
D A Y 8 _ H U E _(งบ 2หมื่น)แบกเป้หน้าเต็ม บุกเดียว ตะลุยเวียดนามใต้จดเหนือ 11 วัน
hue,vietnam จ.
Natprapa MyD A Y 8 _ H U E _(งบ 2หมื่น)แบกเป้หน้าเต็ม บุกเดียว ตะลุยเวียดนามใต้จดเหนือ 11 วัน
M O V I N G T O H U E
หนีฝนจากฮอยอันมาเจอฝนหนักกว่าเดิม จริงรู้ว่าที่นี้ก็ฝนตกแต่แค่ไม่อยากอยุ่เมืองเดิม
แน่นอนเหมือนเดิม การมารับก่อนเวลาของคนขับรถตู้ เราว่าเราตื่นเช้าแล้วเค้ายังมาเช้ากว่าอีกคุณพระ!!!!
สะพานมังกร


พักรถเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือหิว จริงเรากินขนมปังกับโยเกริตที่เราซื้อมาจากดาลัดไปบ้างแล้ว
มากินก๋วยเตี่ยวที่รสชาติเหมือนน้ำปลา คือเส้นแบบขนมจีน แล้วนำซูปเหมือนต้มนำปล่าวธรรมดา
>>> ราคา 40.000 vnd

ตามสเตป Google พาหลง คือหาไม่เจอเลยเดินไปเรื่อยถามทางสาวๆ เราเลยขอพวกเค้าถ่ายรูป วันนี้สีปากเราสู้ไม่ได้เลยยอมมแพ้ 555 เดินยังไงก็หาไม่เจอ สุดท้าแล้วเราเลยโทไปหาโรงแรม เค้าเลยขับมอไซค์มารับ คือโรงแรมอยู่ในซอกมีป้ายโชว์เล็กๆ ตอนแรกเราจะจองห้องเดียวแต่ว่าโรงแรมส่วนใหญ่เต็ม

.
.
.
T I G O N H O S T E L H U E
ถึงซะที มาถึงพนักงานก็ถามว่าพรุ่งนี้จะไปไหนสนใจซื้อทัวร์ไหมแล้วจะซื้อตั๋วไป SAPA เลยไหม ถ้าซื้อให้ซื้อกับเค้านะเค้าคิดราคาถูก(จริงแล้วแพงมาก แถมเสียเวลาไปอีกวันครึ่ง ) ตอนนั้นเรารู้สึกเหนื่อยมาก ก็เลยบอกว่าขอพักก่อน ในระหว่างที่พักนั้นเราเลยตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบิน จาก HUE ไป HANOI มันซะเลยลำคาญ วุ่นวายมากคนมาถึงเหนื่อยๆจะไม่ให้หายใจเลยหรือไงจะขายอยู่นั้นละ
หลังจากหายเหนื่อยเราเลยลงมาเช่ามอไซค์ ราคาวันละ 150.000 vnd พนักงานคนเดิมก็ยังไม่เลิกถามเราว่าจะซื้อตั๋วไหม เราเลยบอกไปว่าเราจองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว เค้าก็อึ้งไปเลย ถามเราต่อว่าจองไปตั้งแต่เมือไหร เราบอกเมื่อกี้นี้ละ รู้สึกประหนัดเวลากว่าแถมราคาเพิ่มาแค่ เท่าเดียวเอง ยังไม่จบเค้ายังจะพยายามบอกเราว่างั้นนั่งรถไปสนามบินกับทางเค้าไหมคิดราคาคนกันเอง 220.000 Vnd เราเลยบอกว่าเดียวขอไปกินข้าวก่อนนะเดียวกับมาบอก ความจริงคือเราจะไปถามราคาจากเจ้าอื่น เราไม่ชอบการยัดเยียดแบบนี้มันทำให้รู้สึกน่าลำคาญ
( ราคาค่ารถนอน 800-900 บาท รถจะไปจอดที่ ฮานอยตอน 6 โมงเช้าแล้วจะต้องรอจนถึงเที่ยงเพื่อไปซาปา จะถึงซาปาในวันที่ 31 ตอน 1 โมง คำนวนแล้วเสียเวลานั่งเครื่องแพงกว่าก็ชั่ง)
>>>>ราคา1242.76 บาท_จองจาก Traveloka _Viet jit air .

.
.
.
I M P E R I A L E N C L O S U R E / T H E T O M I E U
นครจักรพรรดิหรือนครต้องห้าม
ตามสเต็ปเวลาจอดรถมอไซค์ต้องไปจอดที่อื่นเพื่อจะได้ไม่ต้องเสียตังค่าที่จอดรถ
เมื่อต้องซื้อตั๋วค่าเข้าพระราชวังเงินดองเราไม่พอจ่ายค่าเข้า ราคาอยู่ที่ 150.000 vnd = 6.6 - 7 usd เราบอกว่าขอจ่ายเป็นเงินดอลล่า ตอนแรกเค้าบอกเราว่า 5 Usd แต่พนักงานผู้หญิงรีบพูดขึ้นว่า 10 Usd เราลยบอกว่ามันไม่ถึงนะ เค้าบอกราคาเท่านี้ละ แต่เราว่ามันคือการโกง โกงแบบน่าเกียจเรารับไม่ได้ มันทำให้เรานึกถึงเพื่อนชาวจีนที่เจอที่มุยเน่ เพื่อนคนนี้เป็นมุคเทศ เค้าบอกเราว่าทุกประเทศมีการโกงแต่ไม่มีประเทศไหนโกงได้หน้าเกียจเท่าเวียดนาม เพราะว่า อย่างประเทศไทยจะเพิ่มแค่ 5% แต่เวียดนามเค้าจะทำทุกวิธีทางที่ทำได้ เช่น ถ้าอาหารราคา 50.000 vnd พนักงานจะคิดเรา 100.000 vnd เพื่อนชาวจีนคนนี้บอกว่าเห็นการกระทำนี้ที่พนักงานคนนี้ทำจริงเรียกมาด่าแล้วบอกว่าเห็นนะว่าเอาเงินยัดใส่กระเป๋า....เจอคนจริง
ถ้าเราไม่ขอทำตาม เลือกที่จะเดินถ่ายรูปภายนอกแล้วไปหาร้านแลกตังดีกว่า

สะพานเข้าเมืองนครต้องห้าม

ซุ้มประตูทางออกนครต้องห้าม

.
.
.
V P B A N K
เป็นแบงค์ที่ให้เลทราคาเงินดอลล่าดีมาก 22.7 จากที่แลกมาทั้งหมดในเวียดนาม เราได้ยินมาว่าให้แลกร้านทอง แต่ไปร้านทองดันไม่มีคนพูดภาษาอังกฤษได้เลย

.
.
.
E A T T I N G L O C A L F O O D
ถ้าใครมาที่นี้ก็ไม่ควรพลาดอาหารถ้วยนี้ รสชาติอร่อยกลมกล่อมมาก เส้นก๋วยเตี๋ยวเหมือนอุด้ง น้ำซุปเข้มข้น หมูสับก้อนๆ กับหนังหมู
หลังจากแลกเงินเรียบร้อยก็หาอะไรกิน เป็นร้านแม่ค้าหาบ เราถามราคาเค้าบอกว่า 15.000 vnd แม่ค้าร้านข้างเห็นเราถ่ายรูปเค้าก็ทักทายเราเป็นภาษาเวียดนามเพราะ คิดว่าเราป็นคนเวียดนาม หลังจากนั้น เราก็กลายเป้นดาราทันที่ 55 ทุกคนตรงนั้นก็ เข้ามาพูดคุยถามถ่ายเรา สนุกดีคะ จากที่นั่งสังเกตอยู่นาน จะเห็นได้ว่าราคาอาหารจริงแล้วเพียงแค่ 10.000 vnd แต่ด้วยเราเป้นนักท่องเที่ยวราคาจริงเพิ่มขึ้น ราคามันเพิ่มขึ้นไม่เยอะมากเราก็โอเค
แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจริงถามคนที่คุยอยู่ว่า อาหารอันนี้ราคาเท่าไหร พี่คนนั้นจึงหันไปถามแม่ค้า เหมือนรู้กันเลยว่าถ้านักท่องเที่ยวมากินจะต้องคิดคนละราคา ทั้งๆที่อาหารเหมือนกัน
สุดท้ายตอนจ่ายเงิน เรามีแค่ 12.000 vnd แม่ค้าก็โอเคคะ :)


.
.
.
H U E M A R K E T
มาเดินเล่นตลาดเพื่อหาของกิน
ข้างหน้าตลาดก็จะมีของขาย เราเดินไปร้านขนมร้านหนึ่งเลยถามราคาวัยรุ่นที่นั่งกินอยู่ว่าราคาเท่าไหร เค้าก้บอกว่า 10.000 vnd พอเราถามแม่ค้าเค้าบอกว่า 20.000 vnd แล้วเด็กวัยรุ่นก็มองหน้าเรา เหมือนส่งกระแสจิตว่า เห้ยแม่งคิดโครตแพงเลยวะ จะกินก็กินได้นะ แต่เราเกียจการชาตราคาแบบนี้ มันคือ 1 เท่าเลยอะ

แต่แล้วก็มาเจอกลุ่มวัยรุ่น นั่งกินไข่ข้าว คือ ไข่ไก่ที่มีลูกไก่ตายแล้วอยู่ข้างใน เราไม่กล้ากินขอบายคะ จริงมีขายตั้งแต่เมืองดาลัดแล้ว


แวะเข้ามาซื้อของ เราอยากลองของ โดนการพูดถามราคาเป็นภาษาเวียดนาม No bao nhieu ten แม่ค้าตอบมาเป็นภาษาเวียดนารัวๆ สงสัยจะพูดชัดเกินไป เรานี้ยืนอึ้งแล้วบอกเค้าว่า ไม่เข้าใจ แม่ค้าก็หัวเราะลั่นเลยคะ 555
ได้ที่กองกาแฟมาในราคา 10.000 vnd
อยากจะซื้อหลายอย่างไปฝากคนอื่นแต่ว่าไปหายเมืองเรากลัวลืม

หลังจากสนุกกับการพูดชัดเกินไป เลยเดินไปถามแม่ค้าร้านต่อไปว่า ราคาเท่าไหรในภาษาเวียดนาม No bao nhieu ten ผลตอบรับเหมือนเดิม แม่ค้าตอบรัวเป็นภาษาเวียดนาม 555 พอเราบอกเค้าว่าไม่เข้าใจ เค้าก็ขำไม่หยุด เค้าคิดว่าเราเป็นคนเวียดนามซึ่งหน้าตาเราไม่เหมือนเลย แต่เราคิดว่าการแต่งตัวพร้อมของเรา เพราะ เราเอาเสื้อกันหนาวมาจากประเทศไทย รู้สึกชอบคนตลาดนี้จัง555
เราเลยซื้อมาลองกินคะเป็นวุ้นเส้นผัด เต้าหู้ ก็นั่งเขี่ยมันออกไปคะ ไม่กินเต้าหู้ เอามากินตอนกลับโรงแรมแล้ว
>>>>ราคา 10.000 vnd

น่าตามันมีน้ำมันเยอะมากไม่กล้าลอง

บรรยายกาศตลาดที่วุ่นวายมากกกก รถติดตลอด เรานี้นะดับมอไซแล้วเข็นเอาแทน



.
.
.
T H E O N E C O F F E E : 5.00 PM
เมืองไทยคงไม่หนาวเท่านี้สินะ เราก็ยังคงแพ้อากาศจนหน้าบวมต่อ ขับมอไซค์ตากฝนไม่ไหวแล้วหนาวจนสั่น ขอนั่งพักซักหน่อยที่ร้านกาแฟ ที่ใหญ่ที่สุดในเว้ ก็ว่าได้

เปิดเข้าร้านมา ก็เจอเด็กวัยรุ่นที่เป้นทั้งพนักงานเสริฟและพนักงานขาย ร้านกาแฟขนาดใหญ่มาก 7 คูหาได้ โดยปกติเวียดนามเป็นประเทศที่พื้นที่มีราคาแพง เชื่อว่าเจ้าของต้องรวยมากก แถมราคากาแฟก็ไม่แพง มี wifi ให้
>>> ราคา 55.000 vnd

บรรยายกาศชั้น 2



ว่าแล้วก็ต้องเช็คอิน ซะหน่อย

ออกมาตอน 6.30 Am ก็ยังไม่หยุดตก เบื่อโครตตต แผนเราคือ
เราจะไปถ่ายรูป I M P E R I A L E N C L O S U R E / T H E T O M I E U นครจักรพรรดิหรือนครต้องห้าม ในเวลากลางคืน เพราะ หาในอินเตอร์เนตบอกว่าสวยมาก
.
.
.
การขับมอไซค์ตากฝนเป็นอะไรที่แย่มาก
สำหรับคนที่ขับมอไซค์ไม่แข็งแบบเรา แถมหน้าชามากเลยตัดสินใจซื้อเสื้อกันฝน ระหว่างชื้อก็ต่อราคาแม่ค้า แล้วก็มีพี่ผุ้ชายมาช่วย ตอนจ่ายเงินเรามีแต่แบงค์ใหญ่ป้าไม่มีทอน พี่เค้าเลยช่วยออกให้ 10.000 vnd แล้วพี่เค้าบอกเราว่าอยากชวนเราไปกินกาแฟ เราก็บอกว่าพึ่งกินมาเมื่อกี้ตาจะค้างเอานะสิ แต่พี่เค้าก็ยังยื่นยันว่าไปกินชาก็ได้เค้านัดเพื่อนไว้ ในใจตอนนั้น กลัวมากเอาไงดี แต่เค้าบอกว่าถ้าเราคิดในแง่บวกสิ่งที่บวกก็จะตามมา แต่เมื่อไหรที่เราคิดในแง่ลบสิ่งเวลาร้ายก็จะตามมา
ตามนั้นเป็นสิ่งดีคะ คือพี่เค้านัดเพื่อนไว้จริงๆ เราก็ขับรถเว้นระยะห่างเพื่อเกิดอะไรขึ้น 555

นี้ไงคะพี่เค้านัดเพื่อนไว้จริงๆ น้องผู้หญิงกำลังเรียนเป็นคุณหมอคะ จริงแล้วเค้าพาเรามาเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณืมากกว่าเค้าอยากรู้ว่าเมืองไทยเป็นยังไง ทำไมมาคนเดียว ทำไมไม่มีแฟน เป็นคนถามปกติที่เราเจอมาตลอดเมือง เค้าก้บอกว่าเค้าพาเรามาเพื่ออยากให้น้องผู้หญิงได้กล้าพูดภาษาอังกฤษ ส่วนพี่ผู้ชายก็พูดภาษาอังกฤษได้ค่อยคล่องคะ ระหว่างคุยกันไปก็เป็นเรื่องราวน่ารักของคู่รัก 2 คนนี้ เป็นการพบรักกันบนรถทัวร์ผู้ชายเป้นเจ้าของรถทัวร์ ส่วนผู้หญิงเป็นนักศึกษาที่เรียนกันคนละเมือง เวลาเราฟังเรื่องพวกนี้จะรู้สึกดีใจกับพวกเค้าที่เจอคนที่ใช่ ส่วนพี่ผู้ชายมีภรรยาแล้วคะ เค้าก้บอกเราว่าถ้าหากมีบริการ ต้องการซื้อขายหรือเช่ารถอะไรติดต่อเค้าได้เลย พี่เที่ยง 5555
ถึงเวลาแล้วคะที่ต้องแยกย้ายกันไปเพราะ เราต้องไปก่อน
I M P E R I A L E N C L O S U R E / T H E T O M I E U
นครจักรพรรดิหรือนครต้องห้าม ปิดไฟ
(ทำไมหน้าเราบวมขนาดนี้ละ )

นี้คือชาที่พี่เค้าสั่งมาเลี้ยงเรา มันคือ ลิปตันไอที ใส่โสม บ๋วย และส้ม อร่อยมากคะ

.
.
.
N I G H T T I M E
I M P E R I A L E N C L O S U R E / T H E T O M I E U
นครจักรพรรดิหรือนครต้องห้าม
.
.
.
นี้คือซุ้มประตูทางเข้าที่ผ่านมาเมื่อเช้า

สวยคะ




บรรยายกาศโครตหลอน 555+ มีแค่เราคนเดียว แต่ตอนหลังก็มีคนเดินมา 3-4 คนเอง

.
.
.
L E Q U Y D U O N G H F E S T I V AL H U E
บริเวณใกล้ๆกับ ขอสาระภาพว่าหลงเข้ามา
โครตหลอนบอกเลย สวยนะสวยนะ แต่บนนั้นมีเพีบงเราคนเดียว แล้วฝนก็ตกปรอย ยังกะหนังผี


.
.
.
ก่อนจะกลับโรงแรม ขอแวะข้างทางหน่อยเจอกลุ่มวัยรุ่นจอดรถชื้อของกันตรึม
ขนมปังปิ้งคิวยาวมาก ส่วนมากก็เป็นมันหมู หมู 3 ชั้น เราไม่ชอบเลยขอบายย บริเวณรอบๆก็มีน้ำเต้าหู้ใส่ไข่ เราไม่กินเต้าหู้ บายไปอีก555





.
.
.
กลับถึงโรงแรมนอนซะที่ พรุ่งนี้ตอนเช้าจะขับมอไซค์ไป
T O M B O F K H A I D I N H สุสานของพระเข้าไคดิงห์
เพราะ มีเวลาเหลือครึ่งวัน ไฟล์บินตอน 2.30 pm
.
.
เราลงมานั่งกินข้าวเพราะ คนอื่นเค้าเตรียมนอนกันแล้ว เราเลยมาสอบถามเรื่องอาหารเช้าว่าเริ่มกี่โมง จะได้กะเวลาเที่ยวถูก
ระหว่างที่นั่งกินข้าวด้านล่าง น้องๆ พนักงานโรงแรมก็มานั่งคุยกับเรา
น้องผู้หญิง : เราไปที่ไหนมามั้ง มาคนเดียวหรอ แหนไม่ว่าหรอ ไม่กลัวหรอ ตัวเค้าเองอยากทำได้แบบเรามั้ง แต่เค้ากลัวการเดินทางคนเดียวและเค้าไม่เคยไปเที่ยวไหนเลย เค้าเองอยากไปโฮจิมินมาก
เราก็แชร์รูปต่างที่ไปเที่ยวในเวียดนาม ส่วนน้องผู้ชายเค้าก็เดินเข้ามาคุยด้วย (พูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก เพราะ เค้าอยากเป็นมัคคุเทศ) เค้าเลยพยายามทำงานที่โรงแรมหรือร้านอาหารเพื่อที่จะได้ใช้ภาษา
ในการสนทนา เราก็ถามว่า คนเวียดนามเรียนภาษาฝรั่งเศษไหม เค้าบอกว่าไม่เรียนนะ แล้วคนส่วนใหญ่ก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เพราะ คนส่วนมากขี้อาย คล้ายกับคนไทยนี้ละ พวกเค้าจะเก่งการเขียน แต่การพูดเค้าจะไม่กล้าที่จะพูด
ส่วนน้องผู้หญิงก็ค่อยบอกเราตลอดว่า เค้าขอโทษที่เค้าไม่สามารถอธิบายเป็นภาษาอังกฤษได้ เราก็บอกว่า เราก็พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยดีเหมือนกัน ค่อยอธิบายเราช้าๆไม่เป็นไร
เราสามารถรับรู้ได้ถึงความใจดี ใจเย็น ความน่ารักที่สอดแทรกจากการพูดและการกระทำของพวกเรา ความประทับใจมันมีทุกทีทุกเวลาเมื่อเราได้ใกล้ชินกับคนในพื้นที่ แม้ว่าเราจะเจอคนที่โกง แต่ในทางกลับกันเราจะเจอคนที่ดีจนเราใจหายเหมือนกัน

เด็กน้องลูกเจ้าของโรงแรม

.
.
.
B R E A K F A S T
เริ่มต้นด้วยอาหารเช้าฟรี ตอน 7.30 AM เราหลงรักขนมมปังเวียดนามมากก

.
.
.
.
T O M B O F K H A I D I N H สุสานของพระเข้าไคดิงห์
ขับรถมาไกลมากก11 km 30 - 40 นาที
นึกในใจ นี้กูทำบ้าอะไรวะนี้ตอนนั้นอยากขับกลับมาก ฝนตกแล้วมันตีหน้า เครื่องสำอางก็หาย แถมไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษได้เลย ในตอนที่ถามทาง ทางมันน่ากลัวมาก แต่ใจหนึ่งก็มาแล้วหายถอยหลังกลับ Keep going
ระหว่างทางก้มีคนชี้มาที่เราตลอด แต่เราไม่เข้าใจที่เค้าพูดจนเราขับมาได้ซักระยะหนึ่ง เลยแวะถามทางที่ร้านซ่อมรถ สุดท้ายที่เค้าชี้ๆกันคือ ยางหลังแบนเกือบติดถนน คุณพระ ขอบคุณพระที่คุ้มครองลูก พี่ๆเค้าเลยช่วยเต็มลลมให้เราแล้วบอกว่า ฟรี :)

.
.
.
F I N A L L Y
I ' M H E R E
T O M B O F K H A I D I N H
เป็นเพียงสุสานเดียวที่มีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันออกร่วมกับสถาปัตยกรรมตะวันตก ซึ่งอาจจะมองได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่อยู่ในยุคการล่าอาณานิคม หรือมองอีกมุมหนึ่ง เป็นสถาปัตยกรรมสุดแปลก ที่เกิดจากการผสมผสานแบบสุดขั้วระหว่างจีนและยุโรป สุสานแห่งนี้ถูกสร้างในสมัยจักรพรรดิไคดิงห์ เพื่อใช้เป็นสุสานของพระองค์ แต่แล้วสุสานไม่ทันสร้างเสร็จก็ทรงสิ้นพระชนม์ไปเสียก่อน ภารกิจสร้างสุสานแห่งนี้ต่อจึงตกเป็นของ บ๋าวได่ พระราชโอรส จึงสร้างแล้วเสร็จ สุสานแห่งนี้สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดี โดยใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 11 ปี
credit : http://travel.mthai.com/world-travel/63126.html


บริเวณลานกว้างที่มีรูปสลักหินของเหล่าบรรดาช้าง ม้า ทหาร และขุนนาง ที่ตั้งเรียงรายอยู่ สองฟากฝั่งผลงานชิ้นยอดของช่างฝีมือนิรนามหลายคน ถัดเข้ามาเป็นศิลาจารึกที่ตั้งแท่นบูชาดวงพระวิญญาณ และพระตำหนักด้านในที่แวดล้อมไปด้วยบึงน้ำและสวนอันร่มรื่น ซึ่งจากพระตำหนักนี้เอง สามารถมองเห็นหลุมฝังพระศพเป็นเนินดินวงกลมขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยรั้วสูง แต่ไม่เคยมีใครรู้เลยว่าตำแหน่งของที่ฝังพระศพที่แน่นอนนั้นอยู่ตรงไหน เพราะไม่อนุญาตให้ผู้ใด นอกจากผู้ที่ทำการฝังพระศพเข้าไป และผู้ที่ทำการฝังพระศพนั้นจะต้องฆ่าตัวตาย ตามพระองค์ด้วยเพื่อเป็นข้าราชบริพารรับใช้พระองค์ในภพหน้า
credit : http://travel.mthai.com/world-travel/63126.html

เมื่อเข้าไปก็เจอกับกลุ่มทัวร์คนไทยคะ ก้ทักทาย พวกเค้าตกใจที่เรามาคนเดียวแล้ขับมอเตอร์ไซค์มาคะ และน้องชาวเวียดนามที่เป็นไกด์ก็ตกใจเช่นกัน เค้าถามเราว่ามาถูกได้ยังไง เราบอกไปว่าตามมาจาก google map น้องเค้าพูดภาษาไทยได้ชัดมาก เพราะเค้าลงทุนมาเรียนที่ประเทศไทยเลยคะ ส่วนนี้เป้นที่เคารพ พระเจ้าไคดิงด์ ด้านบนฝ้าจะเป็นการเพ้นรายมังกร รอบตกแต่งด้วยถ้วยชามที่ทำให้แตก และใช้พื้นหินอ่อน

มองตรงไปจะเป็นโชว์ furniture ที่เริ่มได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศษ

มามองดีเทลใกล้ จะเป็นถ้วยชามที่ถูกทำให้แตกแล้วนำมาตกแต่ง

เฟอร์นิเจอร์ที่กล่าวถึง ถ้าสั่งเกตให้ดี ผนังด้านหลังเหมือนกับหินอ่อนแต่จริงแล้วคือการเพ้น ฝีมือการเพ้นเนียนมากแทบแยกไม่ออก เราก็เดินหาร่อยต่ออยู่ตั้งนาน


เข้ามาส่วนด้านในกันมั้งคะ ถ้าสังเกตให้ดีส่วนที่เป้นหลังคา อยู่บนรูปปั้นนั้นจะมีมังกรอยู่รอบๆๆ 9 ตัว (เราแอบยืนฟังไกด์ที่เค้าอธิบายให้ชาวต่างชาติฟังนะคะ ส่วนเรื่องการยกระดับชั้นขึ้นมาอันนี้เราได้บินไม่ชัดแต่เชื่อว่ามีความหมายแฝงอยู๋อย่างแน่นอน หากใครรู้รบกวนขอคำแนะนำทางประวัติศาสตร์ด้วยคะ)

อลังการงานสร้างมาก ถึงจะมีความเป้ยสถาปัตยกรรมแบบจีน ในความเยอะของลวดลายมันรู้สึกเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก ไม่เสียแรงที่ขับมาไกล

เมื่อเดินลงมาก้จะมีสุสานอีก

เวลายังเหลืองั้นไปต่อ
.
.
.
.
.
.
I M P E R I A L E N C L O S U R E / T H E T O M I E U
นครจักรพรรดิหรือนครต้องห้าม
ที่เมื่อวานเราไม่ได้เข้า
นครแห่งจักรพรรดิที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมรดกตกทอดอันยิ่งใหญ่และสวยงามของราชวงศ์เหวียน นครจักรพรรดิหรือพระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตามแบบแผนความเชื่อของจีน ได้รับการออกแบบให้มีกำแพงล้อมรอบถึง 3 ชั้น
จุดน่าสนใจของการเที่ยวชม หลังจากที่นักท่องเที่ยวข้ามสะพานเดินลองผ่านซุ้มประตูหรือกำแพงชั้นนอกเข้าไป จะได้พบกับ ซุนทานกง หรือ ปืนใหญ่ 9 เทพเจ้า ซึ่งอยู่ทางด้านขวามือ หมายถึงเทพ 5 องค์ ตัวแทนของธาตุทั้ง 5 คือ โลหะ น้ำ ไม้ ไฟ และดิน ส่วนอีก 4 องค์ เป็นตัวแทนของฤดูกาลทั้ง 4 ฤดูใน 1 ปี
เว้ เมืองมรดกโลก เวียดนาม
ถัดมาเป็นกำแพงเหลือง ซึ่งเป็นกำแพงชั้นกลางที่ล้อมรอบนครของจักรพรรดิ พระราชวัง วัด และสวนดอกไม้เอาไว้ ในส่วนนี้มีประตูทางเข้าที่ตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม 4 ประตู ประตูที่สำคัญที่สุด คือ โหงะโมน หรือ ประตูเที่ยงวัน ที่สร้างขึ้นครั้งแรกด้วยหินแกรนิตในสมัยพระเจ้ามิงห์หม่าง เมื่อนักท่องเที่ยวผ่านลอดประตูชั้นที่สอง โดยข้ามสะพานน้ำทอง ซึ่งเคยถูกสงวนไว้เฉพาะจักรพรรดิเท่านั้น จะเจอกับพระราชวังไทเฮา อันเป็นวังที่สำคัญที่สุดในนครจักรพรรดิ ใช้สำหรับต้อนรับเชื้อพระวงศ์ระดับสูง และนักการทูตต่างประเทศ นอกจากนั้นราชสำนักยังใช้เป็นที่จัดงานฉลองสำคัญต่างๆ เช่นกัน ส่วนวัดวาอารามภายในกำแพงแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับขุนนางหลายคน วัดสำคัญคือ วัดเถเหมียว ซึ่งได้รับการดูแลอย่างดี สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับผู้ปกครองในราชวงศ์เหวียน ถัดมาส่วนในสุดของนครจักรพรรดิ คือ ตือกามแทงห์ หรือนครต้องห้ามของจักรพรรดิ ที่ถูกสงวนไว้เฉพาะจักรพรรดิและเชื้อพระวงศ์นั้น
credit : http://travel.mthai.com/world-travel/63126.html












.
.
.
H U E A I R P O R T
ถึงเวลาบินไป H A N O I ก่อนกลับเราเลยถามแท๊กซ๊่แถวนั้นว่าราคาไปสนามบินเท่าไหร เค้าบอก 220.00 vnd
แต่โชคดีเราเจอ Taxi คิดเรา 180.00 vnd เราต่อเหลือ 160.000 vnd
เอาเข้าจริงแล้ว ค่ามิตเตอร์ 170.000 vnd แต่พี่แท๊กซี่ก็ไม่โวยวายแล้วให้เราจ่ายตามที่ตกลงกันไว้
.
..
...
พี่ผู้ชายคนนี้ช่วยเอากระเป๋าเราไปรวมกับเค้าเพราะนำหนักเกิน เค้าไม่สามรถพูดหรือเข้าใจภาษาอังกฤษได้เลย เราเลยสื่อสารกันทางเฟสบุ๊คเพราะว่า ที่แปลภาษาของเฟสบุ๊คสามารถแปลได้ถูกต้องมากกว่า google ซะอีก น่าแปลกใจ เค้าก็เป็นห่วงเราที่มาเที่ยวคนเดียวเพราะ ตัวเค้าเองก็มีลูกสาว
เมื่อมาถึงสนามบินมาฮานอย พี่เค้าก็พยายามหาคนที่จะช่วยพูดกับเรา นั้นคือเด็กนักศึกษาผู้หญิงที่พอพูดภาษาอังกฤษได้ มาค่อยช่วยแปลให้ว่าเค้าจะพาเราเข้าเมืองฟรี เค้าบอกว่าเค้าอยากให้เราพักที่ฮานอยก่อนอย่าพึ่งไปซาปาเลย แต่เราดื้อมาก จนสุดท้ายไปถึงโรงแรมของพี่ผู้ชายคนนี้ สิ่งแรกที่พี่เค้าทำคือ เดินตรงไปหา Reception แล้วบอกให้พนักงานติดต่อช่วยหารถไปซาปา ในระหว่างเดียวกันเค้าก็บอกว่าอยากให้เราพักที่นี้ก่อนแล้วค่อยไปซาปาตอนเช้า เค้าจะช่วยหาโรงแรมถูกๆให้ เราก็ซึ้งในน้ำใจเค้ามาก แต่เรามองว่ามันเสียเวลา

นี้คือหนุ่มเวียดนามที่ช่วยติดต่อหารถให้ แล้วยังติดต่อ grap bike ให้ไปสถานีของรถบัส
>>>>ราคารถมอไซค์ 46.000 vnd

เด็กแว็นซ์

มาถึงแล้วค่านั่งรอไป พอจะจ่ายเงินเท่านั้นละ ตังไม่พอต้องแลกตัง เราเลยถามคนที่เดินผ่านแถวนั้นเค้าเลยช่วยพาเราไปหาร้านแลกตัง ธนาคารก็ปิด แถมร้านแลกเงินก็ไม่มี นรกมาก เค้าเลยหันมาแล้วบอกเราว่าจะยอมแลกเงินให้เอง หล่อได้อีก ในระหว่างที่เดินไปบ้านเค้า มีผู้หญิงหนึ่งคนอยู่บนรถมอไซคฺแล้วกล่องลังก็หล่นอยู่ที่พื้น ลักษณะเหมือนจะหยิบแต่หยิบไม่ถึง ผู้ชายคนนี้เดินเข้าไปแล้วช่วย จริงแล้วมันไม่น่าแปลกใจอะไรมากหรอก ถ้าเราเห็นแบบนี้ในประเทศไทย แต่ในเวียดนามนั้นหาได้ยาก
หลังจากแลกเงินเรียบร้อย เค้าก็ถามเราว่าหิวไหม กินอะไรหรือยัง เราก็ตอบไปตามตรงว่าหิวมาก 555
นี้คือ สถานนี้รถทัวร์เป็น รถที่มีแต่ชาวบ้านไร้นักท่องเที่ยวที่จะไปซาปา
>>>>ราคาคนละ 240.000 vnd

เค้าพาเรามากินก๋วยเตี๋ยว บอกว่าร้านนี้อร่อยมาก จานนี้ละที่ทำให้ท้องไส้เราปั่นป่วน เพราะว่ามันมีหน่อไม่และเราดันใส่พริกน้ำส้มไปอีก ตอนจ่ายเงินเค้าบอกว่าไม่ต้องจ่าย เค้าเลี้ยงเรานี้เกรงใจมากก ทำไมเธอดูหล่อตั้งแต่เธฮช่วยผู้หญิงคนนั้น แล้วยังมาช่วยคนแปลกหน้าแบบเราอีก เราเลยบอกเค้าว่าถ้ามาไทยต้องมาบอกเรา เราจะพาเค้าเที่ยวเอง

หนุ่มเวียดนามที่ใจหล่อมาก

ขึ้นรถทัวร์ ตอน 3 ทุ่ม เป็นรถนอน
ต่อจากนี้ไปจะเป็นนาทีระทึก
ติดตามตอนต่อไป