ใช้ชีวิตช้าๆลง ที่เมือง "แพร่" สองล้อเลาะเลียบเมืองเก่า
อำเภอเมือง แพร่ จ.
How About ChillOut- ปั่นรถถีบแอ่ว "เมืองแพร่" สองล้อเลาะเลียบเมืองเก่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ตามเส้นทางที่เป็นจุดสำคัญต่าง ๆ -
เมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ได้มีโอกาสออกเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง ทริปประจำปีแต่ปีนี้ต้องออกเดินทางคนเดียวเพราะคนที่ชวนออกทริปอยู่ก็เทตอนเราเดินทางถึงดอนเมืองแล้ว แพลนที่วางไว้เลยต้องเปลี่ยน มันก็เลยต้องนั่งรถไฟจากสถานีดอนไปไปสายเหนือ จริงๆแล้วก็ไปเชียงใหม่อีกเพราะชอบที่นี่และไปทุกปี ครั้งนี้มีเปลี่ยนแพลนแวะเดินช้าๆลงที่เมืองรอง เมืองที่ไม่เคยเที่ยวมาก่อน ทริปทั้งหมดได้เวลา 6 วัน 5 คืน ไปมา 3 จังหวัด จะมาบอกเล่าการเดินทางในแต่ละจังหวัดแหละกันนะ เพราะรูปภาพเยอะมาก
หยุดพักเมืองรองที่แรกของการเดินทางคือ "แพร่" 1 วัน 1 คืน (แต่อยู่แพร่น่าจะครึ่งวันได้นะ) กับการปั่นจักรยานชื่นชมเมืองเก่า
วัดศรีชุม วัดหลวง วัดพงษ์สุนันท์ บ้านวงศ์บุรี ชุมชนพระนอน ศาลหลักเมือง คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ วัดพระธาตุช่อแฮพักที่ Hug Inn Phrae Hotel คาเฟ่ Hug&Mug Cafe' and Studio
ที่กิน แป้ย่างม่วน พ.ศ.๒๕๖๐ , ร้านอาหาร ร่มไม้ใหญ่ เรสเตอรองท์ จังหวัดแพร่
เริ่มการเดินทางกันเลย
บินจากภูเก็ต - ดอนเมือง ในรอบเช้า ก็จะทันรถไฟด่วนในรอบ 9.15 สามารถเดินข้ามสะพานเชื่อมจากอาคารสนามบินไปลงที่สถานีรถไฟดอนเมืองได้สะดวกมาก เมื่อเดินอุโมงค์ทางลาดลงมายังสถานีรถไฟดอนเมืองแล้ว ตรงไปที่ห้องจำหน่ายตั๋วกันเลย มาทันเวลาพอดีได้ ได้ตั๋วก็ยืนรอขบวนรถไฟอีกชานชลาที่จะขึ้นไปสายเหนือ
- ณ สนามบินภูเก็ต -
- มาถึงสนามบินดอนเมือง ก็เดินหาทางออกไปยังสะพานเชือม ไปไม่ถูกเลยเพราะครั้งแรก ก็อาศัยการสักถามจากเจ้าหน้าที่ ว่าไปลงลิฟต์ชั้นสอง -
- ก็เดินมาที่สะพานเชื่อมไปอีกฝั่งแล้ว แต่สถานีรถไฟให้เลี้ยวขวาก่อนนะ ไปตามป้ายบอกทางกันเลย -
- ได้ตั๋วมาแล้ว ขบวนด่วนพิเศษ เวลาออก 9.13 อยากแวะแพร่ก็ต้องลงที่สถานี "เด่นชัย"
เมื่อรถไฟมาถึงชานชลา ก็ขึ้นขบวนและหาที่นั่งตามตั๋วที่ซื้อมา
เมื่อได้ที่นั่งก็จะมีพนักต้อนรับน้ำของว่างมาเสริฟ์ ก็จะมีเครื่องดื่มและขนมปัง
ข้อดีของการนั่งรถไฟคือได้ทำอะไรช้าลง และมองสิ่งรอบๆนอกหน้าต่าง ที่เป็นธรรมชาติสลับความงามกันแต่ละช่วง
ซื้อตั๋วรถไฟด่วนพิเศษก็จะมีอาหารมื้อเที่ยงด้วยนะ รสชาติอร่อย ให้ผ่านจร้า
นั่งมาเรื่อยๆ ก็เข้าช่วงบ่ายแล้วจุดหมายก็เริ่มใกล้เข้ามาแล้ว
ช่วงบ่ายยังมีคั้นด้วยของว่างอีกชุดหนึ่ง
เวลาประมาณ 16.40 น. ก็มาถึงสถานี "เด่นชัย" จ.แพร่ ลงจากรถไฟด้วยความตื่นเต้นมาก ด้วยที่ไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับการเดินแพร่มาเท่าไร แต่พอเห็นผ่านมาบ้าง ว่าจะมีรถสองแถวหลังสถานีไปในเมือง "แพร่" ฉันก็ลากกระเป๋าไปก็เห็นคุณลุงขับรถสองแถว แล้วถามลุงว่ารถจะออกหรือยัง ลุงบอกว่าไม่มีลูกค้าเลยจะไปแบบเหมาไหมลุงคิด ( 200 บาท) ฉันก็ไม่ได้คิดมาก ก็ตอบตกลงเลยเพื่อทำเวลาเข้าเมืองเพราะมาถึงก็เย็นแล้ว
ระยะทางจากสถานีรถไฟเด่นชัย - เมืองแพร่ ก็ประมาณ 30 กม. เห็นป้ายแพร่ก็เริ่มดีใจว่าตัวเองเดินทางมาไกลอีกจังหวัดแล้วนะครั้งหนึ่งในชีวิต ขณะที่นั่งรถก็ถามคุณลุงเรื่องที่พักให้ลุงแนะนำและพาไปยังที่พักได้เลย เพราะฉันยังไม่ได้จองที่พักหรือดูที่พักไว้เลย
Hug Inn Phrae Hotel ที่พักสำหรับคืนแรกที่แพร่ แนะนำโดยคุณลุงขับรถสองแถว พอเห็นโรงแรมก็ชอบเลยเป็นแนวที่ชอบเหมือนกัน คุณลุงให้เข้าไปถามเช็คห้องว่างก่อน (ลุงจะรอหนูตรงที่จอดรถนะ) เมื่อเข้าไปสอบถามและแล้วก็มีห้องว่างในราคา 900 บาท ฉันก็ตอบตกลงพักที่นี้ จากนั้นไปเอากระเป๋าจากรถคุณลุงแล้วขอบคุณคุณลุงใจดีด้วยนะ
- welcome drink -
ที่นี่เป็นที่พักเปิดใหม่ตัวในตัวเมืองแพร่ ใกล้กับสถานที่สำคัญเขตเมืองเก่า การออกแบบตกแต่งน่ารัก มีเพียง 12 ห้อง 2 ชั้น ห้องพักสไตล์ลอฟท์ ทันสมัย สะอาด เตียงนอนสบายสุดๆ มีบานหน้าต่างขนาดใหญ่พร้อมกับที่นั่งไว้นอนอ่านหนังสือแบบชิลล์ ห้องน้ำกว้างแบ่งโซนเปียก,แห้ง ออกแบบห้องได้อย่างลงตัว สะอาดมาก บรรยากาศ สงบ ไม่วุ่นวาย เหมาะแก่การพักผ่อน ไปดูภายในห้องพักพร้อมๆกันเลย
- ห้องน้ำก็กว้างพอสมควร แบ่งโซนแห้งและเปียก มีอุปกรณ์ในห้องน้ำให้ครบ -
- บริเวณห้องหลังล็อบบี้ -
มานั่งรอระหว่างเพื่อนมารับ ยังไม่ได้บอกไปในตอนต้นเหตุผลอีกข้อที่เลือกแวะแพร่ก่อน เพราะมีเพื่อนต่างมหาลัยที่รู้จักกันมานานหลายปี พูดคุยกันแค่ในเฟสแต่ยังไม่เคยเจอกันเลย ในเมื่อโอกาสมาบ้านเพื่อนคนนี้ก็บอกเขาและเขาก็มารับออกไปข้างนอกในเย็นวันแรกที่ถึง เขาก็เสียดายไปเที่ยวช่วงที่เขาทำงานเลยไม่ได้พาฉันเที่ยวได้เจอกันแค่ช่วงเวลาสั้นๆเอง และเป็นอะไรกะทันหันบอกเพื่อนว่าจะแวะแพร่ก็ตอนก่อนขึ้นรถไฟ ต่างคนก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย
เมื่อเพื่อนมาถึงก็รีบกันไปขึ้นรถและถามว่าเธออยากไปเที่ยวไหน ตัวฉันเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันให้เจ้าบ้านแนะนำ ถึงกับไม่รู้จะไปไหนด้วย ฉันเลยถามว่าถ้าตอนนี้ไป "วัดพระธาตุช่อแฮ"ยังทันไหม เพื่อนก็เลยบอกว่านั้นพวกเรารีบไปกันก่อนที่ทราบปิดขึ้นพระธาตุประมาณ 18.00 น. ซึ่งตอนนั้นก็ 17.00 น.
มาถึงวัดก่อน 18.00 น. ไปช่วงนั้นจะไม่ค่อยเห็นผู้คนไปไหว้พระธาตุ เพื่อนเลยถามหลวงพี่ก่อนว่ายังขึ้นไปไหว้บูชาพระธาตุทันไหม (หลวงพี่ก็ตอบมาขึ้นไปได้เลย) พวกเราก็ไม่รอช้ารีบขึ้นไปด้านบนกันเลย
พระธาตุช่อแฮ จ.แพร่ เป็นพระธาตุเจดีย์ประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีขาล
Mission แรกเมื่อถึงแพร่ ในเมื่อมาถึงช่วงเย็นก็มาพระธาตุในช่วงแสงเกือบหมดและแสงไฟก็มาแทน เป็นอีกสถานที่งดงาม กับการเที่ยวแพร่ครั้งแรกก็ต้องเริ่มต้นด้วยการไหว้พระขอพรให้เดินทางไปมาสะดวกเสริมสิริมงคลแก่ชีวิตตัวเองกันก่อน
พระธาตุช่อแฮ จ.แพร่ - เป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแพร่ ภายในพระธาตุบรรจุพระเกศาธาตุ และพระบรมสารีริกธาตุพระศอกซ้ายของพระพุทธเจ้า
เปิดทุกวัน 07.00-18.00 น.
กำลังเดินรอบๆพระเจดีย์ ก็เดินไปอีกด้านก็จะเจอวิวตัวเมืองจากจุด "ซุ้มศรีวิชัย" และทันชมแสงสุดท้ายของวันที่นี้ด้วย วันนี้ฟ้าใสและแสงพระอาทิตตกสวยมากอีกวันหนึ่งก็ว่าได้
กลับออกมาจากพระธาตุ เพื่อนก็ถามอยากไปไหนต่อ ฉันเลยบอกว่าตามใจเพื่อนเลย ก็พามาหาอะไรกินที่ แป้ ย่างม่วน พ.ศ.๒๕๖๐ บรรยากาศดีชายทุ่ง มาในช่วงค่ำบรรยากาศก็จะดีไปอีกแบบนะและยิ่งช่วงนี้ ลมหนาวมานิดๆ นั่งปิ้งย่างกิน ของเด็ดคือเนื้อ (เสียดายไม่กินเนื้อ)แต่ก็มีทั้งหมู อาหารทะเล ผลไม้ สลัด ชอบที่สุดก็กุ้งแม่น้ำ
กินอิ่มแล้วเพื่อนก็มาส่งยังที่พัก แยกย้ายกัน "ราตรีสวัสดิ์"
ตื่นเช้าวันแรกที่แพร่ วันนี้ตื่นสายไปหน่อยออกมาจากห้องก็ 8.00 น.แล้ว ที่นี่ห้องพักรวมอาหารเช้า อาหารเช้าก็จะมาประรับทานกันที่ห้องของร้านกาแฟซึ่งอยู่ด้านหน้าโรงแรมนี้เองจร้า
วันนี้ตั้งใจจะปั่นสองล้อเลาะเข้าสู่อดีตในตรอกซอยในเขตเมืองเก่าซึ่งจะอยู่ใกล้ๆกับที่พัก และแต่ละที่ก็ไม่ไกลกันมากก็จะสามารถปั่นจักรยานไปได้ ที่มีห้วงความทรงจำปรากฏของวัดเก่าคู่บ้านคู่เมือง ตามเส้นทางที่เป็นจุดสำคัญต่าง ๆ ดังนี้ วัด คุ้มเจ้า เป็นต้น
มีทั้งไลน์บุฟเฟ่มื้อเช้า แบบทั่วไป
แต่มีที่ต่างกันทุกห้องจะต้องเลือกเมนูซึ่งจะได้ห้องละ 2 อย่าง แต่ฉันไปคนเดียวเลยได้มาสองอย่าง ก็จะเป็น "ไข่กะทะ" และ "ข้าวเหนียว+ไส้ฮั่ว" ซึ่งตอนเช็คอินพี่เจ้าของจะให้เราเลือกเมนูกันก่อน
เช้านี้ขอจัด "อเมริกาโน่" ของที่นี่ก่อนเพิ่มพลังในช่วงเช้า
ที่พักก็จะมีจักรยานให้บริการแก่ลูกค้าที่เข้าพัก แต่ต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนก็ดีนะ เพราะฉันลืมแจ้งพี่เจ้าของ โชคดีที่ยังมีเหลืออยู่ 1 คัน นั่งชิลล์กับมื้อเช้านานไปหน่อยออกจากที่พักก็เริ่มสายแล้ว
ศาลหลักเมืองแพร่
ตั้งอยู่ บนถนน คุ้มเดิม สามารถจอดรถ ง่าย ๆ แล้ว เข้าไป สักการะ ด้านหน้ามี ยักษ์ 2 ตน ศิลปะ แบบ ล้านนา ศาลหลักเมือง อยู่ไม่ไกลจาก จุดท่องเที่ยว อื่น เช่น คุ้มเจ้าหลวง ก่อน ผ่าน ไป เที่ยวที่อื่น ปั่นจักรยานต่อไปตามทางเรื่อยๆ แวะไหว้ศาลหลักเมือง
ตลอดเส้นทางก็จะมีป้ายแสดงแผนผัง หรือแผนที่ เส้นทางปั่นจักรยานในเขตเมืองเก่า
วัดพงษ์สุนันท์
มีพระพุทธรูปปางมารวิชัย "พระเจ้าแสนสุข" อายุราว 568 ปี ในบริเวณวัดยังมีพระนอนองค์ใหญ่สีทองอร่าม มีซุ้มประตูมงคล 19 ยอด วิหารแก้วองค์พระธาตุเจดีย์ 108 ยอด ซึ่งมีความสวยงามและน่าอัศจรรย์มาก
Slope Coffee บ้านเบ้ววว
มาตัวให้สโลว์ไลฟ์ในการนั่งจิบกาแฟชิลๆ ให้เวลาเดินผ่านไปช้าที่นี่กันเถอะ
การเดินทางก็ง่ายๆ จะอยู่เส้นกาดกองเก่า ตรงข้ามวัดพงษ์สุนันท์
ปั่นมาเรื่อยๆจากร้าน slope coffee บ้านเบ้ววว ก็จะเข้าสู่ชุมชนวัดพระนอน
เลี้ยวขวาเข้าซอยด้านขวาก็จะเจอกับ บ้านวงศ์บุรี หรือ คุ้มวงศ์บุรี ที่เป็น บ้านไม้สักสีชมพูแบบยุโรปประยุกต์รูปทรงปั้นหยา จุดเด่นคือ ลวดลายไม้แกะสลัก ที่หน้าจั่ว ชายคาระเบียง ช่องลม ชายน้ำ หน้าต่าง และประตู
วัดพระนอน
ที่โดดเด่นด้วยอุโบสถแบบเชียงแสน ไม่มีหน้าต่าง มีเพียงช่องรับแสงด้านหน้า บานแกะสลักเป็นลายก้านขด ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์
วัดหลวง
วัดแรกของจังหวัดแพร่ มีอายุนับพันปี มีโบราณสถานและวัตถุมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์วัดหลวง วิหารหลวงพลนคร พระธาตุหลวงไชยช้างค้ำ หอวัฒนธรรมเมืองแพร่
ปั่นจักรยานออกมาด้านหลังวัดเจอประตูกับกำแพงเมืองโกศัย
วัดศรีชุม
เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดของจังหวัดแพร่ สร้างเมื่อปี พ.ศ. 1322 มีอายุนับพันปี ภายในวัดมีพระพุทธรูปยืนแบบสุโขทัย มีพระเจดีย์ทรงปราสาทยอดทรงระฆังแบบล้านนา วัดนี้เคยมีชื่อเสียงทางวิปัสสนา เจ้ากาวิละจากลำปางเคยบวชเรียนที่วัดนี้เมื่อ พ.ศ. 2302
เมื่อปั่นรถถีบแอ่วเมืองแพร่ก็ถึงเวลากลับที่พักเพื่อเช็คเอ้าให้ทันเวลา และในช่วงที่ไปกลางเดือน พ.ย. กลางวันอากาศก็ยังคงร้อน ปั่นรถถีบจนเหงื่อท่วมตัวกลับมาอาบน้ำเก็บกระเป๋า ออกมาเช็คเอ้าและมานั่งร้านกาแฟด้านหน้าที่พัก ห้องแอร์เย็นๆก่อนจะต้องไปต่อ
Hug&Mug Cafe' and Studio เป็นร้านเล็กๆ เต็มไปด้วยต้นไม้ การตกแต่งสีขาวสะอาดตา ร้านนั่งสบายมีพื้นที่ทั้ง indoor outdoor ด้วย มีมุมให้ถ่ายรูปแบบแนว minimal ร้านกาแฟอยู่ติดกับเรือนจำจังหวัดแพร่ เวลาเปิดร้าน ทุกวัน 09:30 - 18:00
เมนูของหวานหลากหลาย วันนี้กินคนเดียวเลยเลือก "ชูว์ครีม"รสชาติดีมากๆค่ะ และเครื่องดื่ม "Caramel Macchiato" ซึ่งจะไม่หวานมากทุกอย่างลงตัว
"ถ้ามีเวลาลองแวะมาเที่ยวแพร่ดูนะคะ คนแพร่ใจดี น่ารัก ไปสักครั้งแล้วจะประทับใจไม่ลืมเลยค่ะ"