รถไฟสำหรับสายเที่ยว "กรุงเทพฯ - พัทยา - บ้านพลูตาหลวง"

จังหวัดชลบุรี (Chon Buri Province) จ.ชลบุรี

theTripPacker

October 31, 2019, 10:55 AM November 1, 2019, 6:26 AM

เข้าสู่ช่วงปลายปี ช่วงที่ลมหนาวกำลังจะกลับมาเยือนเราอีกครั้ง ในขณะที่ใครต่อใครก็วุ่นวายกับการจองตั๋วเดินทาง และหาที่พักสำหรับขึ้นเหนือไปรับลมหนาวกันเต็มที่ ส่วนเรานี้จะขอสวนทางกับเขาซักหน่อย ลองเปลี่ยนมานั่งรถไฟไปเที่ยวชลบุรีแบบชิล ๆ  จัดทริปสั้น ๆ สำหรับคนมีเวลาน้อย มีงบหลักร้อยก็เที่ยวได้..ไปกับ ขบวนรถไฟเส้นทางโดนใจสายเที่ยว อย่าง ขบวน "กรุงเทพฯ - พัทยา - บ้านพลูตาหลวง"

ขบวนรถไฟเส้นทาง "กรุงเทพฯ - พัทยา - บ้านพลูตาหลวง" ถูกเปิดตัวให้เป็นรถไฟขบวนพิเศษสำหรับท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นปี 2561 เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในแถบภาคตะวันออก โดยขบวน 997-998 จะเป็นขบวนรถปรับอากาศชั้น 2 ที่มีให้บริการเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ ในราคา 170 บาท/เที่ยว และขบวน 283-284 จะเป็นขบวนรถธรรมดา ที่ให้บริการในวันจันทร์-ศุกร์ ซึ่งบอกเลยว่าราคาจากสถานีกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) ไปจนสุดสายที่สถานีบ้านพลูตาหลวง (สัตหีบ) ราคาตั๋วเพียง 37 บาท/เที่ยว เท่านั้น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งขบวนรถที่มีเส้นทางที่น่าสนใจ และตอบโจทย์สำหรับคนที่ไม่สะดวกจะเดินทางด้วยรถส่วนตัว แถมมีงบน้อย เวลาก็น้อย เพราะเราสามารถจัดเป็นทริปสองวัน หรือหากมีเวลาแค่หนึ่งวันก็สามารถทำได้ จะฉายเดี่ยว ไปเป็นคู่ หรือยกกันไปทั้งก๊วนก็รับรองว่าสนุกแน่นอน

ซึ่งความแตกต่างของขบวนรถ 997-998 กับ 283-284 นอกจากจะเป็นเรื่องของวันเดินทาง ประเภทรถ และราคาตั๋วแล้ว ในเรื่องของเวลาที่ใช้ในการเดินทางก็จะแตกต่างกัน ขบวนรถในวันธรรมดาจะออกช้า และจอดในแต่ละสถานีนานกว่าขบวนวันเสาร์-อาทิตย์ อย่างเช่น หากเราจะไปสถานีบ้านพลูตาหลวง ขบวน 997 จะพาเราไปถึงในเวลา 9.50 น. แต่หากเป็น ขบวน 283 เราจะไปถึงในเวลา 11.20 น. ซึ่งตรงนี้ก็ต้องเตรียมพร้อมเรื่องข้อมูล เวลาที่ใช้ในการเดินทาง และวางแผนทริปกันให้ดี ๆ ในบางสถานีเมื่อถึงแล้วสามารถเดินต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวได้เลย แต่ในบางสถานีก็ต้องนั่งรถสาธารณะอีกต่อเพื่อไปยังจุดท่องเที่ยวใกล้เคียง โดยมีสถานีปลายทางที่น่าสนใจ ที่เราอยากจะแนะนำ ได้แก่

ซึ่งแต่ละสถานีก็จะมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงที่น่าสนใจ และบางจุดยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกด้วย เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าในแต่ละสถานีเราจะสามารถไปเที่ยวตรงไหนกันได้บ้าง...

สถานีชุมทางศรีราชา

สถานีนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายจุด แต่เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละจุดค่อนข้างจะอยู่ไกลจากสถานี อาจต้องใช้บริการรถสาธารณะ โดยจะมีทั้งตุ๊กตุ๊ก และมอเตอร์ไซค์วินคอยให้บริการ

สวนสาธารณะเกาะลอย (ห่างจากสถานี 4.5 กิโลเมตร)

เป็นเกาะขนาดเล็กที่ยื่นออกไปกลางทะเล เชื่อมด้วยสะพานที่ทอดยาวถึง 500 เมตร ถือเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวศรีราชา อีกทั้งยังเป็นท่าเรือสำคัญที่จะพานักท่องเที่ยวข้ามไปยัง เกาะสีชัง อีกด้วย ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของ วัดเกาะลอยศรีมหาราชา ตัววัดตั้งอยู่บนเนินเขาสูง หากเดินขึ้นไปด้านบนจะสามารถมองเห็นวิวทะเล และวิวเมืองศรีราชาที่สวยงามเป็นอย่างมาก

เกาะสีชัง (ห่างจากสถานี 4.5 กิโลเมตร / ท่าเรือเกาะลอย)

เกาะสีชัง เป็นเกาะขนาดเล็กที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เกาะหนึ่งของประเทศไทย เนื่องจากเคยเป็นสถานที่ เสด็จประพาส และเป็นที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดินของกรุงรัตนโกสินทร์ถึง 3 พระองค์ ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ประสูติพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (เจ้าฟ้าจุฑาธุชฯ) และสร้างพระจุฑาธุชราชฐาน ณ เกาะแห่งนี้อีกด้วย ซึ่งทำให้เกาะสีชังเป็นเพียงเกาะเดียวในประเทศไทยที่มีพระราชวัง หรือเขตพระราชฐานตั้งอยู่

ที่นี่ยังเป็นสถานตากอากาศที่มีชื่อเสียงมานานนับร้อยปี ธรรมชาติ และความงดงามของที่นี่ก็แตกต่างไปจากสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ เกาะสีชังมีบรรยากาศที่สงบเงียบ อากาศบริสุทธิ์ มีสถานที่ท่องเที่ยว และจุดชมวิวที่สวยงามมารกมาย ในขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวก็จะยังได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตของชุมชนบนเกาะได้อย่างใกล้ชิด

เรือที่จะไปยังเกาะสีชังจะออกจากท่าเรือเกาะลอย โดยรอบของเรือโดยสารมีทุก ๆ 1 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ 7 โมงเช้าเป็นต้นไป จนถึง 6 โมงเย็น ขากลับก็จะประมาณนี้เช่นกัน ค่าเรือเที่ยวละ 100 บาท นั่งเรือประมาณ 40-45 นาที เพื่อไปยังท่าล่างซึ่งเป็นท่าเรือหลักบนเกาะสีชัง

สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

สถานีพัทยา

พัทยา คือแหล่งรวมความคึกคัก สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงสำหรับสถานีนี้มีอยู่เยอะมาก ครบครันทั้งช็อปปิ้ง กิน เที่ยว รวมไปถึงสีสันยามค่ำคืน หากต้องการเต็มอิ่มกับบรรยากาศและคุ้มสุด ๆ แนะนำให้จัดเป็นทริป 2 วัน 1 คืน ที่พักราคาเบา ๆ มีให้เลือกมากมาย อย่าลืมหาเช่ามอเตอร์ไซค์มาขับซักคันรับรองเที่ยวมันส์แน่นอน

แหลมบาลีฮาย (ห่างจากสถานี 8 กิโลเมตร)

แหลมบาลีฮาย เป็นท่าเรือสำคัญของชาวพัทยา มาอย่างยาวนาน เป็นท่าเรือใหญ่ที่มีบริการเรือรับส่งหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเรือที่พานักท่องเที่ยวข้ามไปยังเกาะล้าน เรือข้ามฟากขนาดใหญ่ หรือแม้แต่สปีดโบ๊ท นอกจากนี้แหลมบาลีฮายยังเป็นจุดเช็คอิน และมุมถ่ายรูปสุดฮิต ที่ไม่ว่าใครไปใครมาก็ต้องขอมีรูปคู่กับป้าย Pattaya City ซักหน่อย ใกล้กันยังมีจุดชมวิวเขาพระตำหนัก ที่สามารถขึ้นไปชมวิวเมืองพัทยา และชายหาดพัทยา ที่สวยงามเป็นอย่างมาก

เกาะล้าน (ห่างจากสถานี 8 กิโลเมตร / ท่าเรือแหลมบาลีฮาย)

หากเอ่ยถึงเกาะสวย ๆ ของพัทยา ชลบุรี เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จัก "เกาะล้าน" เกาะที่อยู่ห่างจากท่าเรือแหลมบาลีฮายออกไปประมาณ 7 กิโลเมตร ถือเป็นเกาะที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของหาดทรายที่ขาวละเอียด น้ำทะเลใสสะอาด เกาะล้านมีหลายหาด ซึ่งแต่ละหาดก็มีเสน่ห์และความคึกคักแต่งต่างกัน อีกทั้งจุดชมวิวแต่ละจุดก็เรียกได้ว่าสวยงามเป็นอย่างมาก ที่นี่มีที่พัก ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อีกทั้งการเดินทางบนเกาะก็ง่ายมาก ๆ และด้วยความที่ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือเพียง 45 นาที ทำให้สามารถเดินทางมาเที่ยวได้แบบไปเช้า-เย็นกลับ หรือหากใครต้องการจะพักค้างคืนบนเกาะล้าน ที่นี่ก็มีที่พักให้เลือกหลากหลายราคา

สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

สถานีตลาดน้ำ ๔ ภาค

สถานีตลาดน้ำ ๔ ภาค จะอยู่โซนจอมเทียน ซึ่งหากใครต้องการมาเพื่อพักผ่อนชิล ๆ ริมทะเลซักคืน โซนนี้ก็ถือว่าฮอตฮิตไม่แพ้โซนพัทยาเลยทีเดียว และหากใครต้องการจะมาเที่ยวตลาดน้ำพัทยาแบบไปเช้า - เย็นกลับ การเดินทางด้วยรถไฟสายนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์มาก ๆ เพราะเราสามารถเดินจากสถานีไปยังตลาดน้ำได้เลย 

ตลาดน้ำ ๔ ภาค (ห่างจากสถานี 100 เมตร / ประตู 4)

บนพื้นที่ที่เป็นบึงกว้างกว่า 23 ไร่ ถูกจำลองให้เห็นถึงวิถีชีวิตริมน้ำแบบไทยไว้อย่างเป็นระเบียบ ด้วยอาคารเรือนไทยหลายหลังที่วางตัวอยู่เหนือน้ำ ซึ่งอาคารแต่ละหลังจะถูกออกแบบให้มีเอกลักษณ์ของทั้ง 4 ภาคอย่างชัดเจน ดังนั้นเราจึงสามารถเดาได้คร่าวๆ ระหว่างที่เดินไปรอบๆ ว่าเรามาถึงภาคใดแล้วบ้าง ซึ่งกลุ่มอาคารทั้ง 4 ภาค จะถูกเชื่อมต่อด้วยทางเดินและสะพานไม้ที่ทอดตัวยาวไปทั่วบริเวณตลาด ร้านรวงและสินค้าต่าง ๆ ที่มีจำหน่ายในตลาดน้ำสี่ภาคนั้น ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสินค้าจำพวกหัตถกรรมประจำภูมิภาคต่าง ๆ ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า งานศิลปะ ของแต่งบ้าน ของที่ระลึก รวมไปถึงอาหารการกินต่าง ๆ ทั้งของคาว และของหวาน เรียกได้ว่ามาวันเดียวได้เที่ยวครบทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคใต้ อย่างแน่นอน แต่ถ้าจะให้เข้าถึงบรรยากาศแบบตลาดน้ำแท้ ๆ ก็ต้องมีเรือพายขายอาหารด้วยถึงจะถูก เพราะฉะนั้นตลอดทางที่เดินไปรอบ ๆ บริเวณ เราก็จะเห็นเรือของพ่อค้าแม่ค้า จอดขายของอยู่เป็นระยะ ทั้งเครื่องดื่มเย็น ๆ กาแฟโบราณ หรือขนมไทยอื่น ๆ เช่น ขนมครก ขนมเบื้อง เฉาก๊วย ไอศกรีม รวมไปถึงก๋วยเตี๋ยวเรือ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก อยากกินอะไร สนใจซื้อสินค้าอันไหน ก็เลือกกันได้อย่างสนุกสนาน สั่งเสร็จก็เลือกนั่งกินกันริมทางเดินกันได้เลย บรรยากาศตลอดทางเดินจึงคึกครื้นเป็นอย่างมาก

สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

สถานีญาณสังวราราม

สถานีนี้เรายกให้เป็นสถานีสำหรับสายบุญ เพราะจุดท่องเที่ยวใกล้เคียงจะเป็นวัดวาอารามซะส่วนใหญ่ แต่ขอบอกเลยว่าที่เราจะแนะนำต้องไม่ธรรมดา ไม่ใช่แค่ให้แวะมาไหว้พระทำบุญเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่สถานที่เราจะแนะนำนั้นมีความสวยงาม และมีเอกลักษณ์แตกต่างจากที่อื่น ๆ และรับรองว่าจะได้ภาพสวย ๆ กลับบ้านแน่นอน

วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร (ห่างจากสถานี 9 กิโลเมตร)

เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก และยังเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 9 อีกด้วย ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 336 ไร่ ในอำเภอบางละมุง วัดนี้มีสิ่งปลูกสร้าง และสถาปัตยกรรมที่งดงามเป็นอย่างมาก นอกจากจะเป็นที่ปฏิบัติศาสนกิจของพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนแล้ว ที่นี่ก็ยังเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวมากมายให้ความสนใจอีกด้วย โดยเฉพาะ เจดีย์พุทธคยาจำลอง ที่มีความสวยงาม และอลังการเป็นอย่างมาก อีกความโดดเด่นของวัดนี้คือการออกแบบ และตกแต่งสวนขนาดใหญ่ที่อยู่โดยรอบ ซึ่งทำให้เกิดความร่มรื่น และผ่อนคลายแก่ผู้มาเยือน

เขาชีจรรย์ (ห่างจากสถานี 6.5 กิโลเมตร)

เขาชีจรรย์ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินยอดฮิตเมื่อเดินทางมาเยือนสัตหีบ ที่นี่มีภาพพระพุทธรูปแกะสลักขนาดใหญ่บนหน้าผา ซึ่งเป็นพระพุทธฉายที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีความสูงถึง 109 เมตร ที่นี่กลายเป็นแลนมาร์กที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดชลบุรี นักท่องเที่ยวต่างแวะเวียนมาชื่นชมความงดงาม และกราบไหว้ขอพร และถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึก ซึ่งนอกจากความงดงามขององค์พระแล้ว บริเวณโดยรอบยังมีการตกแต่งภูมิทัศน์ด้วยไม้ดอกไม้ประดับอย่างสวยงาม

สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

สถานีสวนนงนุช

ใครอยากมาเที่ยวสวนนงนุช แบบไม่ต้องขับรถมา ตอนนี้ทำได้แล้ว เพราะสามารถนั่งรถไฟชิล ๆ มาลงที่สถานีนี้ได้เลย แถมยังมีรถบริการรับ-ส่งไปสวนนงนุชอีกด้วย สามารถมาเที่ยวแบบไปเช้า - เย็นกลับได้ แต่ถ้าอยากมีเวลาอยู่เที่ยวนาน ๆ หน่อยแนะนำเป็นขบวน 997 (ขบวนวันเสาร์-อาทิตย์) จะดีกว่า

สวนนงนุช (ห่างจากสถานี 1.7 กิโลเมตร)

บนพื้นที่กว่า 1,500 ไร่ ถูกนำมาจัดเป็นสวนขนาดใหญ่ที่รวบรวมพันธุ์ไม้ในเขตร้อนไว้มากกว่า 18,000 ชนิด และยังเป็นศูนย์กลางของสวนพฤกษศาสตร์ระดับโลกภายใต้แนวคิดรักษ์ต้นไม้ ลดโลกร้อน และสวนนงนุชแห่งนี้ยังติด 1 ใน 10 ของสวนที่สวยที่สุดในโลกอีกด้วย ภายในสวนจะแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ไว้มากมาย เช่น สวนพันธุ์ไม้นานาชนิด สวนประติมากรรมสัตว์หลากหลายสายพันธุ์ รวมไปถึงที่นี่ยังมีสวนสัตว์ขนาดย่อมให้เราได้เพลิดเพลินอีกด้วย ใครอยากเจอเจ้าเสือโคร่งตัวใหญ่ตัวเป็น ๆ ในระยะที่ใกล้มาก ๆ จนแทบจะสัมผัสกันได้แนะนำให้ลองแวะมาครับ และที่นี่ยังโดดเด่นเรื่องการแสดงของช้างไทยแสนรู้แสนน่ารัก และไฮไลท์ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานก็คือ สวนไดโนเสาร์ ซึ่งต้องบอกเลยว่าโซนนี้เด็ดมากจริง ๆ ให้บรรยากาศเหมือนกับเราหลุดเข้าไปในหนัง จูราสสิค เวิลด์ เลยทีเดียว มีไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธุ์ที่เหมือนจริงมากทั้งขนาด และรายละเอียด ใครชื่นชอบไดโนเสาร์บอกเลยว่าต้องมา

สถานีบ้านพลูตาหลวง

มาถึงสถานีปลายทางสุดท้ายของรถไฟสายนี้กันแล้ว สำหรับใครอยากเที่ยวทะเลสวย ๆ ชื่นชอบการท่องเที่ยวเกาะ ดำน้ำ ดูปะการัง ขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดสถานีนี้ และแนะนำอีกอย่างว่า...ควรเป็นทริปที่มีเวลาซัก 2-3 วัน จะเที่ยวได้คุ้ม และฟินมากกว่า

เรือหลวงจักรีนฤเบศร (ห่างจากสถานี 15 กิโลเมตร)

เป็นเรือธง และเรือบรรทุกอากาศยานลำแรก และลำเดียวของราชนาวีไทย รัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานชื่อเรือหลวงลำนี้ว่า เรือหลวงจักรีนฤเบศร แปลว่า ผู้เป็นใหญ่แห่งราชวงศ์จักรี และใช้คำขวัญว่า ครองเวหา ครองนที จักรีนฤเบศร ตลอดช่วงอายุประจำการ 19 ปี ได้ออกช่วยเหลือประชาชน ทั้งการกู้ภัยทางทะเล การเป็นฐานทัพ และสนามบินเฮลิคอปเตอร์กลางทะเล เป็นฐานปฏิบัติการของชุดเคลื่อนที่ และอากาศยานในการนำสิ่งของแจกจ่ายให้กับประชาชนตามหมู่เกาะ และพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงทางบกได้ รวมถึงได้เข้าช่วยเหลือ และบรรเทาสาธารณะภัยให้กับประชาชนมากมายนับไม่ถ้วน ปัจจุบันเรือหลวงจักรีนฤเบศร จอดเทียบที่ท่าเรือน้ำลึกจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมความยิ่งใหญ่ และความสง่างามของเรือหลวงลำนี้ และที่เป็นไฮไลท์คือลานบินด้านบนที่เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม และยังเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทะเลสวย ๆ ได้ไกลสุดสายตาอีกด้วย และใกล้ ๆ กันเรายังสามารถเข้าชมความยิ่งใหญ่ของ เรือหลวงสิมิลัน ได้อีกด้วย

เกาะแสมสาร (ห่างจากสถานี 16.2 กิโลเมตร / ท่าเรือเขาหมาจอ)

เป็นเกาะขนาดเล็กที่อยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเกาะทั้งปี ไม่มีวันหยุด ปกติแล้วเกาะแสมสารจะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวขึ้นเกาะประมาณ 500 คน / วัน แต่ปัจจุบันได้เพิ่มจำนวนต่อวันให้มากขึ้นซึ่งจะมากน้อยขนาดไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา เกาะแสมสารเป็นเกาะที่ไม่อนุญาตให้พักค้างแรม นักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางแบบไป-กลับเท่านั้น การจะข้ามไปเกาะแสมสารนั้น ก่อนอื่นเราต้องมาซื้อตั๋วที่ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย และขึ้นเรือที่ท่าเรือเขาหมาจอ สำหรับใครที่ชื่นชอบการดำน้ำ ต้องบอกว่าท้องทะเลที่เกาะแสมสารสวยงามและสมบูรณ์มาก เรานึกไม่ถึงเลยว่าทะเลสัตหีบจะสวยงามขนาดนี้ ที่นี่เต็มไปด้วยปะการังหลากหลายชนิด ทั้งปะการังเขากวาง ปะการังสมอง ดอกไม้ทะเล หอยมือเสือ รวมถึงปลาทะเลหลากหลายสายพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น พายเรือคายัค วอลเลย์บอลชายหาด และการนั่งเรือท้องกระจกชมประการัง

อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม หรือเกาะขาม (ห่างจากสถานี 16.2 กิโลเมตร / ท่าเรือเขาหมาจอ)

เป็นเกาะขนาดเล็กที่ห่างจากชายฝั่งสัตหีบเพียง 9 กิโลเมตร เกาะขามมีพื้นที่เพียง 61 ไร่เท่านั้น ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกองเรือป้องกันฝั่ง เกาะขามขึ้นชื่อเรื่องน้ำทะเลที่ใส และไล่ระดับสีน้ำทะเลกันอย่างสวยงาม ประกอบกับความสวยงามของทางเดินสะพานไม้ที่คดเคี้ยวไปตามหน้าผา และโขดหินอันกลายเป็นสัญลักษณ์ของเกาะขามไปแล้ว ที่นี่จะมีชายหาดหลัก ๆ สองหาดด้วยกัน คือ หาดด้านทิศเหนือ (ตรงท่าเทียบเรือ) ซึ่งมีหาดทรายค่อนข้างละเอียด แม้หาดบริเวณนี้ค่อนข้างเล็ก แต่ก็เหมาะสำหรับการว่ายน้ำ ดำน้ำชมปะการังน้ำตื้น และฝูงปลาทะเล ส่วนอีกหาดจะเป็นหาดด้านทิศใต้ ซึ่งเป็นหาดทรายหยาบทอดตัวเป็นแนวยาว หาดนี้จะเต็มไปด้วยหินกรวด และซากปะการังทับถมเต็มชายหาด หาดนี้อาจจะเดินลำบากกันซักหน่อย แต่ก็เหมาะสำหรับเป็นจุดนั่งพักผ่อนใต้ร่มไม้ที่มีตลอดแนวชายฝั่ง หาดนี้เต็มไปด้วยแนวปะการังน้ำตื้นอันอุดมสมบูรณ์ ซึ่งกระจายตัวอยู่รอบ ๆ เกาะ และปะการังที่เราพบเห็นได้มากคือ ปะการังเขากวาง ปะการังโต๊ะ และปะการังสมอง ในระดับความลึกของน้ำ ประมาณ 3-6 เมตร จึงเหมาะสำหรับ การดำน้ำทั้งแบบผิวน้ำ และแบบน้ำลึก นอกจากนี้ยังสามารถพบปลาทะเล หอยทะเล และดอกไม้ทะเลนานาชนิดได้อีกด้วย เกาะขามไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวค้างคืนได้เช่นเดียวกันกับเกาะแสมสาร  ปัจจุบันเกาะขามได้เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ทุกวันแล้ว โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรอบเรือ และการจองตั๋วล่วงหน้าได้ที่ www.kohkham.com

สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ข้อมูลทั่วไป

ขบวนรถไฟ กรุงเทพฯ - พัทยา - บ้านพลูตาหลวง :

ขบวน 283 (ขาไป) / 284 (ขากลับ)

ขบวน 997 (ขาไป) / 998 (ขากลับ)

เบอร์โทรศัพท์ : การรถไฟแห่งประเทศไทย 1690

สถานีแนะนำ :