Samoeng Loop 1269 : เชียงใหม่ - สะเมิง เส้นทางสายดอกไม้
อำเภอสะเมิง (Samoeng District) จ.เชียงใหม่
maria bamboo
25th Feb 2018 จริง ๆ แล้ววันนี้ต้องขับตรงไปโบสถ์สินะ แต่ด้วยความหมอนฉุดหัว และผ้าห่มทับตัวทำให้ตื่นยาก - ตื่นสาย จากที่แต่งตัวจะไปโบสถ์อยู่แล้วเชียว เลี้ยวขวาออกคูไปทางสะเมิงเฉย เพราะอะไร ทำไมต้องเส้นนี้ ก็เพราะ... ไม่ชอบความอะไรก็ตามที่มัน "ค้างคา" มันค้างคามาหลายปีดีดัก ไอ่โค้งเจ็ดพับก็น่ากลัว แต่เท่าที่จำได้ว่า... คืนเคาท์ดาวน์ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งเมื่อวัยกะเตาะนั้น.. ทางไปที่นั่น มันไม่ได้ชันขนาดนั้นนี่นา (หรือตรูไม่ได้ขับว่ะ) เอ่อ ๆ ๆ เอาก็เอา (คือคุยกะตัว หรือจะเป็นออเจ้า) ไปเส้นนั้นกันค่ะ ข่าวว่าขาดอกไม้อย่าง จขบ.ไม่น่าผิดหวัง มันเลยเป็นที่มาของทริปในบล๊อกนี้ค่ะ ส่วนตัวแล้วขอเรียก กฤษฏาดอยเนาะ เพราะรู้จักมานานแล้ว คุ้นชื่อเดิมมากกว่า เหมือนจะได้ข่าวว่าเขาเพิ่งปรับเปลี่ยน รีโนเวทไม่นานนี้ จำได้ว่าหน้าฝนสองปีก่อนยังไปยูเทรินรถที่ป้ายกฤษดาดอยซึ่งอยู่ในระหว่างการปรับปรุงอยู่เลย ส่วนการเปิดบริการโฉมใหม่นี้ จขบ.ไม่มีข้อมูลที่แน่นอนค่ะ รู้แต่ว่า "สถานที่แห่งนี้เปลี่ยนไปแล้ว"

. . . ซึ่งขับออกไปไม่ไกลก็เจอต้นดอกเหลืองอินเดียบานกันเต็มค่ะ (ตามรอยพี่จิน)


มาดูเรื่องเล่าผ่านเลนส์ของ จขบ.เนาะ ซึ่งวันที่ไปก็ดันลืมปรับ iso คืนก่อนนั้นดันไป 3200 แหะ ๆ ลั่นไปเกือบสิบรูปถึงจะดู แม่เจ้า (มือทาบ-อก) มันจ๊ามาก !!! ปรับได้แค่นี้ค่ะ ส่วนจะให้กลับไปถ่ายใหม่ ไม่ใช่จขบ.ละค่ะ ยิ่งเจอแสงแดดอย่างนี้ด้วยแล้ว ผ่านขร่ะ



ลุงในรูปก็จะเพ้อว่า แหม่ะ.. ตั้งเกือบ 20 ปีไม่ได้มา (แล้วลุงไปอยู่ในมามิทราบ?) และ กว่าจะรู้ตัว กว่าจะได้ปรับความไวแสง



................................ซึ่งการมาเยือนที่นี่เหรอ? อย่าได้ถามว่ามาทำไม ใจความนั้นมันสำคัญแค่ว่าอยากมาแวะเพราะไม่ได้แวะมา - นานแล้ววววววววแต่ รู้สึกจะแวะนานไปหน่อย แวะจนเมื่อยเลย หิวด้วย








อยู่กับต้นก็สวย ร่วงที่พื้นก็ดันสวยอีก จะสวยไปไหน

หลุดไปอยู่โลกส่วนตัวได้สักพัก มีคนเรียก "แม่" อ้อได้เวลาตื่น

""""""""""""" วิ่งตามหนุ่มน้อยไป... จนได้เจอที่มาของ creek สายน้ำเล็ก ๆ ลัดเลาะในรีสอร์ทจากที่ร้อน ๆ ได้ยินเสียงสายน้ำแล้ว ฮืมมม เย็นทันที



เถลไถลจนข้ามฟากไป




ไปต่อเรื่อย ๆ กับดอกฝ้ายคำที่แม้ร่วงแล้วก็ยังงาม เอิ่มอันนี้พูดถึงดอกนะคะ ไม่ได้หมายถึงตัวเอง 5555+

. . . เรื่อยไปจนคนตัวเล็ก ๆ บ่นร้อน หิวน้ำ โมเม้นท์ตามหาเครื่องดื่มก็บังเกิด




โม.. น้ำนี้ไม่ได้นะจ๊ะ

เจอละ รอดตาย


ซึ่งงานไม้เขาก็จะสวยหน่อย ๆ นี่ ๆ เราไม่ได้เจอกันนานแค่ไหนแล้วล่ะ





ซึ่งเครื่องดื่มอร่อยนะ ติงว่าแพงไปไม่นิดค่ะ T.T


ได้เครื่องดื่มชื่นอกชื่นใจคนตัวเล็กแล้ว... ได้เวลาหาที่ใหม่กันสินะ ว่าละก็ลาเลยค่ะ

เที่ยวแบบหอม ๆ ที่สวนกุหลาบหลวงทุ่งเริง : "เชียงใหม่ - สะเมิง" เส้นทางสายดอกไม้

25th February 2018 จากที่เดินจนหอบที่ Flora Creek - กฤษดาดอย และยังไม่ใช่เวลาข้าวเที่ยงนัก เราตัดสินใจหาข้าวเที่ยงกินกันบนดอย เพราะยังอยากไปต่อกันบนทางสายดอกไม้ "เชียงใหม่ - สะเมิง" ที่อ้าง จะว่าไป... ไหน ๆ ก็มาแล้ว opened my eyes on Samoeng loop 1269 กันเนาะ จากที่เคยกลัว ๆ ไม่กล้าขึ้นหลายครั้ง มื้อเที่ยงนี้คงจะใกล้คำว่า "กล้า" ขึ้นอีกนิดเราออกตามหาสวนกุหลาบหลวงที่ได้ยินเขาอ้างว่างดงามสไตล์สวนอังกฤษ "สวยจริงเหรอ" ว่าละก็จัดสิเนาะ รออะไร ^^

สวนกุหลาบหลวงโครงการหลวงห้วยผักไผ่ เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ขับไปบนเส้นทาง 1269 นับจากกฤษดาดอยไปอีก 7 กม. หรือตามป้ายไปเรื่อย ๆ ทางเข้าสวนกุหลาบหลวงทุ่งเริงจะอยู่ด้านขวามือ และเข้าไปอีกประมาณ 50 เมตรก็เจอลานจอดรถของสวนค่ะ

. . . ซึ่งเรา... จอดรถไว้ที่จอดด้านนอกค่ะ ด้วยความเข้าใจว่าใกล้เที่ยงแล้วคนคงเยอะด้านในและก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ลงจากรถภาพแรกที่ได้จากสวนจึงเป็นมุมนี้ ไม่ใช่มุมทางเดินเข้าร้านอาหาร มันก็จะแนว จขบ.อยู่หน่อย ๆ คือ รก ๆ ป่า ๆ

แต่เข้าไปข้างในสวนแล้วคนละอารมณ์ คือร่ม หอม และเย็น

นั่งคิดอะไรคับ




ก็แวะมันซะทุกมุม กว่าจะถึงร้านอาหารด้านใน หึ ๆ





ก็จะเถลไถลถ่ายรูปจนตัวเล็กบ่น "หิว" ตัวโต ๆ นี่ ๆ เป็นลูกแม่ต้องอดทนป่ะวะ

. . . ในส่วนของที่กินข้าวเที่ยงวันนี้ กินข้าวกลางสวน ซึ่งสวน หรือ ร้านอาหารจะเป็นชั้น ๆ ลดหลั่นตามความชันของเขาที่ถูกดัดแปลงมาเป็นสวนหรือร้านน่ะค่ะ และเที่ยง ๆ อย่างนี้คนก็จะแน่นหน่อย


เราสั่งอาหารจานเดียวไปค่ะ สักพักเขาก็ยกน้ำชาสมุนไพร 7 อย่างและน้ำผลไม้ที่ปลูกในโครงการมาให้ลองชิมนิด ๆ หน่อย ๆ พอล่อใจ



ก็ฟังเพลงไป ก็รออาหารไป เสพความหอมของกุหลาบไปพลาง ๆ


...........แล้วอาหารบ้าน ๆ ที่คลีน ๆ ของเราก็มา



ต่อจากข้าวเที่ยงเราเลี่ยงไม่ได้ที่จะแวะดูของในโครงการที่ติดกับ cashier ในสวนนั้นแหล่ะค่ะ


ซึ่งกาแฟคงหอมมากเช่นกัน แต่อดไม่ได้ลอง เอาไว้มาใหม่เนาะ



ได้สตอร์เบอรี่ติดมือกลับบ้าน

. . . จ่ายค่าเสียหายกันแล้วแต่เราไม่คิดจะกลับรถเพราะคิดจะสำรวจสวนโซนกลางแจ้งด้านบนกันค่ะ

ซึ่งอุณหภูมิใกล้บ่ายอย่างนี้เหรอ?? อย่าให้ได้พูด แต่สวนสวยไง ให้อภัยก็ได้คับ



แม่เจ้า.... แดดเมืองไทย


หน้าหนาวคงฟินกว่านี้ในเรื่องของบรรยากาศ ปลายหนาวอย่างนี้ "ร้อน" ค่ะช่วงบ่าย ๆ คุยกันว่าหน้าฝนคงดีไม่น้อย "จะกลับมานะ"

ขึ้นมาด้านบน



ซึ่งร้อนไปไม่หน่อยละค่าบ








ลาสวนกุหลาบหลวงไว้แค่นี้ . . .
แผ่นฟ้า ภูผา ผืนนา "สะเมิง" : เชียงใหม่ - สะเมิง "เส้นทางสายดอกไม้

1st March 2018 ต่อจากกฤษดาดอย และทุ่งกุหลาบหลวงกันเนาะ เราทิ้งสะเมิงไว้ในฐานที่เข้าใจว่ายังไงก็ต้องเยือนให้ได้ เนื่องจากวันเดียวกันนั้นบ่ายคล้อยกลัวว่าจะไปมืดค่ำกันที่สะเมิงแล้วจะไม่มีเวลาเที่ยวเลยกลับบ้านเพื่อตั้งหลักเดินทางกันอีกครั้งน่ะค่ะ ซึ่งอีกวันที่เราไปกันนั้นเราเริ่มจากเส้นทางเดิมคือ สะเมิง 1269 เพราะใกล้บ้านโดยบ่ายหน้าจากสนามบินไปทางสะเมิงค่ะ แรก ๆ กะไปหากาแฟจิบที่ ฮิลโบโรแต่ด้วยความที่ว่าอยากขับเลยไปอีกนิดไปดูว่าจะมีสตอร์เบอรี่เหลืออยู่บ้างไหม แหล่ะนี่ละนะ จุดเริ่มต้นของทริปเรา

สะเมิง เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของตัวจังหวัด พื้นที่ส่วนใหญ่ของอำเภอเป็นทิวเขาสูง อากาศเย็นเกือบทั้งปี ประกอบด้วยชุมชนชาวไทยภูเขาจำนวนมาก สะเมิง เป็นเมืองที่ยังคงความเป็นธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์ มีทิวเขาสูงซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จำนวนไม่น้อย รวมทั้งเป็นแหล่งปลูกพันธุ์ไม้เมืองหนาวและสตรอเบอร์รีแหล่งสำคัญของประเทศไทยอีกด้วย เครดิตข้อความ : วิกิพีเดีย เครดิตแผนที่ : กูเกิ้ล

. . . ต้นเดือนมีนาคม ที่ "เหลืองอินเดีย" ยังเบ่งบานทำหน้าที่ของมันอยู่อย่างนั้น และก็ต้นมีนาอีกนั่นแหล่ะที่อากาศยังดี และเย็น ๆ อยู่ในช่วงเช้า - สาย งานนี้สาวกลัทธิบุชาวิวอย่าง จขบ.ไม่ช้าค่ะ ไม่ช้าที่จะจอดรถ หยิบกล้องตัวเก่าคู่ใจก็ลั่นชัตเตอร์มันไปตลอดทาง "สวย" นี่เนาะ (คนมาด้วยถามไม่เคยเห็นหรือไงดอกเนี่ยะ 555)


""""""""""" แหล่ะก็ขอบอกว่าหลังจากถ่ายสองรูปด้านบนแล้ว จขบ.ก็ไม่ได้จับกล้องอีกแล้ว เพราะ... ถัดจากสวนกุหลาบหลวงทุ่งเริงแล้วโค้งเจ็ดพับที่แอบกลัวมาตลอดก็ดักรอแบบไม่ให้ได้เตรียมใจกันเล้ยยยยย จังหวะนั้นเพลงกลับไม่ได้ไปไม่ถึงมันดังอยู่ในหัว 5555 จะเป็นลม ตัดภาพมาที่นี่เลยเนาะ เพราะอย่างที่บอกไม่สามารถล้วงกล้องมาถ่ายได้อีกแล้วระหว่างทาง"ไร่นภ - ภูผา" มาตามหา strawberry กัน ในความเซอร์ไพรส์ที่สะเมิงมักมอบให้เสมอนั้น "นางพญาเสือโคร่ง" ที่ไปเขตสะเมิงกี่ครั้งเราก็เจอกัน ถ้าใครยังจะจำน้ำพุร้อนโป่งกวาวคราแรกที่เยือนสะเมิงนั้น จขบ.ก็เจอนางพญาช่วงปลายหนาวอย่างนี้แหล่ะค่ะ ตำแหน่งเขาได้หรือไง ?

ในความแดดนั้น กราบ.. ที่ซูมนี่ซูมไรกัน ป้าย หรือ ดอก และขอสนใจสตอร์เบอรี่หน่อยได้หม๊ายยยยยยย (ตัวเล็กบอก)

อีกสักรูปนะ ป้ายเขาเยอะ


ตัวบ้าน และร้าน ใช้หลังเดียวกัน ที่นี่บริการที่พัก และอาหาร วันที่เยือน เจ้าของบอกห้องพักเพิ่งจะว่างนับแต่เข้าฤดูหนาวมา นทท.แวะเวียนมาตลอดเพราะเป็นที่รุ้จักดีและติดตลาดมาตั้งนานแล้ว ส่วนเราเพิ่งแวะมา เพราะรักดอยแต่กลัวดอย แหะ ๆ ไปเล่นทางโน้น



นี่ ๆ มาหาสตอร์เบอรี่ ๆ แต่แดดแรงเบอร์นี้


ที่พักเขาล่ะค่ะ หนาว ๆ คงฟิน ........ไร่สตอร์เบอรี่









เราเข้าใจว่า แล้งแล้ว อากาศร้อน และไม่มีน้ำเพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงไร่นี้ ผลสตอร์เบอรี่เฉาและแห้งไปมากค่ะ แต่ไม่เป็นไรเพราะเตรียมใจไว้แล้วว่า เจอนิดหน่อยก็ได้ ไม่ต้องมากพอหายอยากก็เพียงพอ แหม่ะ.. แม่พระ แดดแรงอย่างนี้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ซะมีสิคะ พาลูกเที่ยวไปเร่ย ดีมากจ๊า ปรบมือรัว ๆ



Sweety Strawberries


ใต้ร่มไม้ ใต้ชายคา ที่ไร่บริการอาหาร และเครื่องดื่มค่ะ เพราะใกล้เที่ยง และก็ด้วยความไม่รู้ว่าข้างหน้าจะมีร้านอะไรรอเราไหมเราเลยตัดสินใจจบมันซะเลยที่นี่ ตู้ว์ ฮูว์


ไร่สตอร์เบอรี่ของขึ้นชื่อคงไม่พ้นสมูธตี้เขาล่ะเนาะ ปล.ไม่ทันถ่ายอาหารค่ะ 555 ::::::::::::::::::::ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง ที่นี่เป็นที่แรกที่ จขบ.อยากมา และเราผ่านที่นี่ก่อนจะถึงไร่นภ - ภูผา และตัวเมืองค่ะเพียงแค่เราอยากให้ที่นี่เป็นที่สุดท้ายก่อนกลับบ้านกันน่ะ แม้แดดจะรุนแรงอะไรเบอร์นั้น แต่ "เรา" ก็ไม่หวั่นแหล่ะเนาะ แดดเหนือ แดดขุนเขามันก็จะบางเบากว่าแดดเมืองใหญ่ว่าเปล่า อากาศก็เพียวกว่าเยอะเลย เอ้า ๆ เข้าเรื่องชอบโผล่โน่น นี่ นั่น ตลอด ๆ พวกวอกแวกสมาธิสั้น 555


ที่นี่เป็นแหล่งวิชาการให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกข้าวและเพาะพันธ์ุข้าวพันธุ์ต่าง ๆ นานาชนิดเพื่องานวิจัย เช่น ข้าวสาลี ข้าวบาเลย์ เป็นต้น ภายในบริเวณพื้นที่ภายในศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง เลยเต็มไปด้วยพื้นที่แปลงเพาะปลูกทดลอง โรงสีข้าว รวมถึงตัวที่พร้อมจะให้ความรู้เชิงวิชาการ
การเดินทาง : หากใช้เส้นทางจาก จ.เชียงใหม่ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1269 แม่ริม – สะเมิง ระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ 40 กม. ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชม. รถโดยสารประจำทางคิวรถ อ.สะเมิงใต้-เชียงใหม่ ที่บริเวณ ตลาดวโรรส (กาดหลวง)
เมื่อรถมาถึงทางเข้าตัวอำเภอสะเมิง (บริเวณทางแยกป้อม) สังเกตุขวามือจะเห็นป้ายศูนย์วิจัยข้าวสะเมิงเด่นชัดมากๆ และซ้ายมือจะเป็นไร่นิตยา(ไร่ลิ้นจี่) ก็ให้โชเฟ่อร์จอดรถให้ลงได้ สามารถเดินเข้าไปภายในศูนย์วิจัยข้าวได้เลย จะมีเจ้าหน้าที่ให้เซ็นต์เอกสารเข้าออก ตามระเบียบของศูนย์ฯ เป็นอันว่าเสร็จเรียบร้อย เราก็สามารถเดินชมถ่ายรูปเก็บเกี่ยวภาพสวยๆ บริเวณศูนย์วิจัยข้าวได้เลย
ปล. ระเบียบและรายละเอียดการเข้าชมพื้นที่ราชการภายในศูนย์ฯ รบกวนสอบถามกับเจ้าหน้าที่ให้เข้าใจชัดเจนก่อนเข้าพื้นที่ credit : https://www.at-samoeng.com


ต้องยอมรับว่า เราไปอย่างไม่เจอใครให้ถามไถ่ เป็นไปได้ว่าเขาอาจพักกันอยู่ เห็นงั้นก็ลงแปลงข้าวกันเฉยแบบเปิดเผยนิดหน่อยว่า "เรา" พ่อ แม่ ลูก แค่แวะมาเที่ยวนะคะ ไม่ได้มีเจตนาอื่นไดแอบแฝงเลย ^^ เรื่องงี้คนตีสเท่านั้นจะเข้าใจ 5555 (ร้อนก็ร้อนจะมาทำไม? นี่สินะที่เขาไม่เข้าใจ)




ตรงหน้า barley หรือ rye ข้าเจ้าก็ไม่ทราบแน่ ออเจ้าคิดเห็นเป็นเช่นไร







นั่นพุงเรอะ ? สาบาน ?




ถ่ายยังไงให้โลกจำ ถ่ายให้เบลอและเบี้ยวนี่สิ ใช่เลย



ทางคดโค้ง ไม่น่ากลัวเท่าใจคนคดว่าไหม ธรรมชาติยังคงเดิมอยู่อย่างนั้น ดอกเสี้ยวยังบานเมื่อถึงเวลาของมัน กุมภา มีนา เวลาดอกเสี้ยวบานและร่วงโรยแล้วปีแล้วปีเล่า มันก็จะเวียนวนอยู่อย่างนั้นตลอดไปไม่เปลี่ยนแปลง -จบทริปสะเมิง- ขอบคุณที่แวะมา www.mariabamboo.bloggang.com