักในแบบนี้ ในความเป็นบ้านที่อยากให้เป็นเหมือนบ้านของทุกคนเอง อยากให้ทุกคนหยิบจับและเก็บล้าง เหล่านี้บ้านป้าต้อยได้เรียนรู้มาจากสายชล(เดิม)

บ้านป้าต้อยจึงสามารถรองรับผู้คนได้เพียง 15-17 คน นับจากวันนี้ เพื่อให้ทุกคนสามารถมีพื้นที่ได้ขยับอย่างสบายปลอดโปร่งในระดับหนึ่ง และเนื่องจากตัวบ้านอยู่ห่างจากลานจอดรถยนต์ซึ่งใกล้ที่สุดอยู่ 100 และมีทางแยกลงบันได ทำให้บ้านเราไม่เอื้ออำนวยต่อกลุ่มเปราะบางอันได้แก่ เด็กเล็ก คนชรา ผู้ป่วย ผู้ใช้วีลแชร์หรืออุปกรณ์ค้ำยันต่าง ๆ ที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด หรือไม่มีผู้ดูแลมาด้วย

มองจากด้านบนลงไปบันไดข้างบ้าน 'ชีวิต ชีวา' ในช่วงกลางคืนนั้นมีแสงไฟสว่างเพียงพอประมาณหนึ่ง แล้วไม่มีกฏปิดไฟชัดเจนตราบที่ยังมีคนใช้ มีเพียงกฏห้ามส่งเสียงดังหลัง 21.00 น. ไปแล้วที่เป็นกฏและความร่วมมือรวมกันของหมู่บ้านที่ต้องการซึ่งความเคารพเอาใจใส่จากผู้มาเยือนอย่างมากมาย






