
พิชิตดอยผ้าห่มปก กับเส้นทางการเดินป่า 2 วัน 1 คืน
อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก (Doi Pha Hom Pok National Park) จ.เชียงใหม่
Namee Be Bearพิชิตดอยผ้าห่มปก กับเส้นทางการเดินป่า 2 วัน 1 คืน
สวัสดีทุกคน ทริปนี้เป็นเส้นทางที่ 5 ของการเดินป่า โดยเดินทางกันวันที่ 19-21 มกราคม 2560 (2 วัน 1 คืน) ทริป “ดอยผ้าห่มปก” เป็นทริปร้อนของพวกเรา เนื่องจากทริปที่วางแผนจะไปกันในวันดังกล่าว มีการเลื่อนการเดินทางแบบกะทันหันของคืนก่อนวันที่จะเดินทางไป ทุกอย่างจึงดับศูนย์ แต่การเดินทางของพวกเราไม่ได้ดับลงไปด้วย
พวกเราไม่มีการวางแผนสำรองใดๆ ไว้ล่วงหน้าเลย มีแต่เป้าหมาย 12 เส้นทางเดินป่า แตะขอบฟ้าเมืองไทย และมีเวลาไม่ถึง 1 วัน ที่จะให้เตรียมแผนใดๆ มีแค่สถานที่ให้เลือกว่าอยากจะไปที่ไหนแทน ตามเป้าหมายที่เหลืออยู่ที่ได้ตั้งใจไว้ว่าจะไปให้ครบ

พวกเราจึงเลือกที่จะไป “ดอยผ้าห่มปก” เพราะสามารถไปกันเองได้ ทุกคนจึงต้องรีบแบ่งหน้าที่กัน (เราไปกัน 3 คน)
>>หาเที่ยวรถทัวร์ที่จะเดินทางไปและกลับ (ตามวันที่ได้วางแผนไว้จากทริปเก่าเพราะลางานกันไปแล้ว) ทุกบริษัทรถทัวร์เต็มเกือบหมดทุกที่ ถึงมีก็ไม่ใช่ช่วงวันเวลาที่เราจะสะดวกไปได้ แต่ยังถือว่าโชคดีหาเที่ยวไปได้กับของ บริษัท นครชัยแอร์ เป็นรถ VIP รอบเวลา 22.45 ทำให้เรามีเวลาในเก็บเสื้อผ้าหลังเลิกงานได้ก่อนเดินทาง ในวันที่ 19 ส่วนเที่ยวกลับวันอาทิตย์หาไม่ได้จริงๆ เต็มหมดทุกที่ ทำให้พวกเราต้องเลือกเดินทางกลับกันในคืนวันเสาร์ที่ 21 แทน ซึ่งได้ของบริษัท นครชัยแอร์ เช่นกัน เป็นรถ VIP รอบเวลา 20.00 ถึงแม้จะทำให้เราพลาดการเที่ยวที่ “ดอยอ่างขาง” กันต่อ แต่ไม่เป็นไรมีโอกาสเราจะไปกันใหม่
>>หาข้อมูลการเดินทางไปที่อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก ข้อมูลจากรีวิวต่างๆ ช่วยเราได้เยอะเลยจ๊ะ ขอบคุณทุกรีวิวที่เขียนถึงการเดินทางไปดอยผ้าห่มปก ก๊าบบบ
>>โทรสอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับทางอุทยานถึงสภาพอากาศบนดอย เพราะพวกเราไม่รู้ว่าวันที่จะไปกันนั้นมีสภาพอากาศเป็นเช่นไร มีฝนหรือไม่ หรืออากาศหนาวเย็นขนาดไหนกัน ต้องขอขอบคุณข้อมูลที่ทางเจ้าหน้าที่อุทยานได้แจ้งให้พวกเราทราบก่อนเดินทาง 1 วัน
การเดินทาง : รถโดยสารประจำทาง
มีรถประจำทางปรับอากาศของบริษัทขนส่งจำกัด และบริษัทรถร่วมเอกชน ระหว่างกรุงเทพ-ฝาง (เที่ยวรถเต็มฮะ) , เชียงใหม่-ฝาง ค่ารถประจำทาง 80 บาทต่อคน รถโดยสารมี 6 เที่ยว เที่ยวแรกตอน 05.30 น. และเที่ยวสุดท้าย 15.30 น. (นั้นละคือสิ่งที่เราต้องเลือก) มีรถตู้ประจำทางแต่ต้องโทรจองฮะ ค่าบริการ 150 บาท เมื่อถึงอำเภอฝาง จะมีรถรับจ้างคอยบริการรับส่งสู่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก ระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร ส่วนใหญ่เป็นบริการจากวินมอเตอร์ไซค์ ค่าบริการอยู่ที่ 100 บาทต่อคน สำหรับเส้นทางไปดอยฟ้าห่มปกนั้น จากอุทยานควรเดินทางด้วยรถขับเคลื่อนสี่ล้อ (อัตราค่าบริการรถ 1 คัน อยู่ที่ 1,800 บาท / กลุ่ม ซึ่งไม่เกิน 8 คน) วิ่งตามถนนสายฝาง – บ้านห้วยบอน เมื่อถึงบ้านห้วยบอนแล้ว ตรงไปตามถนนลูกรังอีกประมาณ 18 กิโลเมตร จะถึงที่ตั้งลานกางเต็นท์กิ่วลม
สามารถขับรถส่วนตัวขึ้นไปเองได้ (แต่อาจต้องทำการติดต่อขอขึ้นก่อน) ซึ่งรถส่วนตัวงดขึ้นดอย หลัง 15.30 น. บนดอยมีลานจอดรถให้บริการอยู่ แต่ก็เห็นมีคนขับมอเตอร์ขึ้นไปเช่นกัน เส้นทางขึ้นไม่ถึงกับหน้ากลัว หรือเป็นอันตรายมาก
ปล. พวกเราติดต่อกับคุณกำวล ซึ่งเป็นหัวหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และเป็นคนประสานเรื่องทุกอย่างให้กับพวกเรา รวมถึงเป็นคนที่ขับรถมารับพวกเราจากท่ารถเมล์ ที่ตัวเมืองฝางไปส่งที่อุทยาน โดยค่าบริการอยู่ที่ 200 บาท/ไม่จำกัดคนแต่ก็ไม่ควรเกิน 8 คน (เป็นการใช้บริการจากทางอุทยานโดยตรง) รวมถึงให้ทางอุทยานช่วยจับกลุ่มนักท่องเที่ยวสำหรับแชร์ค่ารถในการขึ้นดอยให้ด้วยโดยไม่ต้องเหมารถขึ้นดอยเองในกรณีที่มากันไม่กี่คน
ระยะทางในการเดิน : ดอยผ้าห่มปกมีความสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย ด้วยความสูง 2,285 แต่การเดินเท้าค่อนข้างสบาย ด้วยการเดินเฉลี่ยประมาณ 2 ชั่วโมง บนระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร จากจุดกางเต็นท์ไปถึงจุดชมวิวบนยอดดอย
จุดชมวิว : เด่นเรื่องทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า บนยอดดอยผ้าห่มปกจะสามารถมองทิวทัศน์ได้รอบ 360 องศา ส่วนพระอาทิตย์ตกยามเย็นสามารถนั่งดูได้แบบชิลๆ ณ จุดกางเต็นท์กิ่วลม โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินไปไหนอีก เพียงแค่เตรียมกล้องให้พร้อมในการถ่ายรูปเท่านั้นพอ ซึ่งจุดกิ่วลม นี้ระดับความสูง อยู่ที่ 1,924 เมตร จากระดับน้ำทะเล
สิ่งอำนวยความสะดวก : มีบริการเช่าเต็นท์นอน ขนาด 3 คนนอน ราคา 225 บาท/คืน, ถุงนอน ใบละ 30 บาท/คืน, หมอน ใบละ 10 บาท/คืน, แผ่นปูนอน ผืนละ 20 บาท/คืน, และอื่นๆ ,มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำให้บริการ, มีร้านอาหาร 1 ร้าน, จุดพักเต็นท์มีสัญญาณโทรศัพท์ทุกเครือค่าย
จองที่พักและบริการออนไลน์ : http://nps.dnp.go.th//reservation.php กรณีที่ไปช่วงเทศกาลควรจองไว้ก่อนไป แต่พวกเราไม่ได้จองไว้ เพราะโทรไปสอบถามรายละเอียดมาแล้วมีพื้นที่ว่างเยอะ
อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ
ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท
สถานที่ติดต่อ อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก 224 ม.6 ต.โป่งน้ำร้อน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ 50110 โทรศัพท์ 0 5345 3517, 084-483-4689
เบอร์โทรศัพท์ คุณกำวล 089-263-4585 อีเมล : doiphahompok.np@hotmail.com
ปล. เจ้าหน้าที่ที่นี่บริการดี มีการแนะนำข้อมูลและอธิบายรายละเอียดอย่างชัดเจน รวมถึงมีการประสานที่ดีมาก
อยากสูง อยากหนาว อยากออกไปแตะขอบฟ้ากับเธอ
>>พวกเราขึ้นรถที่สถานีเดินรถนครชัยแอร์ กรุงเทพฯ ในวันที่ 19 ออกเดินทาง 22.45 น. ถึง อาเขต 2 เชียงใหม่ เช้าวันที่ 20 ตอน 08.30 น.

สถานีเดินรถนครชัยแอร์ กรุงเทพฯ
>>รถขึ้นรถแดง (รถสองแถว) จากอาเขต ไปขนส่งช้างเผือก ถึงประมาณ 9 โมง ค่ารถเขาคิดคนละ 50 บาท แต่เพื่อนที่ไปด้วยเป็นเด็กเหนืออู่คำเมืองกันขอลดเหลือแค่ 30 บาท

สถานีขนส่งช้างเผือก
>>นั่งรถประจำทางสาย เชียงใหม่-ฝาง-ท่าตอน ราคา 80 บาท รถออกเที่ยว 09.45 น. ถึง อ.ฝาง ตอน 13.10 น. ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงกว่า ระยะทางประมาณ 700 กว่ากิโล
>>ไม่ต้องพกพาอะไรขึ้นรถเมล์ไปนอกจากกระเป๋าเสื้อผ้า ส่วนของกินของใช้สามารถหาซื้อที่ตัวเมืองก่อนขึ้นอุทยานได้ ที่นั้นมีตลาดสด มีทุกอย่างครบ


>>พวกเราถึงอุทยานตอนบ่าย 2 โมงครึ่ง โดยให้เจ้าหน้าที่อุทยานมารับ ค่าบริการ 200 บาท ไม่จำกันคนแต่ก็ไม่ควรเกิน 8 คนอะนะ หากมากันหลายคนจะประหยัดกว่านั่งวินมอเตอร์ไซค์เยอะเลย ซึ่งค่าวินคนละ 100 บาท
>>เสียค่าเข้าอุทยานคนละ 50 บาท

>>ถึงอุทยานติดต่อเจ้าหน้า แล้วก็นั่งรอสมาชิกท่านอื่นๆ เพื่อแชร์ค่ารถกัน ซึ่งรถคันหนึ่งรับคนได้ไม่เกิน 8-10 คน /รถ 1 คัน ราคาบริการ 1,800 บาท ขาไปนั่งรถคันไหนขึ้น ขากลับก็ต้องนั่งคันนั้นกลับเช่นกัน หรือถ้าใครมาเป็นกลุ่มใหญ่สามารถเหมารถเองโดยขึ้นจากตัวเมืองฝาง ไปยัง “จุดกางเต็นท์กิ่วลม” ได้เลย โดยไม่ต้องแวะมาที่อุทยานอย่างพวกเราได้



ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
>>ระหว่างนั้นก็สามารถเดินเที่ยวแถวบ่อน้ำพุร้อนบริเวณที่ทำการอุทยานฯ ได้ ทิวทัศน์กว้างขวาง
“โป่งน้ำร้อนฝาง” เป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ จากแร่กำมะกัน ซึ่งทางอุทยานได้นำน้ำเย็นเข้ามาผสมเพื่อลดความร้อนให้ได้อุณหภูมิที่เหมาะสม




>>มีบริการอาบน้ำแร่ อบน้ำแร่ มีบริการนวดตัว นวดฝ่าเท้า นวดประคบสมุนไพรไทย สามารถใช้บริการหรือเที่ยวชมได้ระหว่างรอขึ้นดอย
>>พวกเราครบองค์ตอน บ่าย 3 โมงครึ่ง ก็ไม่รอช้านั่งรถขึ้นไปถึงกิ่วลมกัน ระหว่างทางก็จะพบจุดชมวิว สามารถหยุดรถแวะถ่ายรูปบันทึกความทรงจำกันได้นะจ๊ะ









แวะจุดชมวิวระหว่างทาง
>>ถึง "กิ่วลม" ตอน 4 โมงกว่า อากาศกำลังเย็นแดดไม่ร้อนแล้ว ก่อนอื่นต้องเข้าไปติดเพื่อขอเช่าพื้นที่กางเต็นท์ และอุปกรณ์ต่างๆ เต็นท์เจ้าหน้ากางไว้รอเรียบร้อยแล้ว เราแค่ไปติดต่อเพื่อจ่ายเงิน และเลือกทำเลที่ต้องการ






นี่คือทำเลที่พวกเราเลือก ด้านหน้าก็จะเป็นวิวสน พร้อมนั่งชมพระอาทิตย์ตกได้
>>ส่วนบรรยายกาศโดยรอบ ก็ถือว่าโอเคนะ

ศาลาด้านหน้า








บรรยากาศบนกิ่วลม
>>พระอาทิตย์กำลังจะตก อากาศก็เย็นขึ้นด้วยเช่นกัน พวกเราทำกับข้าวกันเอง ทำแบบง่ายๆ ทำไป ดูพระอาทิตย์ตกไปด้วย ฟินสุดๆ









พระอาทิตย์ตก ณ กิ่วลม
>>อาหารพร้อม ท้องพร้อม ทุกอย่างพร้อม



ขอลาค่ำคืนนี้ไปด้วยอาหารมือเย็นของพวกเรา
อยากมีเธอเป็นดังผ้าห่ม ที่คอยปกคลุมร่างกายฉัน
วันที่ 21 มกราคม 2560
>>ตื่นตี 3.30 น. เพื่อเตรียมตัวเดินขึ้นยอดดอยโดยนัดหมายพร้อมกันที่หน้าที่ศูนย์บริการนักเที่ยวตอนตี 4 ซึ่งในการเดินขึ้นยอดดอยต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง ไม่สามารถเดินขึ้นไปกันเองได้ โดยมีค่าบริการนำทาง 300 บาท ต่อเจ้าหน้าที่ 1 คน / 1 กลุ่มคณะไม่เกิน 10 คน แต่รอบที่พวกเราไปกันถือว่าน่าจะไม่เยอะมากเดินไปพร้อมกันเป็นกลุ่มใหญ่ โดยมีเจ้าหน้าที่นำทาง 3 คน คิดว่าบริการคนละ 50 บาท
>>การเดินเท้าสู่ยอดดอยผ้าห่มปก จากจุดกิ่วลม (จุดกางเต็นท์พักแรม) ใช้เวลาในการเดินเฉลี่ยประมาณ 2 ชั่วโมง บนระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร ถึงยอดดอยตอนตี 5 ครึ่ง ด้วยอุณหภูมิความหนาวที่ 4 องศา บอกเลยว่าตอนเดินขึ้นใส่ไปเยอะก็ร้อนแถมต้องถอดเสื้อหิ้วหนัก ลำบากอีก แต่ถ้าไม่ใส่อะไรที่ช่วยปกป้องความหนาวไปเลย คุณจะชาไปทั้งตัว และถือว่าคนผู้นั้น โคตรสตรองอะ! ขนาดจัดเต็มยอมแบกเสื้อขึ้นยังหนาว มือชา เท้าชา หน้าชาไปหมด เพราะฉะนั้นใส่ๆ ไปเถอะหนาวไม่หนาวว่ากันอีกที ดีกว่าไม่มีอะไรใส่



พระอาทิตย์ขึ้น ณ ยอดดอยผ้าห่มปก
"ดอยผ้าห่มปก" มีความสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย ด้วยความสูง 2,285 เมตรจากระดับน้ำทะเลทำให้ดอยผ้าห่มปกมีอากาศหนาวเย็นท่ามกลางเมฆที่ปกคลุมตลอดทั้งปี มีอุณหภูมิเฉลี่ย 14-16 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอุณหภูมิต่ำสุดในช่วงฤดูหนาวประมาณ 2 องศาเซลเซียส ยอดดอยมีสภาพเป็นทุ่งโล่ง ทำให้เห็นทิวทัศน์ได้รอบ 360 องศา และสามารถมองเห็นยอดดอยอ่างขาง และดอยหลวงเชียงดาว อยู่ลับๆ ทางด้านทิศใต้ได้อีกด้วย
เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยผ้าห่มปก มี 8 จุด ด้วยกัน
จุดที่ 1 กล้วยไม้ จุดที่ 2 ปาด จุดที่ 3 หาญช้างร้อง จุดที่ 4 ต้มไม้ใหญ่ใส่เสื้อ จุดที่ 5 บังเกอร์ชมวิว จุดที่ 6 ป่าดิบเขา จุดที่ 7 เทียนคำ จุดที่ 8 ชมพูพิมพ์ใจ


















>>ลงจากยอดดอยตอน 8 โมง ถึงจุดกางเต็นท์ตอน 9 โมง กลุ่มของพวกเราที่ขึ้นรถมาคันเดียวกันนัดรถให้มารับตอน 10 โมง เพื่อกลับไปอาบน้ำกันที่อุทยานก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ไม่สามารถอาบน้ำบนดอยได้อากาศเย็นกว่าที่อุทยานเยอะ พวกเราเลือกลงมาอาบน้ำกันที่อุทยาน ก่อนเดินทางไปขึ้นรถโดยสารประจำทางเที่ยว 13.00 น. เพื่อไปถึงตัวเมืองเชียงใหม่ไม่ให้เย็นมาก ก็ถึงกันตอน 16.15 น. ยังพอมีเวลาให้ได้ไปเที่ยวย่านนิมมาน เพื่อหาของกินอร่อยๆ แถวย่านซอย 3 กับ ซอย 5 ก่อนขึ้นกลับกรุงเทพฯ








แล้วจะกลับมารีวิวต่อพรุ่งนี้นะจ๊ะ





