"ภูชี้ฟ้า" ผาแหลมสูงตระหง่าน อลังการทะเลหมอกรับอรุณ

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (Phu Chi Fa National Park) จ.

theTripPacker

January 24, 2024, 3:27 PM February 8, 2024, 11:47 PM

ภูชี้ฟ้า จุดชมทะเลหมอกขวัญใจมหาชน การันตีโดยผม...รวมถึงนักท่องเที่ยวอีกมากมายที่ต่างก็พร้อมใจกันปักหมุดให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ เมื่อฤดูการแห่งสายลมหนาวมาเยือน ยอดเขาปลายแหลมสูงเด่น ที่มีทะเลหมอกขาวฟูปกคลุมอยู่เบื้องล่าง ยิ่งในยามพระอาทิตย์ขึ้น แสงแรกของวันยิ่งส่งให้ทิวทัศน์นี้งดงามราวกับภาพวาด

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย อยู่ในเขตป่าอนุรักษ์พื้นที่ประมาณ 2,500 ไร่ ความสูงราว 1,200-1,628 เมตรจากระดับน้ำทะเล ภูชี้ฟ้าเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาดอยผาหม่น มีลักษณะเด่นคือหน้าผาแหลมยาวที่ยื่นออกไปทางทิศตะวันออก บนยอดภูชี้ฟ้าเป็นทุ่งหญ้ากว้างแซมด้วยทุ่งโคลงเคลงที่ออกดอกเป็นสีชมพูอมม่วงซึ่งจะบานระหว่างเดือนกรกฎาคม-เดือนมกราคม ช่วงที่อากาศหนาวที่สุดของที่นี่จะอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึง กุมภาพันธ์ นอกจากพืชพันธุ์ไม้หายากแล้ว ยังมีสัตว์บางชนิดที่ยากแก่การพบเห็นอาศัยอยู่ เช่น เก้ง, กระจง, หมูป่า, อีเห็น, ชะมด, เสือไฟ และ เสือปลา เป็นต้น

บรรยากาศยามเช้าของทุกวันจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มารอต้อนรับแสงแรกของวันใหม่ โดยทางอุทยานฯ จะเปิดประตูทางเข้าให้นักท่องเที่ยวขับรถขึ้นมาบริเวณลานจอดได้ตั้งแต่เวลา 04.30 น. เป็นต้นไป โดยจากทางเข้าถึงลานจอดรถมีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร บริเวณนี้จะมีร้านค้า และห้องน้ำไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว โดยจากลานจอดรถเราจะต้องเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 700 เมตร เป็นลักษณะเนินชันต่อเนื่อง ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที ก็จะถึงปลายทางที่เป็นจุดชมวิว

บริเวณจุดชมวิวจะมีลักษณะเป็นลานกว้างสามารถชมทัศนียภาพได้หลากหลายมุม โดยจะแบ่งเป็น 4 จุดหลัก ๆ ด้วยกัน คือ บริเวณ “ผาหัวสิงห์” จะเป็นจุดชมวิวที่ต่ำลงมาจากตัวยอดผาภูชี้ฟ้า ซึ่งจะมองเห็นรูปทรงขอบผาชันตัดกับท้องฟ้าได้ชัดเจนที่สุด เรียกว่าเป็นจุดไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้ ต่อมาคือบริเวณ “ปลายขอบผา” เป็นจุดที่สูงที่สุดของภูชี้ฟ้า บริเวณนี้จะมีแนวรั้วกั้น และไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวยืนใกล้ขอบผาจนเกินไปเพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งทำให้จุดนี้เราจะสามารถมองเห็นได้เพียงเฉพาะแนวเขาระยะไกล และหมู่บ้านเล็กๆ ในเขตตำบลเชียงตอง ของฝั่งลาว  อีกจุดคือ “หลักเขตแดนไทย-ลาว” จุดนี้จะมีป้ายอุทยานภูชี้ฟ้า กับป้ายบอกระดับความสูง 1,628 เมตรจากระดับน้ำทะเล และหากเดินเลยป้ายมาอีกเล็กน้อยก็จะเป็นอีกจุดหนึ่งซึ่งสามารถมองเห็นอีกฝั่งหนึ่งของหน้าผาภูชี้ฟ้า ซึ่งถือเป็นมุมลับอันเงียบสงบที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยเดินมากันสักเท่าไหร่

การจะมาท่องเที่ยวยังภูชี้ฟ้าในช่วงฤดูหนาว สิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมไปให้พร้อมคือ เสื้อกันหนาว เพราะช่วงที่หนาวจัด ๆ จะมีอุณหภูมิราว 10 องศาเลยทีเดียว อย่าลืมไฟฉายส่องทาง รองเท้าควรเป็นรองเท้าที่สวมใส่กระชับเนื่องจากทางเดินค่อนข้างชัน และลื่นพอสมควรโดยเฉพาะในช่วงเช้าที่มีหมอกลง ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวปฏิบัติตามข้อบังคับของทางอุทยานฯ อย่างเคร่งครัด ช่วยกันรักษาความสะอาด ไม่ทิ้งเศษขยะตามรายทาง และไม่ข้ามแนวกั้นรั้วเพื่อความปลอดภัย

จุดเด่น

เป็นจุดชมทะเลหมอกที่มาง่าย ใช้เวลาเดินเท้าเพียง 15 นาที ก็มาถึงจุดที่เป็นไฮไลต์กันแล้ว และนักท่องเที่ยวยังสามารถใช้เวลาในการชื่นชมทะเลหมอก และเก็บภาพประทับใจได้ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดไปจนถึงช่วงสายของวันเลยทีเดียว

จุดด้อย

บริเวณลานจอดรถค่อนข้างคับแคบเกินไปสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะในช่วงเทศกาล แนะนำว่าควรใช้บริการรถรับ-ส่งของชาวบ้าน โดยมีค่าบริการ 100 บาท/คน

ข้อสรุป

ถือเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่มีความสวยงามอลังการ คุ้มค่าต่อการเดินทางมาท่องเที่ยว เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เด็กเล็กควรได้รับการดูแลจากผู้ปกครองอย่างใกล้ชิด

คะแนน 5/5

ข้อมูลทั่วไป

ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย

เวลาทำการ :  เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 4:30-18.00 น.

ช่องทางการติดต่อ :    

ค่าธรรมเนียม :  ไม่มีค่าบริการ

สถานที่จอดรถ : มีลานจอดรถให้บริการ (หากเป็นช่วงเช้าแนะนำให้ใช้บริการรถนำเที่ยวของชาวบ้าน)

วิธีการเดินทาง

จากตัวเมืองเชียงราย มุ่งหน้าไปทางอำเภอเทิง โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 1020 ผ่านอำเภอเชียงของ, เชียงคำ, ขุนตาล จนถึงอำเภอเทิง จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1093 ประมาณ 50 กิโลเมตร อุทยานฯ จะอยู่ทางซ้ายมือ