
ทริปนี้พี่ขอแว๊น!! กับสถานที่เที่ยวยอดฮิต ณ “สามร้อยยอด”
อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด (Khao Sam Roi Yot National Park) จ.ประจวบคีรีขันธ์
Namee Be Bearทริปนี้พี่ขอแว๊น!! กับเขา “สามร้อยยอด”
ทริปนี้เป็นทริปแรกของการขับมอไซค์เที่ยวกันเอง #สไตล์สายดาร์กสายลุย พวกเราเหนื่อยไม่เคยถอย ขอแค่ให้มีแรง มีเงินในกระเป๋าได้ออกเที่ยวเป็นลุยทุกที่ที่อยากไป
แผนเที่ยวคือ นั่งรถตู้จากหมอชิตไปปราณบุรี จุดมุ่งหมายอยู่ที่ “สามร้อยยอด” ไปเที่ยวกันแบบ 2 วัน 1 เพราะที่นี่มีที่เที่ยวให้เลือกไปเยอะ แต่ว่าพวกเรามีสถานที่ในดวงใจที่จะไปกันอยู่แล้ว คือ “บึงบัว” หรือ“ทุ่งสามร้อยยอด” “ถ้ำพระยานคร” และ “จุดชมวิวเขาแดง” ทั้ง 3 สถานที่นี้คือเป้าหมายของพวกเรา
ส่วนสถานที่พักเหรอ! ก็ใช้วิธีค้นหาจากอินเทอร์เน็ต นั่งอ่านรีวิวจากคนที่แนะนำต่างๆ เน้นราคาไม่แพง ไม่ต้องหรูหรามากเกินไป และต้องอยู่ใกล้จุดสถานที่เที่ยวที่จะไป และที่พักสไตล์บ้านๆ แต่แอบแฝงความไม่ธรรมดา ไว้ข้างในนั้นคือ “บ้านน้ามาลัย” เป็นบ้านที่เห็นบรรยากาศแล้วใช่เลย ก็รีบโทรจอง (กลัวเต็ม) โชคดีมีห้องพักว่างอยู่ ราคาห้องพักได้ 1,000 บาท + เตียงเสริม 400 บาท (นอนห้องเดียวกัน 3 คน)
“บ้านน้ามาลัย” สไตล์ที่พักไม่เหมือนรีสอร์ท และก็ไม่เหมือนโรงแรม แต่ความรู้สึกเหมือนมาเที่ยวบ้านญาติผู้ใหญ่ สภาพแวดล้อมโดยรอบภายในรั้วบ้านมันเจ๋งมาก เหมือนเป็นบ้านที่ชอบหรือรักการของสะสมเก่า ซึ่งของทุกชิ้นส่วนใหญ่อิมพอร์ทมากจากต่างประเทศทั้งนั้น เพราะเจ้าชอบไปเที่ยวต่างประเทศและชอบสะสมของเก่า และที่สำคัญเข้าบ้านไปจะได้ยินเสียงเพลงสากลประมาณยุค 70 - 80 ได้ เปิดบรรเลงตอนรับแขกให้ได้ฟังกันไปทั้งวัน แต่ที่นี่สามารถรับนักท่องเที่ยวได้ไม่มากนัก น่าจะไม่เกิน 70-80 คนได้
ส่วนเจ้าของบ้านเหรอ ชื่อน้ามาลัยค่ะ เป็นคนออกแนวสไตล์ coolๆ chicๆ น้าเป็นผู้หญิงมีสไตล์นะ แต่กลับใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย บ้านๆ ติดดิน ส่วนการต้อนรับเป็นกันเองมาก ถึงมากที่สุด++
พวกเราไปเที่ยวแบบไม่มีรถ การเข้าที่พักก็จะลำบากหน่อยๆ เพราะต้องเหมารถสองแถวเข้าไป ซึ่งประมาณ 500 บาทขึ้น (แพงสำหรับพวกเรา) พวกเราจึงใช้บริการรถน้ามาลัย รอให้น้าออกมารับที่สี่แยกไฟแดงปราณบุรี (จากสี่แยกปราณบุรี-บ้านน้ามาลัย ประมาณ 30 กิโลได้) ทุกวันน้ามาลัยจะต้องออกมาซื้อของใช้ อาหาร พวกเราก็ติดรถน้าไปช่วยหิ้วของ ไปแวะกินข้าวเที่ยงข้างทางด้วยกัน (บอกแล้วเหมือนมาเที่ยวหาญาติ) ไปด้วยทุกที่ที่น้าแวะ ก่อนที่จะได้เข้าที่พัก 555++ แถมยังให้น้าช่วยติดต่อหาเช่ามอไซค์ให้พวกเราได้ใช้ไปแว๊นน!! กันอีกด้วย ทุกอย่างน้ามาลัยจัดเตรียมจัดหาให้หมด ขอบคุณคร้า
มาดูบรรยากาศของบ้านกัน






ห้องน้ำส่วนกลาง




มุมกาแฟ


ห้องพักของพวกเรา โซนนี้จะใหม่หน่อย



สระว่ายน้ำ (เค็ม) อยู่แถวหน้าห้องพักเลย
ปล. มาพักที่นี่เมนูอาหารต้องสั่งเป็นรายวันนะคะว่าอยากทานอะไรก็แจ้งกับทางน้าได้เลย หรือว่ามีเมนูอะไรแนะนำน้าก็จะแจ้งให้ลูกบ้านทุกคนทราบค่ะ ที่บ้านน้ามีแค่น้า (เจ้าของบ้าน+แม่ครัว) และก็แม่บ้าน+แม่ครัว แค่ 1 คนเท่านั้น ส่วนช่วงเทศกาลก็จะมีมาช่วยเพิ่มอีก 1 คน
ที่ตั้ง : หาดสามร้อยยอด อช.สามร้อยยอด ตรงข้ามกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ ตัวบ้านพักอยู่ห่างจากชายหาดประมาณ 100 เมตร
โทรศัพท์ : 081 923 7553
ราคาห้อง : 1,000 / 1,000 - 3,000 / 3,000 - 5,000 / 5,000 - 7,500 (ขึ้นอยู่ว่าเลือกเป็นแบบบ้านหรือแบบห้อง) อย่างเช่น ห้องกระท่อม พักได้ 2 คน, เรือนเมษา พักได้ 4 คน, เรือนคุณยาย พักได้ 4-5 คน, เรือนคุณตา พักได้ 10 คน และห้องเจนิส มี 4 ห้อง พักได้ 20 คน
ราคาเช่ามอเตอร์ไซค์ : 250 บาท/วัน
สถานที่แรก : ออกจากบ้านไปเข้า “ถ้ำพระยานคร”
การเดินทางเที่ยวของพวกเราคือเช่ามอไซค์ขับแว๊นกันไป 3 คน วันหนึ่งเราขับมอไซค์เที่ยวกันเป็น 100 กว่ากิโล ไม่น่าเชื่อใช่มะ (บ้าไปแล้ว) เจอกันทุกสภาพอากาศ ร้อน ฝนตก หนาว ควันรถ ฝุ่น บอกเลยเหนื่อยสุดๆ แต่คุ้มค่าโคตรๆ
หยุดก่อน!! จะออกไปเที่ยวที่ไหนเรามาทำความรู้จักกับสถานที่นั้นกันก่อน
"สามร้อยยอด" หรือ "อุทยานแห่งชาติสามร้อยยอด" ตั้งอยู่ในเขตอำเภอกุยบุรี และอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตามตำนานของเทือก เขาสามร้อยยอด เล่ากันว่า พื้นที่แถบนี้เคยเป็นทะเลมีเกาะใหญ่น้อยอยู่มากมาย ในสมัยนั้นมีขบวนเรือ สำเภาจีน แล่นผ่านมา และประสบกับ ลมพายุ มรสุมจนเรืออับปางคนบนเรือที่รอดชีวิตได้ไปอาศัยอยู่ตามเกาะต่าง ๆ จำนวน 300 คนจึงเรียกว่า "เกาะสามร้อยรอด" ต่อมาเพี้ยน เป็น "เขาสามร้อยยอด" ลักษณะภูมิประเทศประกอบด้วยภูเขา หินปูนสลับซับซ้อน มีที่ราบน้ำท่วมถึงอยู่ริมชายฝั่งทะเล
ลักษณะภูมิอากาศ ในฤดูร้อน (ระหว่างเดือนมีนาคม – พฤษภาคม) ตั้งแต่ 23 - 32 องศาเซลเซียสช่วงที่ไประหว่างวันที่ 10 - 11 พฤษภาคม 60 ที่ผ่านมาคิดว่าอยู่ในช่วงหน้าฝนนะ ฝนตกทุกวันเลยจร้า ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นช่วงลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ในระยะเริ่มต้น #ฟ้าฝนชั่งเมตตาหยุดตกเปิดโอกาสให้ได้ออกเที่ยวกันบ้าง
++ ออกเดินทาง... ระหว่างบ้านน้ามาลัยไปที่นั้น อยู่ห่างกันประมาณ 8 กิโลกว่า ++ อย่ารอช้ารีบไปบ่ายโมงแล้วจ๊ะ


อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
การเดินทางไปถ้ำพระยานคร มีอยู่ 2 ทาง
- เดินทางโดยเดินเท้าตั้งแต่จุดเริ่มต้น คือ ทางเท้าตามเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเขาเทียนตรงจุดบริการจำหน่ายบัตรเข้าอุทยานแห่งชาติ ระยะทางประมาณ 530 เมตร เดินขึ้นลงเขา 2 ลูก จะมีทางเชื่อมระหว่างเขา คือ หาดแหลมศาลา
- เดินทางโดยการนั่งเรือไปยังหาดแหลมศาลา ทางเรือค่าบริการอัตราเหมาลำ 400 บาท / 8 คน / ไป – กลับในวันเดียวกัน ใช้เวลาประมาณ 10 นาที จากนั้นเดินเท้าขึ้นเขาอีกประมาณ 430 เมตร ซึ่งจะชันไปตามขั้นบันไดก็จะถึงทางลงถ้ำพระยานคร รวมระยะทางแล้วประมาณ 2 กิโลเมตร







เจอน้องค่างระหว่างทาง


ณ หาดแหลมศาลา
ที่นี่มีบริการบ้านพัก และบริการเต็นท์ให้เช่า ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติ (ทางทะเล) กรมป่าไม้ บางเขน กรุงเทพฯ โทร. 561-2919-20, 561-4294 ต่อ 746-7579-5734, 579-7223



จุดหยุดพักระหว่างทาง วิวสวยจ๊ะ




ถ้ำพระยานคร (Phraya Nakhon Cave)
ถ้ำพระยานคร ตั้งอยู่ที่บ้านบางปู ต.เขาแดง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ภายในถ้ำมี 3 คูหา มีหินงอกหินย้อยเป็นเชิงชั้นเหมือนม่าน บางส่วนก็ หยด ย้อยลงมา เป็นรูปร่างต่างๆ โดยสองคูหามี ปล่องด้านบนส่วนด้านล่างในถ้ำ เป็นป่าต้นไม้ค่อนข้างสูง ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5 ) มีพระราชประสงค์ใคร่จะเสด็จประพาส จึงให้นายช่างประจำราชสำนัก สร้างพลับพลาแบบจตุรมุขขนาดย่อมตั้งไว้บนเนินดินกลางถ้ำ พระองค์เสด็จประพาสเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2433 คราวเสด็จประพาสแหลมมลายูและพระราชทานนามพลับพลานี้ว่า “พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์”


#จุดไฮไลน์ของที่นี่ คือ ช่วงเวลาประมาณ 10 โมง จะมีแสงแดดสาดส่องลงมายัง “พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์” (เจ้าหน้าที่กล่าวไว้แต่พวกเราไปไม่ทัน) แต่พวกเราไปไม่ทันนะจ๊ะ
สถานที่ที่ 2 ไปชมแสงสุดท้ายที่ “บึงบัว”
บึงบัว อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ส่วนพวกเรานั้นขับมอไซค์เที่ยวกันอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของอุทยานเก็บสถานที่เที่ยวตามเป้าหมายต่างๆ ที่แรกก็คือ “ถ้ำพระยานคร” ซึ่งห่างจากที่พักประมาณ 8 กิโลกว่า และต้องขับย้อนกลับมาเพื่อออกไปถนนสายหลักเพชรเกษม ก่อนจะมุ่งตรงไป บึงบัว ซึ่งเป็นสถานที่สุดท้ายของวันที่จะไป
เส้นทางจากจุดที่พวกเราอยู่ ต้องขับมอไซค์ไปที่นั้นก็ประมาณเกือบ 47 กิโลได้ และที่บ้าไปกว่านั้นมันไม่ได้หวานหมูอย่างที่คิดว่าขับตรงไปก็ถึงทิศตะวันตกละ แต่มันอยู่กันคนละด้านเพราะมีเขาสามร้อยยอดมากั้นกลางนั้นละปัญหาที่ทำให้ต้องขับมอไซต์อ้อมไป-กลับเกือบ 90 กว่ากิโล แค่ไปสถานที่เดียวนะ และที่หนักไปกว่านั้นคือมันไปทางเดียวกันกับทางเข้าสถานีรถไฟสามร้อยยอดโดยเข้าทางซอยโรงเจ พูดง่ายๆ คือต้องขับออกไปวิ่งเส้นถนนหลัก ที่เต็มไปด้วยรถน้อยใหญ่บนท้องถนน แถมถนนอยู่ระหว่างทำทางอีกด้วย
#ถามว่าเคยคิดจะถอยไหมตอบเลยว่าไม่ ไป!!

ศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัว (Nature Study Center Bung Baw)
เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำประเภทหนึ่ง มีพื้นที่ราบลุ่มกว้างใหญ่ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีน้ำขังหรือท่วมถึงตลอดทั้งปี มีทั้งส่วนที่เป็นน้ำจืดและน้ำกร่อย เป็นแหล่งที่มีองค์ประกอบทางชีวภาพและกายภาพ เป็นเอกลักษณ์ของระบบซึ่งมีความหลากหลายชนิดของพืช สัตว์ และธาตุอาหาร ทุ่งสามร้อยยอดเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกนานาชนิด ทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพตามฤดูกาล นับเป็นแหล่งดูนกที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศ
บริเวณเชิงเขามีศูนย์ศึกษาธรรมชาติทุ่งสามร้อยยอด สะพานทางเดินศึกษาธรรมชาติ และสถานที่กางเต็นท์ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว


ไปเที่ยวบึงบัวช่วงนี้ ไม่เจอบัวเลยฮะ เพราะไปผิดช่วง



แสงเย็นสวยมาก บรรยากาศกำลังดีไม่ร้อน













อุ้ย! เที่ยวเสร็จรีบกลับด่วนทำน้ามาลัยเป็นห่วง พวกเราขับมอเตอร์ไซค์กลับมาถึงบ้านพักประมาณ 2 ทุ่มกว่า หิวข้าวมาก เจอฝีมือการทำกับข้าวน้ามาลัยเข้าไป กับข้าวมื้อดึกของวันนั้นทำพวกเรากินฟินมาก นั่งกินข้าวกันแบบชิลๆ เหมือนนั่งกินข้าวอยู่ที่บ้าน ไฟดับจร้าบรรยายกาศมาเต็มกินข้าวใต้แสงจันทร์ 555++

ขอปิดทริปวันนี้ด้วยอาหารมื้อค่ำแสนอร่อย
++ แล้วเจอกันต่อพรุ่งนี้ของวันที่ 2 ++
#ขับมอไซค์หนึ่งวันรวมกันแล้วร้อยกว่าโลเองก็แค่หน้าชาตูดชา #เที่ยวได้ทุกที่ถ้าชีวิตมันมีเป้าหมาย
สถานที่ที่ 3 มุ่งหน้าไปหาเขา
สวัสดีเช้าวันหยุด! ของวันที่ 2 วันนี้จะพาไปเที่ยวชมบรรยากาศ ณ “จุดชมวิวเขาแดง” ผ่านภาพถ่ายกันต่อนะจ๊ะ สถานที่สุดท้ายของทริปเป็นวันที่ฟ้าฝนไม่ค่อยเป็นใจเท่าไร ฝนตกตั้งแต่ช่วงกลางคืนถึงเช้ามืด มีความกังวนว่าจะอดขึ้นเล็กน้อย เราจึงเลือกออกเที่ยวสายเล็กน้อย เพื่อดูฟ้าฝนและรอให้พื้นดินบนเขาเริ่มแห้งอีกหน่อย
++ ระหว่างรอ ไปกินข้าวเช้ากัน ++



มุมนี้เลย "โต๊ะอาหารของพวกเรา"
++ ระหว่างรอให้พอมีแสงแดด รอให้เขาแห้ง 555++ เราต้องใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ++
ถ่ายรูปเล่นจ๊ะ มุมดีๆ ไม่ถ่ายเก็บไว้คงเสียดาย








++ ได้ฤกษ์ ได้เวลา ไปออกเที่ยวกันดีกว่า ++
จากบ้านน้ามาลัยไปเขาแดงประมาณ 10 กว่ากิโล (จำไม่ได้ว่าเท่าไรแต่ขับผ่านทางเข้า ถ้ำพระยานคร) ขับเลยจุดทางขึ้นเขาไปประมาณ 400 เมตร แวะไปซื้อบัตรขึ้นเขาที่ อช. กันก่อนนะจ๊ะ เส้นทางขึ้นเขาจะมีเจ้าหน้าที่ อช. รอตรวจบัตร และให้คำแนะนำในการขึ้นเขาค่ะ


ปล. ใครอยากเที่ยวต้องแวะไปซื้อบัตรสำหรับเที่ยวภายในอุทยานเสียก่อน หากซื้อบัตรจากจุดให้บริการที่อื่นไว้แล้วภายในหนึ่งวันสามารถใช้บัตรเดียวกันเที่ยวรอบอุทยานได้เลย ไม่ต้องเสียเงินซื้อบัตรเข้าใหม่ เที่ยวได้ทุกที่ทุกจุดท่องเที่ยวที่มีการดูแลโดยทางอุทยานแห่งชาติ




ระหว่างขึ้น ฮึๆ บอกเลยว่าลำบากใช้ได้ ระยะทางขึ้นอาจดูไม่ไกล แต่เพราะพื้นมันลื่นสาเหตุมาจากฝนตกหนักทั้งคืน ลักษณะของเส้นทางคือเป็นทางชันเพราะต้องขึ้นสู่ยอดเขา ส่วนพื้นเหรอเป็นพื้นดินกับหินล้วนๆ เลย เจอฝนตกเขาไปบอกเลยว่าเละ แต่ก็ยังสามารถขึ้นไปได้อยู่ และศัตรูสำคัญที่ต้องเจอในป่ากับบรรยากาศชื้นๆ นั้นก็คือ “ยุงป่าทะเล” อย่าขำกลับชื่อมันเพราะมันเป็นยุงที่มีพิษร้ายแรงที่สุดสำหรับคนที่แพ้ พิษร้ายกว่ายุงป่าทั่วๆ ไป เพราะที่นี่มันเป็นป่าติดทะเล มันบินมากัดมากินเลือดกันอย่างบ้าคลั่ง เหมือนกระหายเลือดมานานแสนนาน พอเจอคนเท่านั้นละแย่งกันบินเข้าหาเลย (น้องที่ไปด้วยกันแพ้พิษมัน ตุ่มผื่นแดงขึ้นทั้งขาเลย ไปหาหมอกินยารักษากว่าจะหายครึ่งเดือนจร้า)







จุดชมวิวเขาแดง (Khao Daeng View Point)
เขาแดง ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านเขาแดง เขตอุทยานแห่งชาติสามร้อยยอด จุดชมวิวนี้อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติโดยวิ่งตามถนนลาดยางเลยจุดทางขึ้นเขาไปประมาณ 400 เมตร
ในส่วนจุดชมวิวบนยอดเขาแดงสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 157 เมตร ระยะทางในการเดินขึ้นเขาประมาณ 320 เมตร ใช้เวลาในการเดินเท้าขึ้นไปประมาณ 30 นาที เวลาที่เหมาะแก่การขึ้นชมวิว คือ ช่วงเช้ามืด ประมาณ 05.30 น. เพราะจะสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือขอบทะเลบ้านเขาแดง รวมถึงชมทัศนียภาพรอบ ๆ บนยอดเขา




















ที่เห็นกันอยู่นั้นไม่ใช่หมอกลงนะ แต่ฝนกำลงจะมาหากันละ



ขอสาวความสุขกันหน่อยก่อนรีบลง
ด้วยเวลา และฝนกำลังจะมาทำให้พวกเรามีเวลาอยู่บนนั้นได้ประมาณ 50 นาที ต้องรีบลงด่วนๆ ก่อนฝนจะตก ลงมาถึงตีนเขาพอดีฝนก็ตกจร้าา ก็ติดฝนกันไปเกือบชั่วโมง ก่อนจะได้ออกแว๊นต่อเพื่อเตรียมตัวกลับภูมิลำเนา
++ ทางผ่านขากลับจากการลงเขาจะไม่แวะคงไม่ได้ เพราะเท้ายังไม่ได้สัมผัสกับพื้นทรายกันเลย++



บรรยากาศข้างทางคือดีมากอะ



หาดสามพระยา อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ไปทางทิศเหนือประมาณ 5 กิโลเมตร ชายหาดยาวประมาณ 2 กม. จากเชิงเขาสูงไปจดปากคลองเขาแดง เป็นหาดทรายที่เงียบสงบ และมีทิวสนที่ร่มรื่น เหมาะสำหรับคนที่รักความสงบมากางเต็นท์พักแรม หรือมาปิกนิกกัน
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด โทร. 0 3261 9078 – มีเต็นท์ให้เช่า ขนาด 2 คน ราคา 120 บาท/คืน ขนาด 3 คน ราคา 250 บาท/คืน ขนาด 5 คน ราคา 500 บาท/คืน ถ้านำเต็นท์มาเอง เสียค่าธรรมเนียมกางเต็นท์ 20 บาท/คืน – มีร้านอาหารให้บริการ 1 ร้าน เป็นร้านอาหารของทาง อช.
#เที่ยวให้มีความสุขและสุขกับสิ่งที่ทำ
ปล. พึ่งรู้ว่าการไปเที่ยวทริปนี้ทำให้น้ามาลัยเป็นห่วง หลังจากกลับมาสักพักก็มารู้ว่าพี่ที่ทำงานไปพักที่นั้นเช่นกัน เลยให้เขาลองถามว่าจำ เด็กแว๊น 3 คนได้มะ ปรากฏว่าน้าจำได้เพราะทำให้น้าเป็นห่วงทั้งวัน น้าบอกว่าให้หามอเตอร์ไซค์ให้แล้วก็หายไปกันเลยไม่บอกไม่กล่าว พวกเราต้องขอโทษน้ามาลัยด้วยนะคะที่ทำให้น้าต้องเป็นห่วงในความปลอดภัยของพวกเรา (น้าเป็นห่วงลูกบ้านทุกคนค่ะ ไม่ว่าใครก็ตามที่มาเข้าพัก น้าจะเป็นห่วงหมด)
สรุปค่าใช้จ่าย (รวม 3 คน)
ค่ารถตู้ จากหมอชิต-สี่แยกไฟแดงปราณบุรี (ไป-กลับ) 1,200 บาท (200 บาท/คน) ค่าที่พัก 1 คืน (+เตียงเสริม) 1,400 บาท ค่าอาหารรวมทุกมื้อ (จัดเต็ม) 1,500 บาท ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ 250 บาท/วัน
By : Namee Be Bear
ขออภัยหากมีข้อมูลส่วนใดผิดพลาดไป และก็ขอโทษด้วยหากทำให้เมื่อยนิ้วในการเลื่อนดู ขอฝากเพจน้องใหม่ของเจ้าของรีวิวด้วยนะจ๊ะ ถ้าชอบให้กดไลน์ ถ้าถูกใจช่วยกดแชร์
Fanpage : https://www.facebook.com/KanXengStudio/