
พากายไปแนบชิดหมอก ที่ทุ่งแสลงหลวง
อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง(บ้านหนองแม่นา) อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ จ.
Panutchakorn Jirakashapornหนาวแล้วหนาวอีกกันต่อเนื่อง สถานที่เที่ยวตามดอยตามภู ก็พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ แต่ถ้าเบื่อเที่ยวภูขึ้นดอยแล้วละก็ ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปเข้าป่าหน้าหนาว กางเต้นท์ นอนชมทะเลหมอกบ้างดีกว่า ดังนั้นเราจึงวางแผนท่องเที่ยวไปชมทุ่งแสลงหลวงกัน แน่นอนว่าจะได้เจอความเงียบสงบแตกต่างจากดอยที่คนเห่กันไปเยอะมาก และยิ่งถ้ามีโอกาสได้ไปช่วงวันธรรมดา ที่นี่จะเงียบอากาศดีเหมาะแก่การพักผ่อนจริงๆ ทำให้เราได้ศึกษาและเข้าใจธรรมชาติมากขึ้นด้วย จริงๆแล้ว อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงนั้นมีทางเข้าได้ 5 จุดซึ่งทุกจุดมีที่พัก มีที่กางเต๊นท์คล้ายๆกัน ได้แก่ สำนักงานอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (บ.เข็กน้อย) , หน่วยพิทักษ์ฯ สล.๔ (รักไทย) , หน่วยพิทักษ์ สล. ๕(วังแดง) ,หน่วยพิทักษ์ สล.๖(บ้านมุง) และหน่วยพิทักษ์ สล.๘ (บ้านหนองแม่นา) ที่สุดท้ายนี่แหละเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากที่สุด ไฮไลต์ของที่นี่คือ ทุ่งหญ้าสะวันนาและป่าสนที่สวยงาม


อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่ เป็นอันดับ 3 ของประเทศ ครอบคลุม อ.วังทอง อ.นครไทย อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก และ ใน อ.เขาค้อ อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ส่วนชื่อที่มาของทุ่งแสลงหลวงนั้น มาจากพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่งในทุ่งหญ้าแห่งนี้ คือ ต้นแสลงใจ ซึ่งเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ในสมัยก่อนมีต้นแสลงใจขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ประกอบกับพื้นที่เป็นเนินสูงๆ ต่ำๆ มีป่าหลายชนิด สัตว์ป่าชุกชุม จึงได้ตั้งพื้นที่แห่งนี้ให้ชื่อว่า "ทุ่งแสลงหลวง" ลักษณะภูมิประเทศของอุทยานฯ เป็นภูเขาคล้ายหลังเต่า ประกอบด้วยเทือกเขาหินปูนทอดเป็นแนวยาวมีจุดสูงสุดคือ บริเวณเขาแค เป็นต้นน้ำลำธารหลายสาย ส่วนพันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ไม้สนสองใบ มะม่วงป่า ประดู่ และทุ่งหญ้าที่เป็นพื้นที่โล่งกว้างใหญ่มีสนและไม้ดอกขึ้นสลับกันอยู่ อากาศหนาวเย็นตลอดปี ยิ่งในช่วงฤดูฝนจะมีทะเลหมอกในตอนเช้าด้วย เหมาะกับการท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่งครับ
ทุ่งแสลงหลวงมีทางเข้าหลัก 2 ทาง คือทางเดินทางท่องเที่ยวใน อ.เขาค้อ สามารถเข้าทางที่ทำการอุทยานสาขาย่อย ตำบลหนองแม่นา ก่อนถึงทางเข้าแก่งบางระจันประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วนทางเข้าอีกทางหนึ่งเป็นทางเข้าของที่ทำการอุทยานด้านถนนสาย พิษณุโลก-หล่มสักทางหลวงหมายเลข 12 หลักกิโลเมตรที่ 80ครับ ระหว่างทางนั้นก็มีผ่านถนนคดเคี้ยว ขึ้นเขาลงเขามาบ้างเป็นบางช่วง แนะนำว่าก่อนขึ้นเขาให้เติมน้ำมันเต็มถังและเช็คสมรรถภาพของรถให้พร้อมลุยก่อนเลย ** สถานที่ท่องเที่ยวบางจุดในอุทยานจำเป็นต้องเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น** แต่ถ้าหากนำรถชนิดอื่นมาสามารถติดต่อรถของเจ้าหน้าที่ได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวครับ


สถานที่น่าสนใจในเขตอุทยาน ได้แก่ 1. ทุ่งแสลงหลวง เป็นทุ่งหญ้าแบบสะวันนาและทุ่งหญ้าสลับกับป่าสนสองใบ มองเห็นเป็นพื้นที่โล่งกว้างใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 10 ตารางกิโลเมตร ระหว่างทางอาจพบกวางและเนื้อทรายออกมาเล็มหญ้าอยู่บ้าง แต่สัตว์ชนิดอื่นแทบไม่เห็นอาจจะหลบอยู่ในป่าลึก ที่นี่จะพบพันธุ์ไม้ดอกมากมาย จึงถือเป็นทุ่งหญ้าสะวันนาที่สวยงามที่สุด






2. ทุ่งนางพญา อยู่ทางทิศใต้ของที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ประมาณ 14 กิโลเมตร เป็นทุ่งหญ้าที่แวดล้อมด้วยป่าสนสองใบสลับกับป่าดิบแล้งและป่าเต็งรัง หากมาในช่วงเช้าก่อน 10 โมง จะได้พบความความงามของแสงแดดที่พาดผ่านบริเวณป่าสนงดงามมาก บริเวณป่าสนนี้มีพื้นที่กางเต็นท์พักแรม และเป็นเส้นทางขี่จักรยานที่มีสภาพธรรมชาติดีที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย




3. แก่งวังน้ำเย็น ห่างจากที่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ หนองแม่นา ประมาณ 7 กิโลเมตร เส้นทางเดียวกับทุ่งโนนสน และแยกเข้าไปอีก 500 เมตร แก่งวังน้ำเย็น เป็นแก่งหินขนาดใหญ่ยาวหลายร้อยเมตร ในระหว่างแก่งแต่ละแก่งเป็นวังน้ำลึกขนาดใหญ่ มีความหลากหลายของพืชพรรณไม้ใหญ่ที่พื้นป่าก็มีพรรณไม้แปลกตาขึ้นอยู่มากมาย เช่น เฟิร์น และบอนต่าง ๆ และที่นี่ยังเป็นแหล่งน้ำให้สัตว์น้อยใหญ่มาทานด้วย
4. ทุ่งโนนสน เป็นทุ่งหญ้าแบบสะวันนา สลับกับป่าสนเขา ตั้งอยู่ใจกลางอุทยานฯ บนยอดเขาโคกสน ทุ่งนี้เหมาะแก่การเดินป่าและค้างแรมในป่า ซึ่งห่างจากที่ทำการอุทยานฯ หนองแม่นาประมาณ 31 กิโลเมตร โดยจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปได้ในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนของทุกปีเท่านั้น และจำเป็นต้องมีเจ้าหน้ที่นำทาง หากไปเดินเส้นทางนี้จะพบดอกไม้หลายชนิดผลัดใบ เช่น ดอกดุสิตา เอื้องม้าวิ่ง กระดุมเงิน ยี่โถปีนัง หม้อข้าวหม้อแกงลิง เป็นต้น