
ใจเป็นสุข ในเมืองสุข บ้านตะปอน จ.จันทบุรี
บ้านตะปอนใหญ่ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี จ.
ทั่วถิ่นแดนไท� Tuathindanthaiใจเป็นสุข ในเมืองสุข บ้านตะปอน จ.จันทบุรี
#รีวิวทั่วถิ่นใจเป็นสุข ในเมืองสุข จ.จันทบุรี มาสัมผัสความสุขใจไปด้วยกัน กับอีกหนึ่งหมู่บ้านที่บอกได้เลยว่า ถ้าได้มาเยือนแล้ว จะรู้สึกอบอุ่น เหมือนมาบ้านญาติผู้ใหญ่มากกว่ามาเที่ยวอีกนะคะ เตรียมตัวให้พร้อมกับการเดินทาง เตรียมใจให้พร้อมกับการรับสิ่งใหม่ ๆ และเตรียมท้องไว้ใส่ของอร่อย ๆ กันได้เลยค่ะ

ถ้าพูดถึงบ้านตะปอนแล้วล่ะก็ ที่ที่เราจะรู้จักมากที่สุด ก็คงหนีไม่พ้น “ตลาดโบราณ ๒๗๐ ปี บ้านตะปอน”

บรรยากาศในตลาดจะเริ่มคึกครื้น ช่วงหลังจากเที่ยงวันเป็นต้นไป ถ้าได้แวะเที่ยวในหมู่บ้านมาก่อนแล้ว ก็ไม่ต้องแปลกใจเลยที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้า จะหน้าตาคุ้น ๆ เพราะร้านต่าง ๆ ที่มาขายกันนั้น ก็ล้วนแล้วแต่เป็นชาวบ้านในหมู่บ้านตะปอนกันทั้งนั้นเลยค่ะ

เริ่มจากร้านแรกกันเลยดีกว่า ข้าวเหนียวหน้ากุ้ง น่ากินมั้ยคะ นอกจากของที่ขายในตลาดโบราณ ๒๗๐ ปี บ้านตะปอน จะราคาไม่แพงแล้ว ชาวบ้านที่นี่ยังเน้นเรื่องการใช้ทรัพยากรจากธรรมชาติด้วยนะคะ น่ารักมาก ๆ เลย

อ้อยควั่นแช่เย็น หวาน ๆ เห็นแล้วนึกถึงตอนเป็นเด็กเลยค่ะ เชื่อว่าหลายคนต้องเคยกินแน่ ๆ แต่ถ้าไม่เคยกินต้องลอง แล้วจะติดใจค่ะ

กลอย ก็มีนะคะ สายกินทั้งหลาย ไม่ควรพลาดเลย มาที่นี่อิ่มจนตัวแตกแน่นอน

ข้าวเหนียวแดงกับกะละแม หวาน มัน กลมกล่อม อร่อยมากกกกก

ขนมเบื้องญวณก็ยังมีให้กินนะคะ

นอกจากของหวานแล้ว ยังมีผักสด ๆ ปลอดสารเคมี ราคาแสนถูก มาว่างขายอีกมากมายเลยค่ะ แถมแม่ค้าที่นี่ยังแต่งตัวสวยย้อนยุคไปอีก!!

มีผักพื้นบ้านเยอะแยะไปหมดเลย แค่เดินดูแป๊บเดียว เมนูอาหารที่อยากซื้อผักไปทำกินก็เต็มหัวไปหมดเลยค่ะ

กล้วยไข่ผลอวบ ๆ น่ากินมาก หวีละ 5 บาทเท่านั้น อยากจะเหมาซะให้หมด แต่ก็กลัวจะกินไม่ทัน

แม่ค้ายิ้มหวานขนาดนี้ ไม่แวะไม่ได้แล้ว

ร้านนี้ก็ต้องแวะ

ร้านนี้ก็ต้องแวะอีก

สรุปแวะทุกร้านเลยค่ะ

นอกจากผักสดกับขนม ก็ยังมีอาหารสำเร็จรูปขายด้วยนะ แต่ว่าเราจะอดใจไว้กินฝีมือแม่ ๆ ที่หมู่บ้าน เพราะเรานัดกับแม่ ๆ ไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ

บรรยากาศในตลาดโบราณ นึกว่ากำลังย้อนไปในอดีตเลยค่ะ

วันนี้ยังมีการแสดงระบำนางเกระจากแม่ ๆ ให้เราได้ดูกันด้วยนะคะ พร้อมเพรียงบ้าง ไม่พร้อมบ้าง แต่เรื่องความตั้งใจ ความน่ารักแล้วล่ะก็ ให้ร้อยคะแนนเต็มไปเลยค่ะ

นอกจากรำแล้ว ที่นี่ยังมีประเพณีการชักกะเย่อด้วยค่ะ ชื่อว่าการแข่งขันชักเย่อเกวียนพระบาท มีทุกวันเสาร์สัปดาห์สุดท้ายของเดือน โดยจะแบ่งผู้เข้าแข่งขันจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดนี่แหละค่ะ แบ่งกันเป็นฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย

ไหน ๆก็มาแล้ว มีหรือที่พี่เม่นจะพลาด ขอโดดลงไปแจมช่วยพ่อ ๆ แข่งชักกะเย่อด้วยคน

ทั้งกองเชียร์และกรรมการ สนุกกันมาก ๆ ผลการแข่งขันสรุปว่า เสมอกันค่ะ

พี่เม่นบอก ทั้งเหนื่อยทั้งฮาทั้งสนุก ครบทุกรสชาติจริง ๆ

เอาล่ะ เดินเล่นในตลาดมาพักใหญ่ ๆ แล้ว มาเที่ยวในหมู่บ้านบ้างดีกว่า เริ่มที่สวนสละเลยค่ะ กำลังออกลูกเลย

ต้นนี้คือ สละพันธุ์เนินวงค่ะ เป็นสละพันธุ์พื้นเมืองของจันทบุรี รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ลูกดกเต็มต้นเลย

ชิมผลไม้แล้วก็มาดูฟาร์มปูนิ่มกันค่ะ อยู่ห่างออกไปไม่ไกลกันเท่าไหร่

นี่คือปูนิ่มที่ลอกคราบออกมาแล้ว พี่เม่นตื่นเต้นมากที่หาเจอ ตะโกนเรียกคุณลุงให้มาดูใหญ่เลย

เมื่อเจอปูตัวที่ลอกคราบออกไปแล้ว คุณลุงเจ้าของฟาร์ม ก็จะจับขึ้นมาพักเรียงเอาไว้ เพื่อรอส่งไปขายต่อไปค่ะ

ไปฟาร์มปูนิ่มแล้วก็ต้องมาบ่อกุ้ง เริ่มจะเข้าทางสายกินอีกแล้วสิ!!

เมื่อพี่เจ้าของฟาร์มทอดแห จับกุ้งขึ้นมาได้ พี่เม่นก็มีสีหน้าแบบนี้แหละค่ะ เก็บความหิว เอ้ย! ความดีใจไม่อยู่จริง ๆ

นอกจากการเลี้ยงกุ้งและทำฟาร์มปูนิ่มแล้ว ชาวบ้านที่นี่ก็ยังทำการประมง ด้วยการจับตามธรรมชาติอยู่นะคะ

เราล่องเรือกันเพื่อออกไปหาปลาและหอยพอกค่ะ

ระหว่างทางก็แวะทักทายชาวบ้านที่มาทอดแหหาปลา ที่นี่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ ทำให้อาหารไม่เคยขาด

คุณลุงมาเก็บลอบดักปูค่ะ ดักได้ตัวโตเชียว

พี่เม่นเอาอีกแล้วค่ะ ดูจากสีหน้าพี่เม่นสิคะ! ว่าดีใจแค่ไหนที่จะได้กินปูสด ๆ ตัวโต ๆ เรื่องกินไว้ใจพี่เม่นได้เล๊ยยยยย

เมื่อได้ปูมาแล้ว พี่หน่อง ผู้พาเราล่องเรือ ก็แสดงฝีมือกการเผาปูด้วยวิธีดั้งเดิม นั่นคือการพอกตัวปูด้วยดินเหนียว ก่อนจะนำไปเผาค่ะ

เอาล่ะ รอชิมกันเลยว่ารสชาติจะออกมาเป็นอย่างไร

พี่หน่องบอกว่า วิธีการย่างหอยพอกที่ดี คือการใช้สังกะสีวางบนกองไฟ แล้วย่างหอยผ่านสังกะสีค่ะ เป็นการคงน้ำที่ออกจากตัวหอยไว้ในฝา ทำให้เวลากินยังคงความอร่อย โดยที่น้ำจากหอยไม่ไหลออกไป

เมื่อหอยพอกอ้าเปลือกแบบนี้ ก็แปลว่าสุก พร้อมให้เราได้ลิ้มรสแล้วล่ะ

“ใบสันดาน” เป็นผักพื้นบ้านชนิดหนึ่ง มีรสชาติเปรี้ยว เอกลักษณ์ของใบสันดานก็คือระดับความเปรี้ยวค่ะ ไม่ว่าจะใส่ในปริมาณมากหรือน้อยแค่ไหน เค้าก็จะคงระดับความเปรี้ยวเท่าเดิม จึงเป็นที่มาของชื่อ “ใบสันดาน” นั่นเอง และวันนี้เราก็เก็บใบสันดานมาทำกับข้าวด้วย จะทำเมนูอะไรตามไปดูกันเลยค่ะ

เมื่อได้ผัก และวัตถุดิบมาพร้อมแล้ว ทั้งพ่อครัว และแม่ครัวก็มาช่วยกันอย่างขมีขมันเลยค่ะ

พี่เม่นก็นั่งเอาใจช่วย พ่อ ๆ แม่ ๆ อย่างใจจดจ่อ ช่วยหยิบจับได้บ้างเล็กน้อย บอกได้สั้น ๆ แค่ว่า “หิวครับ”

เอาล่ะ อาหารเสร็จพร้อมเสิร์ฟ หน้าตาน่ากินมาก ๆ

ซ้ายบน ต้มส้มปลากระบอก รสเปรี้ยวนำ ปลาสด ๆ เนื้อหวานเชียวค่ะขวาบน หอยพอกย่าง เนื้ออมหวานนิด ๆ ด้วยความสด หอมกลิ่นถ่าน กินคู่น้ำจิ้มซีฟู้ด หรือที่บ้านตะปอนเรียกว่า พริกเกลือนั่นเองซ้ายล่าง แกงส้มใบสันดาน ได้รสชาติเปรี้ยวนำ เข้มข้น อร่อยมากขวาล่าง บอนย่าง กินคู่น้ำพริกแดง อร่อยลงตัว
